พาชมของสะสมอันเป็นตำนานของ มร.แฮรี่ เฟน ผู้ที่ถูกขนานนามว่า เป็นผู้รอบรู้เรื่อง จิวเวลรี่-นาฬิกา คาร์เทียร์ ดีที่สุด

Last updated: 28 ต.ค. 2563  |  777 จำนวนผู้เข้าชม  | 

พาชมของสะสมอันเป็นตำนานของ มร.แฮรี่ เฟน ผู้ที่ถูกขนานนามว่า  เป็นผู้รอบรู้เรื่อง จิวเวลรี่-นาฬิกา คาร์เทียร์ ดีที่สุด

นิกกี้ วอน บูเรน ประธานกรรมการบริหาร Lotus Arts de Vivre กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมงานกับ มร.แฮรี่ เฟน นักสะสมระดับโลกผู้ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน “คาร์เทียร์” แบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงที่มีตำนานยาวนานกว่า 170 ปี สัญชาติฝรั่งเศสอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งโลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ และ มร.แฮรี่ เฟน มีรสนิยมที่เหมือนกันคือ หลงใหลในงานฝีมือชั้นเยี่ยมที่ออกแบบอย่างวิจิตรมีจินตนาการสร้างสรรค์และความละเมียดละไมในศาสตร์แห่งศิลป์ ซึ่งคาร์เทียร์เป็นแบรนด์เครื่องประดับระดับตำนานชื่อก้องโลก และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดทำเครื่องประดับให้แก่ราชสำนักต่างๆ ในยุโรป หลายประเทศ จนได้รับฉายาว่าเป็น “ผู้ผลิตเครื่องประดับให้ราชา และเป็นราชาแห่งเครื่องประดับ” ประกอบกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ดูสง่า สวยงามเหนือกาลเวลา คาร์เทียร์ยังเป็นผู้นำในวงการนาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพบุรุษ แทนการใช้นาฬิกาพกอย่างสมัยก่อน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) แต่นาฬิการุ่น Tank ที่ออกแบบในปี ค.ศ.1919 (พ.ศ. 2462) ยังถือว่าเป็นสุดยอดของความมีรสนิยมสำหรับสุภาพบุรุษจนถึงปัจจุบันและในปีค.ศ.1967 (พ.ศ. 2510) คาร์เทียร์ได้ผลิตนาฬิกาข้อมือรุ่น Crash ออกมาซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบันเลยก็ว่าได้

ทั้งนี้เครื่องประดับและนาฬิกาวินเทจ สำหรับผู้หญิงและผู้ชายของคาร์เทียร์ที่นำมาจัดแสดงนั้นถูกผลิตขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1910-1991 (พ.ศ. 2454-2518) ซึ่งถือเป็นชิ้นงานจากยุคทองของคาร์เทียร์ที่เหล่านักสะสมทั่วโลกถวิลหาอยากครอบครองและหายากยิ่งนัก อีกทั้งยังคุ้มค่าในด้านการลงทุน เนื่องจากชิ้นงานหายากหลายๆ ชิ้นของคาร์เทียร์นั้นซื้อขายกันในราคาหลายล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว นับว่าคาร์เทียร์วินเทจนั้นควรค่าแก่การสะสม เพื่อการลงทุนเพราะมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา


มร.แฮรี่ เฟน เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องนาฬิกาและเครื่องประดับวินเทจของคาร์เทียร์ที่หาตัวเทียบได้ยาก เขาได้ทำการศึกษาหาข้อมูลมากว่า 40 ปี ทำให้มีความรู้ ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับชิ้นงานเครื่องประดับหัตถศิลป์เลอค่าเหล่านี้ที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความงดงามและประณีตมากว่าหนึ่งศตวรรษ ในช่วงเวลาที่ มร.แฮรี่ เฟน เริ่มสนใจในงานของคาร์เทียร์นั้น ยังไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจผลงานของคาร์เทียร์มากนักจนกระทั่ง
เมื่อปี ค.ศ.1978 (พ.ศ. 2521) เกิดการประมูลทรัพย์สินของนักสะสมชาวนิวยอร์ก นามว่า มร.โรเบิร์ต กรีน และต่อมา     ในปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) บริษัทคาร์เทียร์เองได้จัดนิทรรศการผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน จาก 2 เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสความตื่นตัวในหมู่นักสะสมในผลิตภัณฑ์วินเทจของคาร์เทียร์ขึ้นมาอย่างจริงจัง จนในปัจจุบันกระแสความสนใจและการแข่งขันดุเดือดอย่างมาก


