BVLGARI

ปี 2018 Bulgari แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องประดับและเครื่องบอกเวลาชั้นสูงที่เต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งกรุงโรมที่ยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของการผลิตนาฬิกาผู้หญิงที่งดงามด้วยอัญมณีแสนสวย ด้วยผลงาน 5 รุ่นพิเศษของ LVCEA Tubogas ทั้งยังสร้างสถิติโลกครั้งใหม่ให้กับนาฬิกาสำหรับผู้ชายในรุ่น Octo Finissimo Tourbillon Automatic กลไกอัตโนมัติบางที่สุดในโลกเพียง 3.95 มิลลิเมตร และผลงานใหม่ของปีนี้ที่สาวๆ จะต้องหลงรัก



Bulgari Octo Finissimo Tourbillon Automatic

Bulgari ท้าทายขีดจำกัดของการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนบางอีกครั้งในปีนี้ ด้วยผลงานใหม่ Bulgari Octo Finissimo Tourbillon Automatic นาฬิกากลไกอัตโนมัติพร้อมตูร์บิยองที่บางที่สุดในโลก มาพร้อมการพัฒนานวัตกรรมกลไกชุดใหม่ คาลิเบอร์ VBL 288 สร้างความบางที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนใน ทำให้ผลงานเรือนนี้กลายเป็นรุ่น 4 ของการทำสถิติโลก เผยให้เห็นการทำงานของกลไกอย่างเต็มตาบนหน้าปัดแบบสเกเลตัน

กลไกอัตโนมัติชุดนี้มาพร้อมกลไกฟลายอิ้งตูร์บิยองที่ติดตั้งระบบตลับลูกปืนเพื่อลดความหนาของกลไก ทำให้กลไกชุดนี้บางเพียง 1.95 มิลลิเมตร เมื่อรวมตัวเรือนด้วยก็หนาเพียง 3.95 มิลลิเมตร โดยทีมพัฒนากลไกของ Bulgari พัฒนาโรเตอร์ขึ้นลานในดีไซน์ใหม่แทนรูปแบบพัดสู่รูปทรงวงแหวนบางเฉียบ ขึ้นลานด้วยน้ำหนักที่แตกต่างของวัสดุที่ผลิตจากทองขาว 18k และอลูมิเนียม เมื่อสวมบนข้อมือน้ำหนักของวัสดุที่แตกต่างกันจะทำให้วงแหวนเคลื่อนไหวเพื่อสร้างพลังลาน จึงไม่เพิ่มความหนาให้กับกลไก อีกทั้งกลไกชุดนี้ยังสำรองพลังงานได้นานถึง 52 ชั่วโมงแม้จะบางเฉียบ

อีกทั้งดีไซน์ตัวเรือนของ Bulgari Octo Finissimo Tourbillon Automatic เปี่ยมเอกลักษณ์ของการผสานทรงกลมกับ 8 เหลี่ยม ยิ่งทำให้นาฬิกาดูบางยิ่งขึ้น ตัวเรือนแกร่งด้วยไทเทเนียมปัดด้าน ขนาด 42.0 มิลลิเมตร ฝาหลังเจาะช่องเผยให้เห็นเฉพาะส่วนกลไกฟลายอิ้งตูร์บิยองในรูปทรงที่คล้ายกับประตูทางเข้าของบูติกที่ Via Condotti แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโรม อิตาลี กันน้ำได้ 30 เมตา ประกอบสายไทเทเนียมปัดด้านสไตล์เดียวกับตัวเรือน พร้อมตัวพับล็อก 3 ชั้นแน่นหนา ผลงานนาฬิกากลไกอัตโนมัติตูร์บิยองเรือนบางที่สุดในโลกรุ่นนี้ผลิตจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น

