Superlative Chronometer เที่ยงตรงเหนือชั้นด้วยวิถีแห่ง Rolex

Last updated: 12 ก.ย. 2559  |  6586 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Superlative Chronometer เที่ยงตรงเหนือชั้นด้วยวิถีแห่ง Rolex

Superlative Chronometer
เที่ยงตรงเหนือชั้นด้วยวิถีแห่ง Rolex

 

Rolex ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงใส่ใจต่อความเที่ยงตรงของกลไกมาตั้งแต่อดีต คำว่า “Officially Certified Chronometer” ปรากฏบนหน้าปัดครั้งแรกในปลายยุค 1930 ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “Superlative Chronometer Officially Certified” ในยุค 1950 และยังคงใช้จนถึงทุกวันนี้ แสดงถึงการไขว่คว้าสู่ความแม่นยำชั้นเลิศของแบรนด์เป็นอย่างดี กลไก Rolex ต้องผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์จาก Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres หรือ COSC ก่อนติดตั้งเข้ากับตัวเรือน

  

 

สำหรับปี 2015 Rolex ยกระดับมาตรฐาน Superlative Chronometer ให้เข้มงวดขึ้น ใบรับรองจาก COSC เพียงใบเดียวไม่เพียงพอสำหรับมาตรฐานใหม่ของแบรนด์อีกต่อไป Rolex พัฒนาวิธีการและนำเครื่องมือทันสมัยมาใช้ เพื่อทดสอบนาฬิกาของตนและได้รับการรับรองว่าเป็น Superlative Chronometer ที่เหนือชั้นกว่า Chronometer ทั่วไป Rolex นำกลไกที่ผ่านการรับรองจาก COSC บรรจุในตัวเรือนแล้วเริ่มการทดสอบที่เข้มงวดดังนี้

 

 

  • หลังจากนำกลไกติดตั้งกับตัวเรือน นาฬิกาถูกทดสอบใน 7 ตำแหน่งนิ่ง พร้อมกับนำตัวเรือนสวมเข้ากับแขนหุ่นยนต์เพื่อจำลองสถานการณ์ใช้งานจริงบนข้อมือ ความคลาดเคลื่อนจากการทดสอบต้องไม่เกินกว่า -2/+2 วินาทีต่อวัน เข้มงวดกว่ามาตรฐาน -4/+6 วินาทีต่อวันของ COSC มาก
  • ทดสอบความสามารถกันน้ำของนาฬิกาด้วยถังอัดแรงดันน้ำชนิดพิเศษ สร้างแรงกดดันเพิ่ม 10% ของแรงดันความลึก 100 เมตรสำหรับนาฬิกา Rolex รุ่นปกติ และสร้างแรงกดดันเพิ่ม 25% ของแรงดันความลึกที่ปรากฏบนหน้าปัดในนาฬิกาดำน้ำความลึก 300 เมตร 1,220 เมตร และ 3,900 เมตร อีกทั้งทดสอบแรงกดดันด้วยอากาศเพื่อดูว่านาฬิกามีรูรั่วของลมด้วยหรือไม่
  • ทดสอบระบบไขลานอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะไม่ติดขัดหลังจากติดตั้งเข้าตัวเรือน
  • ทดสอบว่านาฬิกาสำรองพลังงานได้ถึงตามกำหนดได้หรือไม่
  • ทดสอบความสามารถกันสะเทือนของตัวเรือนที่ติดตั้งกลไกแล้วด้วยตำแหน่งการตกที่ต่างกันถึง 20 ตำแหน่ง พร้อมกับทดสอบแรงกระแทกด้วยอัตราเร่งที่ 5,000 G กระทำต่อตัวเรือนดังกล่าว


ไม่เพียงเท่านี้ สายนาฬิกาและตัวล็อคแบบ Oysterlock ต้องผ่านการทดสอบอย่างหนัก โดยผ่านการตกไม่ซ้ำแบบถึง 26 แบบ ตัวล็อคผ่านการเปิดและปิดกว่า 1 หมื่นครั้ง และแช่สายนาฬิกาพร้อมตัวล็อคลงในถังคลอรีนและถังน้ำเค็มปนทราย รับประกันว่าสามารถใช้งานได้แม้ในสภาวะทรหด มาตรฐานการทดสอบใหม่ยกระดับ Superlative Chronometer ของ Rolex ที่มีมานานแล้วให้เหนือชั้นกว่ามาตรฐานเดิมโดยมาพร้อมกับตรารับรองสีเขียว ซึ่งแทนที่ตรารับรองสีแดงเก่าไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้