เริ่มต้นกันที่นาฬิกาวินเทจสำหรับผู้หญิง 1. Cartier Square Onyx and Diamond Lady’s Wristwatch - รุ่น “Nain Jaune” ซึ่งตั้งตามชื่อเกมกระดานของฝรั่งเศส โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดงผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1913-1914 (พ.ศ. 2456-2457) โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเงินล้อมเพชร ประมาณ 0.8 กะรัต ตัดกับมุมที่ประดับด้วยโอนิคส์ (Onyx)
เข็มทรงเบรเกต์ (Breguet) สีน้ำเงิน และตัวเลขโรมันสีดำ จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เม็ดมะยมทำด้วยไพลิน
สายผ้าสีดำ

2. Cartier Tortue นาฬิกาคาร์เทียร์รุ่น “ตอร์ตู” ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เต่า โดยคาร์เทียร์ได้เปิดตัวนาฬิกาที่มีดีไซน์วงรีในปี ค.ศ.1912 (พ.ศ. 2455) และกลายเป็นรุ่นยอดนิยมตลอดกาลรุ่นหนึ่งของแบรนด์ สำหรับรุ่นที่นำมาจัดแสดงคือ Cartier Platinum and Diamond ‘Tortue’ ผลิตในช่วง ค.ศ. 1919-1920 (พ.ศ. 2462-2463) หรือมีอายุราว 101 ปี ตัวเรือนสีโรสโกลด์ประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงโรสคัท (Rose Cut Diamond) น้ำหนัก 3 กะรัต เข็มทรงเบรเกต์ (Breguet) สีน้ำเงิน และตัวเลขโรมันสีดำ สายผ้าสีดำ สวยสง่าแบบเฟมินีน


3. Cartier A Square Diamond Set Lady’s Evening Wristwatch เรือนนี้มีอายุราว 109 ปี ผลิตในปี               ค.ศ.1911-1912 (พ.ศ. 2454 – 2455) เป็นนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมล้อมเพชรรุ่นแรกๆ ดีไซน์บาง 6 มิลลิเมตร สะท้อนความสง่างามของผู้หญิง ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพชรทรงโรสคัท (Rose Cut Diamond) 3.2 กะรัต หน้าปัดสีเงิน ตัดกับตัวเลขโรมันสีดำ เข็มทรงเบรเกต์ (Breguet) สีน้ำเงิน และจุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ

4. A Platinum, Diamond and Onyx Lady’s Wristwatch นาฬิกาคาร์เทียร์เรือนนี้ผลิตขึ้นเมื่อ ค.ศ.1919
(พ. ศ. 2462) หรือ 101 ปีก่อน ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงต้นปี ค.ศ.1910 (พ.ศ. 2453) คาร์เทียร์แบรนด์ที่ไม่ได้วิ่งตามแฟชั่น แต่ถือคติ ห้ามลอกเลียนแบบจงสร้างสรรค์ ได้นำสีดำและสีขาวมาใช้ ซึ่งเป็นรูปแบบของศิลปะแนวอาร์ตเดโค    (Art Deco) ซึ่งเป็นศิลปะที่หลุดพ้นจากความเป็น Classic เข้าสู่ยุคเริ่มต้นของ Modernism เริ่มในช่วงปี ค.ศ. 1925-1939 (พ.ศ. 2468 – 2482) เป็นศิลปะที่เน้นการใช้เส้นโค้ง เส้นตรงเรียบง่ายแต่ดูแข็งแรง โดดเด่นในลักษณะที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต สะท้อนความหรูหราและสง่างาม โดยนาฬิกาเรือนนี้มีหน้าปัดสีเงิน ตัวเลขโรมันสีดำ เข็มทรงเบรเกต์ (Breguet) สีน้ำเงิน และจุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ ตัวเรือนทองคำขาวล้อมเพชร น้ำหนักโดยประมาณ 2.5 กะรัต และโอนิคส์ (Onyx) หรือ นิลดำ สายผ้าสีดำ
 