Bulgari Octo Finissimo Tourbillon Automatic

Case: Sandblasted titanium, 42 mm

Dial: Skeleton

Movement: automatic with tourbillon, caliber BVL 288, 52-hour power reserve

Strap: Sandblasted titanium

Limited Edition: 50 pieces

Bulgari Octo Finissimo Automatic Sandblasted

หากที่สุดแห่งความหรูหราคือความบางพิเศษ Bulgari ได้นำความหรูหรานี้มาสะท้อนผ่านมุมมองของความเป็นแบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงสู่ผลงานอันเป็นที่สุดแห่งความร่วมสมัยที่งามสง่า ผ่านผลงานรุ่น Octo Finissimo Automatic Sandblasted 2 รุ่นใหม่ ที่มาเติมเต็มคอลเลคชั่นนาฬิกากลไกอัตโนมัติบางที่สุดในโลกในตัวเรือนไทเทเนียมเมื่อปีที่แล้ว ด้วยความงามที่สะกดทุกสายตาของตัวเรือนทองคำสีกุหลาบและสเตนเลสสตีลผสานเทคนิคการขัดแต่งพื้นผิวแบบปัดด้าน ให้โลหะมีสีสว่างสดใสและคงทนยาวนานยิ่งกว่า

Octo Finissimo Automatic Sandblasted คงเอกลักษณ์ของรูปทรงตัวเรือนแบบ Octo ผสานรูปทรงกลมและ 8 เหลี่ยมได้อย่างลงตัว ในขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตัวเรือน 40.0 มิลลิเมตร ตัวเรือนและสายที่ผลิตจากทองคำสีกุหลาบ 18k หรือสเตนเลสสตีลเคลือบโรเดียม พร้อมเทคนิคการขัดแต่งในแบบปัดด้านคล้ายการพ่นทรายละเอียด ที่ไม่เพียงทำให้สีของโลหะสว่างขึ้นเท่านั้น หากยังลดการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบ รุ่นตัวเรือนทองคำสีกุหลาบคงความอบอุ่นในโทนสีสว่างขึ้น แต่ไม่ส่องประกายแวววาวเหมือนเนื้อทองปกติ ดูทันสมัยและงามสง่ายิ่งกว่า ขณะที่รุ่นสเตนเลสสตีลเคลือบโรเดียมปัดด้านก็ให้สีขาวสว่างกว่าเนื้อสตีลปกติ ยิ่งนำมาเทียบกับรุ่นตัวเรือนไทเทเนียมก็ยิ่งเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติบางที่สุดในโลก คาลิเบอร์ BVL 138 Finissimo บางเพียง 2.23 มิลลิเมตร รวมกับตัวเรือนแล้วก็หนาเพียง 5.15 มิลลิเมตร กลไกชุดนี้ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานได้นาน 60 ชั่วโมง ขึ้นลานด้วยไมโครโรเตอร์แพลทินัม สะพานจักรและแท่นเครื่องได้รับการขัดแต่งด้วยลาย Côtes de Genève ลายริ้วดั้งเดิมสุดประณีต

Bulgari Octo Finissimo Automatic Sandblasted

Case: Sandblasted 18k rose gold or sandblasted rhodium-plated steel, 40.0 mm

Dial: 18k rose gold or steel

Movement: Automatic caliber BVL 138 Finissimo, 60-hour power reserve

Bracelet/Strap: Sandblasted 18kt rose gold, sandblasted steel bracelet with folding clasp or integrated black alligator leather

Lvcea Tubogas

Bulgari Lvcea Tubogas เป็นหนึ่งในผลงานร่วมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของการประดิษฐ์นาฬิกาประดับเพชร นับจากผลงานเรือนแรกของ Bulgari ที่เปิดตัวในปี 1918 โดยได้รับการรังสรรค์ใหม่ถึง 5 รุ่น แตกต่างกันที่ขนาดตัวเรือน วัสดุและกลไกภายใน รุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 28.0 มิลลิเมตร จับคู่กับหน้าปัดเคลือบเงาดำดุจต้องมนต์ขลัง ประดับเพชร 12 เม็ดงามแทนค่าชั่วโมง เม็ดมะยมประดับพลอยสีชมพูเจียระไนทรงหลังเบี้ยและเพชรเหลี่ยมเกสร ประกอบสาย Tubogas ทำงานด้วยกลไกควอตซ์ คาลิเบอร์ B046 ส่วนรุ่นสตีลในขนาด 33.0 มิลลิเมตร ประดับเพชร 11 เม็ดบนพื้นหน้าปัด เว้นช่องหน้าต่างแสดงวันที่ที่ 3 นาฬิกา ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ B77

