VACHERON CONSTANTIN Overseas Self-Winding High Jewellery 35 mm

Vacheron Constantin เปิดศักราชใหม่ให้กับคอลเลกชัน Overseas ด้วยการเผยโฉม Overseas Self-Winding High Jewellery ขนาด 35 มิลลิเมตร เป็นครั้งแรก นี่คือรุ่นที่ประดับอัญมณีเต็มเรือนอย่างสมบูรณ์แบบ ถ่ายทอดจิตวิญญาณของเรือนเวลาสปอร์ตหรูในมิติที่เปล่งประกายยิ่งกว่าที่เคย

สองเวอร์ชันใหม่นี้รังสรรค์ขึ้นใน ไวท์โกลด์ 18K และพิงก์โกลด์ 18K 5N ตัวเรือนและสายโลหะประดับด้วยเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร และเจียระไนแบบบาแก็ตต์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอย่างวิจิตร พร้อมสายสำรองที่สามารถเปลี่ยนได้อีกสองเส้น ทั้งสายหนังอัลลิเกเตอร์ผิวเงาและสายยาง โดยมาพร้อมหัวเข็มขัดประดับเพชรที่ถอดเปลี่ยนได้เช่นกัน สะท้อนแนวคิดเรื่องความยืดหยุ่นซึ่งเป็นหัวใจของ Overseas อย่างแท้จริง

Overseas Self-Winding High Jewellery ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 1088/1 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของ Vacheron Constantin สำรองพลังงานได้นานราว 40 ชั่วโมง แสดงผลชั่วโมง นาที วินาทีตรงกลาง และช่องวันที่อย่างกลมกลืนในช่องหน้าปัด กลไกเดียวกับที่เปิดตัวพร้อม Overseas 35 มม. เมื่อปี 2023 เรือนเวลาที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “ทุกข้อมือที่รู้คุณค่า” ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ด้วยสัดส่วนที่เพรียวบาง สวมใส่สบาย แต่ยังคงรหัสดีไซน์และฟังก์ชันอันเป็นเอกลักษณ์ของ Overseas รุ่นขนาดใหญ่ไว้อย่างครบถ้วน

ศิลปะแห่งการประดับอัญมณี
ความเปล่งประกายที่เกิดจากความแม่นยำ
ศาสตร์แห่งการประดับอัญมณีเป็นหนึ่งในหัตถศิลป์หรือ métiers d’art ที่ Vacheron Constantin สั่งสมความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ยุคสมัยที่เรือนเวลาไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลาในกระเป๋าเสื้อ แต่ยังเป็นเครื่องประดับและแฟชั่นชิ้นสำคัญ

Overseas Self-Winding 35 mm High Jewellery ประดับเพชรรวมทั้งสิ้น 1,430 เม็ด น้ำหนักรวมราว 12.58 กะรัต ผสานสองรูปแบบการเจียระไนอย่างชาญฉลาด ความนิ่งสงบ สง่างามของเพชรเจียระไนทรงบาแก็ตต์ตัดกับประกายระยิบระยับหลายมิติของเพชรทรงเหลี่ยมเกสรได้อย่างมีชั้นเชิง

ขอบตัวเรือนที่ออกแบบตามแรงบันดาลใจจาก กางเขนมอลทีส สัญลักษณ์ประจำเมซง ถูกขับเน้นด้วยเพชรเจียระไนทรงบาแก็ตต์จำนวน 60 เม็ด น้ำหนักราว 2.28 กะรัต ที่ฝังด้วยเทคนิค Invisible Setting — หนึ่งในงานฝีมือที่ท้าทายที่สุดของช่างฝังอัญมณี เพราะต้องสร้างโครงรางทองคำบางเพียง 0.2–0.4 มิลลิเมตร ซ่อนอยู่ภายใต้เพชรทั้งหมด จากนั้นเจียระไนร่องรูปตัว V เล็กจิ๋วบนเพชรแต่ละเม็ดด้วยค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.02 มิลลิเมตร เพื่อให้เพชรเรียงตัวแนบสนิท ไร้ช่องว่าง ไร้โลหะปรากฏให้เห็น

ผลลัพธ์คือพื้นผิวที่ดูราวกับเพชรลอยอยู่เหนือทองคำอย่างไร้น้ำหนัก ตัดกับประกายระยับของเพชรทรงเหลี่ยมเกสรบนหน้าปัดและสายทำด้วยโกลด์ 18K ได้อย่างงดงาม

Interview with
Christian Selmoni
Style & Heritage Director แห่ง Vacheron Constantin
ในฐานะผู้ดูแลภาษาดีไซน์และมรดกทางประวัติศาสตร์ของเมซง Christian Selmoni คือบุคคลสำคัญที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ Vacheron Constantin เขาคือผู้เล่าเรื่องราวของเรือนเวลา ไม่เพียงผ่านรูปทรงและกลไก แต่ผ่านบริบททางวัฒนธรรม รสนิยม และวิวัฒนาการของการใช้ชีวิต

Vacheron Constantin มีประวัติศาสตร์ด้านนาฬิกาจิวเวลรี่อย่างไร?
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1755 Vacheron Constantin มีประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยด้านเรือนเวลาจิวเวลรี่ เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความเชี่ยวชาญ เมซงให้ความสำคัญกับทั้งกระแสความงาม เทคโนโลยี และบริบททางสังคมในแต่ละยุคเสมอ ความเชี่ยวชาญด้านนี้ช่วยหล่อหลอมสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้หญิง โดยคำนึงถึงรสนิยม ความปรารถนา และความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไป

ในคอลเลกชันส่วนตัวของเรา มีทั้งนาฬิกาจี้และนาฬิกาแบบ chatelaine จากยุค Art Nouveau ปลายศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงดีไซน์เรขาคณิตอันโดดเด่นในยุค Art Deco ช่วงทศวรรษ 1920–1930

ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา นักออกแบบของ Vacheron Constantin มองว่าอัญมณีคือ “ส่วนหนึ่งของการออกแบบ” ไม่ใช่เพียงองค์ประกอบตกแต่งบนขอบหรือขาเรือน และเพราะเราได้บ่มเพาะงานฝังอัญมณีในเวิร์กช็อปของเราเองมานานกว่าหนึ่งศตวรรษครึ่ง นักออกแบบและช่างฝังอัญมณีจึงสามารถทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด คิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการเฉลิมฉลองความงามของอัญมณีอยู่เสมอ

นาฬิกาที่ประดับเพชรทั้งเรือนเข้ากับคอลเลกชันสปอร์ตอย่าง Overseas ได้อย่างไร?
วัฒนธรรมไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกวันนี้เส้นแบ่งระหว่างความเป็นทางการและความลำลองเลือนรางลงอย่างชัดเจน สิ่งนี้เปิดโอกาสให้นักออกแบบในทุกแขนงได้ทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างความงามและการใช้งานใหม่อีกครั้ง

สำหรับ Vacheron Constantin นี่คือแรงบันดาลใจให้เรานำ savoir-faire ด้านการประดับอัญมณีมาใช้ในบริบทใหม่ Overseas Self-Winding 35 mm High Jewellery จึงเป็นภาพสะท้อนของเรือนเวลายุคใหม่อย่างแท้จริง ด้วยความอเนกประสงค์ที่เหนือกรอบนิยามเดิมๆ และพร้อมจะเคลื่อนไปกับทุกไลฟ์สไตล์อย่างไร้ข้อจำกัด