5. Cartier Round Platinum and Diamond Wristwatch คาร์เทียร์ ผู้ปฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยการคิดค้นนาฬิกาข้อมือ โดยในปี ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) คาร์เทียร์เริ่มสร้างนาฬิกาข้อมืออย่างจริงจังและเป็นสิ่งที่ชนชั้นสูงในสมัยนั้นต่างถวิลหาอยากครอบครอง โดยนาฬิกาเรือนที่นำมาแสดงนี้ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1919 (พ. ศ. 2462) เด่นด้วยดีไซน์ทรงกลม เป็นดีไซน์ที่หาได้ยากของคาร์เทียร์ หน้าปัดสีเงิน ล้อมเพชรประมาณ 3 กะรัต ตัวเลขโรมันสีดำ เข็มทรง Breguet สีน้ำเงิน และจุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

6. Cartier Antique Diamond Lady’s Cocktail Watch นาฬิกาเรือนนี้ผลิตเมื่อ 93 ปีก่อน ในปี ค.ศ. 1927
(พ.ศ. 2470) ตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดทรงสีเหลี่ยมล้อมเพชร ตัวเลขอารบิก และเข็มทรง Èpée หรือ ทรงดาบ และจุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเรือนด้วยสายนาฬิกาดีไซน์แบบสายเชือกสีดำใครที่หลงใหล Cartier Tank สุดยอดดีไซน์คลาสสิกจนกลายเป็นตำนานของคาร์เทียร์ต้องไม่พลาดยลโฉม

        

7. Cartier Antique Tank Normale Diamond set cocktail ซึ่งมีอายุกว่า 98 ปี ผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1922 (พ.ศ.2465)
โดย Cartier Tank เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1917 (พ.ศ. 2460) นาฬิกาเรือนที่นำมาโชว์นี้เป็นรุ่นที่สวยงามโดดเด่นด้วยเพชรเจียระไนทรงโรสคัท 2.50 กะรัต หน้าปัดสีเงิน ตัวเลขโรมัน เข็มแบบ Breguet สีน้ำเงิน และจุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ

8. Cartier Tank Normale เรือนนี้ผลิตในปี ค.ศ.1929 (พ.ศ. 2472) หรือ 91 ปีก่อน เป็นดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลาคงความคลาสสิกจนถึงปัจจุบัน หน้าปัดสีเงิน ตัวเลขโรมัน เข็มแบบ Breguet สีน้ำเงิน และจุดแสดงเวลานาทีเป็น     รูปรางรถไฟ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสายหนังสีน้ำตาล ตัวเรือนหนา 5.5 มิลลิเมตร


9. Cartier Tank Cintrée – Curved ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ เรือนนี้ผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) ตัวเรือนบางและการดีไซน์ที่ให้โค้งตามข้อมือของผู้สวมใส่ หน้าปัดคงความคลาสสิกด้วยเลขโรมัน โลโก้คาร์เทียร์ เข็มนาฬิกาทรงดาบสีน้ำเงิน (Épée) เม็ดมะยมทำด้วยไพลิน และสายหนัง

