140 ปีแห่งการเฉลิมฉลองของแบรนด์ Seiko ส่งผ่านแรงบันดาลใจอันหลากหลายสู่ คอลเลกชั่น พรอสเปกซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron)

Last updated: 1 ก.พ. 2564  |  681 จำนวนผู้เข้าชม  | 

140 ปีแห่งการเฉลิมฉลองของแบรนด์ Seiko ส่งผ่านแรงบันดาลใจอันหลากหลายสู่ คอลเลกชั่น พรอสเปกซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron)

คินทาโร่ ฮัตโตริ (Kintaro Hattori) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ไซโก ได้เริ่มต้นก่อตั้งบริษัทของเขาเมื่อปี 1881 เมื่อเขามีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น ในช่วง 50 ปีภายใต้การคุมหางเสือของเขา Seiko ได้กลายเป็นบริษัทนาฬิกาชั้นนำในญี่ปุ่น โดยเป็นศูนย์กลางในการออกแบบและมีโรงงานที่ใช้ผลิตเป็นของตนเอง นี่คือความสำเร็จที่เป็นผลโดยตรงมาจากวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวที่ยึดมั่นของฮัตโตริ นั่นคือ ฯ “One step ahead of the rest” หมายถึง ‘การที่ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ 1 ก้าวเสมอ’ คำกล่าวของเขายังคงสะท้อนดัง และเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของ Seiko มาจนถึงปัจจุบัน

และในปี 2021นี้ Seiko จะเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ ที่ได้รับการสร้างสรรค์เพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่เกิดจากคำกล่าวของคินทาโร่ และเพื่อเป็นเกียรติในการฉลองครบรอบ 140 ปี ของการก่อตั้งบริษัทและแบรนด์ ไซโก โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบนาฬิการุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองในครั้งนี้ ทั้งคอลเลกชั่น พรอสเป็กซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron) โดยทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากอัตลักษณ์ ภูมิทัศน์ ท้องทะเล ของเมืองที่อยู่ในญี่ปุ่น

นาฬิกาดำน้ำพรอสเปกซ์ แรงบันดาลใจแห่งความงดงามของ เกาะอิริโอโมเตะ (Iriomote Island)

เกาะอิริโอโมเตะในจังหวัดโอกินาวา เป็นแหล่งความงามใต้ท้องทะเลที่ดึงดูดนักดำน้ำจากชาวญี่ปุ่นและจากที่อื่นๆทั่วโลก ให้เข้ามาสัมผัสแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล แต่เสน่ห์ที่ถือว่ามีความพิเศษของเกาะแห่งนี้อยู่ที่ ป่าชายเลนดึกดำบรรพ์และป่าชายเลนที่มีความบริสุทธิ์ที่อยู่ล้อมรอบเกาะ นอกจากนั้น อิริโอโมเตะยังเป็นแหล่งกำเนิดของพืชพรรณและสัตว์หลายชนิดที่หายาก และบางสายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พบได้เฉพาะในเกาะแห่งนี้เท่านั้น ด้วยองค์ประกอบทางธรรมชาติอย่างแนวปะการัง ป่าดงดิบ ป่าชายเลน ชายหาด แม่น้ำและน้ำตก ทำให้อิริโอโมเตะเป็นเกาะที่มีความสวยงาม มีความหลากหลายทางธรรมชาติ พร้อมความสมบูรณ์อันเขียวชอุ่ม ซึ่งถูกสะท้อนผ่านทางหน้าปัดสีเขียวเข้มของนาฬิการุ่นใหม่นี้

นาฬิกากลไกสองเรือนแรกนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเกาะอิริโอโมเตะ โดยเป็นผลงานที่มีพื้นฐานมาจากนาฬิกานักดำน้ำที่มีชื่อเสียงในปี 1968 ของ Seiko โดยเรือนแรกมีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร ทำงานด้วยความถี่ 8 บีท พร้อมกับตัวเรือนแบบหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวไร้รอยต่อ และถูก