อีกทางเลือกกับตัวเรือนทั้งสองขนาดคือ 28.0 และ 33.0 มิลลิเมตรในแบบสองกษัตริย์ ตัวเรือนสตีลจับคู่กับขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมทองคำสีกุหลาบ 18k ส่วนสาย Tubogas รังสรรค์ด้วยสตีลและทองคำสีกุหลาบเช่นกัน และที่สุดแห่งความงามกับตัวเรือน ขอบตัวเรือนและสาย Tubogas ผลิตจากทองคำสีกุหลาบ 18k ประดับเพชรน้ำงามรอบขอบตัวเรือน น้ำหนักรวม 1.2 กะรัต จับคู่กับหน้าปัดเปลือกหอยมุกประดับเพชร 11 เม็ด และอีก 22 เม็ดทอประกายบนข้อต่อตัวเรือน

Bulgari Lvcea Tubogas

Case: 18k rose gold or 18k rose gold and stainless steel or stainless steel, 28.0 or 33.0 mm, with or without diamonds

Dial: White mother-of-pearl or black lacquered dial, set with diamonds

Movement: Automatic calibre B77 or Quartz calibre B046

Strap: 18k rose gold or 18k rose gold and stainless steel or stainless steel

Lvcea Skeleton

นอกเหนือจากความงามเพื่อการฉลองแล้ว Bulgari ยังพัฒนางานออกแบบใหม่ให้กับ Lvcea Skeleton เพื่อผู้หญิงที่หลงใหลในความซับซ้อนของกลไกจักรกล เผยให้เห็นการทำงานของชิ้นส่วนกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ BVL 191SK เครื่องอินเฮาส์ที่ได้รับการขัดแต่งอย่างประณีต ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานได้นาน 42 ชั่วโมง และเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์นาฬิกาผู้หญิง กับการนำตัวอักษรของตราสัญลักษณ์ของแบรนด์มาจัดเรียงผสานไว้ในดีไซน์อย่างลงตัว

Bulgari Lvcea Skeleton มาพร้อมกันถึง 3 รุ่นใหม่ มีให้เลือกทั้งตัวเรือนสตีลและทองคำสีกุหลาบ 18k ในขนาดตัวเรือน 33.0 มิลลิเมตร เม็ดมะยมประดับพลอยสีชมพูและเพชรเจียระไนทรงเหลี่ยมเกสร ขอบตัวเรือนมีให้เลือกทั้งแบบประดับเพชร 44 เม็ด น้ำหนัก 1.2 กะรัต หรือเรียบง่ายปราศจากเพชร พื้นหน้าปัดกึ่งเปลือยเด่นด้วยโลโก้ของแบรนด์ BVLGARI เคลือบทองคำสีกุหลาบ มีทั้งแบบเรียบง่ายหรือหรูด้วยเพชรน้ำงามประดับ 117 เม็ด เช่นเดียวกับชุดเข็มที่มีทั้งเคลือบเงาสีแดงหรือเคลือบทองคำสีกุหลาบ 18k รวมทั้งสายที่เลือกได้ว่าจะจับคู่กับสายหนังจระเข้สีแดงสุดสวยหรือสายสตีลสลับทองคำสีกุหลาบ 18k ประดับเพชรบนข้อต่อตัวเรือน 22 เม็ด น้ำหนัก 0.4 กะรัต หรือไม่ประดับเพชรในรุ่นตัวเรือนสตีล

Bulgari Lvcea Skeleton

Case: 18k rose gold or 18k rose gold and stainless steel or stainless steel, 33.0 mm

Dial: Openworked dial featuring the BVLGARI logo with rose gold plated letter, with or without diamonds

Movement: In-house Automatic movement calibre BVL 191SK, 42-hour power reserve

Strap: Red alligator strap or 18k rose gold and steel or 18k rose gold



Bulgari Serpenti Tubogas Trigold

ปีนี้ Bulgari พัฒนาผลงานในคอลเลคชั่นนี้ให้หรูหราและน่าประทับใจยิ่งกว่าด้วยการรวมทองคำ 3 แบบที่ประสานสู่ความงามร่วมสมัย ที่เคยรังสรรค์เมื่อทศวรรษ 1960s และหวนกลับมาอีกครั้งไว้ในผลงานที่ประดุจราชินีแห่งเรือนทองของ Serpenti Tubogas Trigold จากส่วนตัวเรือนและสายช่วงแรกทำด้วยทองคำสีกุหลาบ 18k ต่อเนื่องด้วยทองคำขาว 18k และเชื่อมกับทองคำ 18k ความยากอยู่ที่การสร้างขดวงของแถบทอง 3 ชนิดที่มีสีสันแตกต่างกันให้พันรอบแกนและกลมกลืนเป็นเส้นเดียวกัน โดยปราศจากรอยต่อของทองแต่ละประเภท จึงงดงามและสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