นาฬิการุ่น ‘Crash’ นับเป็นผลงานที่ดึงดูดทุกสายตากับตัวเรือนที่บิดเบี้ยว แต่งดงาม ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากจินตนาการของ มร.ฌอง-ฌาคส์ คาร์ทิเยร์ ที่ว่าหากนาฬิกา รุ่น Tank เกิดอุบัติเหตุรถชนจะมีรูปร่างอย่างไร โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดง คือ 10. Cartier, An 18ct Gold and Diamond ‘Crash’ Wristwatch ผลิตขึ้นในช่วง ค.ศ.1991 (พ.ศ.2534)  ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพชร 4 - 4.30 กะรัต หน้าปัดสีขาวนวลตัดกับตัวเลขโรมันสีดำ สลักคำว่า Cartier ที่   IIV เข็มนาฬิกาทรงดาบสีน้ำเงิน (Épée) สายผ้าสีน้ำเงิน



อีกหนึ่งไฮไลท์และหาชมได้ยากต้องยกให้จิวเวลรี่วินเทจในตำนานของคาร์เทียร์ 11. Cartier Love Bangle กำไลข้อมือทอง 18K ที่นำมาแสดงในครั้งนี้ผลิตขึ้นราวปี ค.ศ.1975 (พ.ศ. 2518) เป็นเครื่องประดับเพื่อแสดงความรักเหนือกาลเวลาดีไซน์สง่างามไร้ที่ติ มาพร้อมไขควงเก็บรักษาอย่างดีในกล่องหนังสีแดงของแบรนด์คาร์เทียร์

12. Cartier, London, A Gem and Diamond Cocktail Ring ค.ศ.1960 (พ. ศ. 2503) แหวนค็อกเทลวินเทจ  ประดับเพชร 1.5 กะรัต สลับทับทิบและแซฟไฟร์สีเขียวเจียระไนทรงเหลี่ยม เก็บรักษาอย่างดีในกล่องหนังสีแดงของ      แบรนด์คาร์เทียร์ ลอนดอน

13. Cartier Paris Diamond “Leek” Brooch เข็มกลัดประดับเพชรดีไซน์เก๋ของคาร์เทียร์ชิ้นนี้มีอายุ 90 ปี
ถูกครีเอทขึ้น ค.ศ.1930 (พ.ศ. 2473) ตัวเรือนทำจากทองคำขาว ดีไซน์เป็นรูป Leek ประดับเพชรรวมน้ำหนักโดยประมาณ 1.5 – 1.7 กะรัต ได้อย่างประณีต



14. Cartier, A Gold and Diamond “Draperie” Necklace สร้อยคอทองประดับเพชรคาร์เทียร์ ดีไซน์คลาสสิกด้วยโซ่ลูกปัดทรงกลมขัดเงา 10 เส้น เรียงร้อยจนเกิดมิติ ประดับเพชร ประมาณ 2.10-2.30 กะรัต

15. Cartier, Paris, A Gold Collar Necklace สร้อยคอทองคำเส้นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นราวปีค.ศ. 1940
(พ.ศ. 2483) เป็นสร้อยคอที่เรียบหรูและสง่างาม โดดเด่นด้วยดีไซน์คล้ายเชือกสองเส้นซึ่งถูกฉลุลายการเชื่อมอิฐ อ่อนช้อยด้วยดีไซน์ใบไม้ที่ถูกสลักอย่างประณีตแลดูพริ้วไหว ถูกเก็บรักษาอย่างดีในกล่องหนังสีแดงของแบรนด์คาร์เทียร์


16. Cartier, A Mid-20th Century Sapphire, Ruby and Diamond Leaf Brooch เข็มกลัดรูปใบไม้วินเทจชิ้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ. 2493) โดยดีไซน์คล้ายสัญลักษณ์ Buta (บูตา) ในภาษาสันสกฤตแปลว่า "ไฟ"
เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ สง่าราศี ฉลุลายตาข่าย ประดับทับทิม แซฟไฟร์สีน้ำเงินและเพชร มาพร้อมกล่องหนังสีแดงลงนาม Cartier Paris