Bulgari Serpenti Tubogas อวดโฉมในตัวเรือนขนาด 35.0 มิลลิเมตร ประดับเพชรน้ำงามเจียระไนเหลี่ยมเกสรบนขอตัวเรือน เม็ดมะยมประดับพลอย Rubellite หน้าปัดดำแกะลายกิโยเช่ ทำงานด้วยกลไกควอตซ์

Bulgari Serpenti Tubogas Trigold

Case: 18k rose gold, 35.0 mm

Dial: Black with gilloche

Movement: Quartz

Strap: 18k rose gold, white gold and yellow gold

Bulgari Divas’ Dream Phoenix Tourbillon

Divas’ Dream Phoenix Tourbillon หนึ่งในผลงานอันเป็นที่สุดของการผสานกลไกจักรกลซับซ้อนร่วมกับงานศิลปะอันเป็นเลิศ พร้อมแรงบันดาลใจจากนกฟินิกซ์ นกในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังของการเกิดใหม่จากไฟที่ลุกโหม และเป็นสัญลักษณ์ของการมีชีวิตอมตะ ภาพนกฟินิกซ์สีเพลิงที่ได้แนวคิดมาจากลวดลายประดับโมเสกของ Baths of Caracalla โรงอาบน้ำหรูหราที่สุดของกรุงโรมในสมัยโรมันโบราณ ที่นำมาตีความใหม่ในแบบศิลปะร่วมสมัย ฉายความหรูหราตระการตาบนพื้นหน้าปัดในแบบเซมิสเกเลตัน เมื่อนกฟินิกซ์โอบล้อมกลไกตูร์บิยองที่ช่วยชดเชยค่าที่เกิดจากการกระทำของแรงโน้มถ่วงโลกให้กับกลไกไขลาน คาลิเบอร์ BVL 208 จึงทำให้กลไกแสดงค่าได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำสูง

นกฟินิกซ์รังสรรค์จากโครงสร้างรูปทรงเรขาคณิตที่ได้รับการแต่งแต้มสีสันด้วยมือโดยช่างผู้เปี่ยมความชำนาญ ใช้เวลานานกว่า 3 วันเพื่อให้ได้สีที่สดใสและมีชีวิตชีวา ไล่โทนตั้งแต่สีแดง ส้มไปจนถึงเหลือง แซมด้วยสีฟ้าแสนสวย ไม่เฉพาะนกฟินิกซ์เท่านั้น ยังรวมถึงเปลวเพลิงที่ลุกโชนตามตำนานแห่งการเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของนกฟินิกซ์ที่เป็นอมตะ เผยความงามในตัวเรือนทองคำสีกุหลาบ 18k ขนาด 37.0 มิลลิเมตร ดีไซน์ข้อต่อทรงพัดที่ดูราวกับรอยยิ้มแห่งเวลา ประดับเพชรน้ำงามบนขอบและข้อต่อตัวเรือน 76 เม็ด น้ำหนัก 1.76 กะรัต เม็ดมะยมประดับด้วยพลอยสีชมพูเจียระไนทรงหลังเบี้ย ประกอบสายหนังจระเข้สีแดง รับกับสีเพลิงของนกแห่งตำนาน พร้อมตัวพับล็อกสายแน่นหนาทำด้วยทองคำสีกุหลาบ 18k ประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น

Bulgari Divas’ Dream Phoenix Tourbillon

Case: 18k rose gold, 37.0 mm, set with diamonds

Dial: Openworked dial hand-painted with Phoenix and flames motifs

Movement: Manual-winding Calibre BVL 208 with tourbillon

Strap: Red alligator leather strap with triple-blade 18k rose gold folding clasp set with diamond

Limited Edition: 50 pieces