17. Cartier, Paris, A Pair of Gold ‘Coffee Bean’ Bracelets สร้อยข้อมือดีไซน์เมล็ดกาแฟสีทอง จำนวนสองเส้น จากคาร์เทียร์ ในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ. 2493) สามารถปรับเป็นสร้อยคอได้โดยห่วงโซ่รูปไข่ มาพร้อมกับกล่องหนังสีแดงของแบรนด์

         สำหรับใครที่ชื่นชอบดีไซน์จิวเวลรี่ในยุคเฟื่องฟูของศิลปะอาร์ตเดโค (Art Deco) ในช่วงปี 1920 ถึง 1935 ต้องไม่พลาดชมเครื่องประดับวินเทจของคาร์เทียร์ที่มีอายุ 90 ปี ถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1930. หรือ พ.ศ. 2473 ซึ่งแต่ละชิ้นมีความยูนีค สะท้อนความเรียบง่าย สง่างาม อาทิ



18. Cartier, Paris, An Art Deco Diamond Bracelet จาก ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) สร้อยข้อมือประดับเพชรสไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco) ประกอบด้วยเพชรเจียระไนแบบโรสคัทและเพชรทรงกลม น้ำหนักประมาณ 22 – 24 กะรัต
สร้อยข้อมือชิ้นนี้คือการหลอมรวมความเรียบง่าย แต่หรูหราด้วยลายฉลุ โดดเด่นด้วยเพชรเม็ดเดียว ซึ่งวางอยู่ตรงกึ่งกลาง น้ำหนัก 2.62 กะรัต และเพชรที่วางอยู่ตรงปลายสำหรับล็อก 3.20 กะรัต

19. Cartier, London, An Art Deco Diamond Bracelet ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) สร้อยข้อมือประดับเพชรสไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco) จากคาร์เทียร์ ลอนดอน สะดุดตาด้วยดีไซน์ที่พลิ้วไหวของริบบิ้นเมื่อต้องลมจนเกิดคลื่น (undulating ribbon) งดงามด้วยการประดับเพชรทรงบิลเลี่ยนคัท และ เข็มทรง Breguet รวมน้ำหนักเพชรประมาณ
22-24 กะรัต บรรจุในกล่องหนัง คาร์เทียร์ ลอนดอน สีแดง

20. Cartier, London, An Art Deco Cartier, Paris, A Pair of Art Deco Diamond Earrings ต่างหูเพชรสไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco) จากคาร์เทียร์ ปารีส ปี ค.ศ. 1930 ดีไซน์น้ำตก ประดับเพชรเจียระไนทรงหยดน้ำ หรือทรงลูกแพร์ และเพชรเหลี่ยม รวมน้ำหนักเพชรประมาณ 21-24 กะรัต บรรจุในกล่องหนัง คาร์เทียร์ สีแดง

ทั้งนี้ภายในงานยังจัดแสดงเครื่องประดับและนาฬิกาวินเทจมากมาย อาทิ นาฬิกา รุ่น Antique Diamond Lady’s Cocktail Watch ผลิตปี ค.ศ.1919, Cartier “Cristallor”  ผลิตปี ค.ศ. 1975, London Tank – Hooded Lugs ผลิตปี ค.ศ. 1976, London Tank JC ผลิตปี ค.ศ. 1966, Square Tank with “Baton” Chapters ผลิตปี ค.ศ. 1959, Cartier London White Gold Cintrée with White Gold Bracelet ผลิตปี ค.ศ. 1967, Tank Allongée - Elongated ผลิตปี ค.ศ. 1940, Cartier London ‘Crash’ ผลิตปี ค.ศ. 1987 เป็นต้น

สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมชมความงดงามเหนือกาลเวลาของนาฬิกาและเครื่องประดับวินเทจ         แบรนด์คาร์เทียร์  ได้ในงาน Lotus Arts de Vivre x Obsidian Objets d’Art : A moment of serendipity –                A vintage Cartier Collection ในระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00-19.00 น.  ณ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค, โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้