สร้างขึ้นเพื่อรองรับการทำงานใต้น้ำหรือการดำน้ำต่อเนื่อง (Saturation Diving) หรือการดำน้ำแบบปกติที่อาศัยถังอากาศ (Scuba Diving) ประกอบชิ้นส่วนและปรับแต่งโดยช่างทำนาฬิกาผู้ชำนาญการที่มีฝีมือและทักษะของ Seiko ที่ สตูดิโอเมืองชิซึคูอิชิ (Shizukuishi) พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 8L35 ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับใช้กับนาฬิกาดำน้ำ

ส่วนนาฬิกากลเรือนที่สองนั้น เป็นการต่อยอดความสำเร็จในเชิงนวัตกรรมของนาฬิกาดั้งเดิมในปี 1968 ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ ตัวนาฬิกาได้รับการติดตั้งกลไกที่ทำงานด้วยความถี่ 6 บีท และกันน้ำได้ 200 เมตร โดยทั้ง 2 รุ่นจะจำกัดจำนวนการผลิตเพียง 3,000 และ 6,000 เรือนทั่วโลกตามลำดับ

นาฬิกาเรือนที่สามในคอลเลกชั่นนี้คือนาฬิกาโครโนกราฟที่ใช้กระแสไฟฟ้าที่ถูกเปลี่ยนจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร โดยจะผลิตจำกัดเพียง 4,000 เรือน ทั่วโลก นาฬิกาทั้ง 3 เรือนประกอบสายที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และมีสายซิลิโคนเสริมมาให้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม ทั้งหมดจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมที่บูติก Seiko, เคาท์เตอร์ Seiko ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้

(Presage Sharp Edged Series) พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์



นาฬิกากลไกอัตโนมัติที่ได้แรงบันดาลใจจากนครโตเกียวในยามรุ่งอรุณ

พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ ได้รับการรังสรรค์ขึ้นในปี 2020 โดยผสานพื้นผิวตัวเรือนที่แบนเรียบเข้ากับความเฉียบคมของเหลี่ยมสันบนตัวเรือน ซึ่งช่วยทำให้นาฬิกาสามารถสะท้อนประกายขึ้นมาในยามที่มีแสงส่องตกกระทบ เหมือนเช่นกับรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในซีรีส์นี้ การสร้างสรรค์ใหม่ครั้งนี้มาพร้อมกับลวดลายอาซาโนฮะ (Asanoha) หรือลายใบป่าน อัตลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้นับพันปี และพบเห็นได้บ่อยจากลายถักทอของผ้าญี่ปุ่น

 

ประกายสีทองที่เกิดขึ้นบนหลักชั่วโมงและชุดเข็มถูกจัดวางอยู่บนพื้นหน้าปัดสีดำ สะท้อนภาพของท้องฟ้าในช่วงใกล้รุ่งด้วยแสงสีทองที่ทาบบนผืนฟ้าของนครโตเกียวที่กำลังเริ่มตื่นขึ้นเพื่อรับวันใหม่สายโลหะที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลรมดำหรือสายที่เพิ่มเข้ามาในชุดอย่างสายหนังสีดำ สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้นาฬิกาพรีซาจ กลไกอัตโนมัติรุ่นนี้ นำเสนอความแตกต่างด้วยมุมมองที่ทันสมัยบนความงดงามที่สะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว นาฬิการุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 4,000 เรือนทั่วโลก และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่บูติก Seiko, เคาท์เตอร์ Seiko ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้

แอสตรอน ภาพความงามของดอกซากุระในยามค่ำคืน

ความน่าหลงใหลจากการผลิบานของดอกซากูระของชาวญี่ปุ่นนั้นมีนอกเหนือจากเวลากลางวัน โยซากุระ (Yozakura) เป็นชื่อที่ตั้งให้กับดอกไม้ที่ผลิตบานเพียงชั่วขณะ แต่สวยงามเมื่อมองเห็นภายใต้ท้องฟ้าที่มีแสงดาวระยิบระยับ ดอกไม้เหล่านี้ราวกับเปล่งแสงและสร้างมนต์เสน่ห์กับพื้นที่ที่อยู่รอบตัว

ด้วยตัวเรือนและสายโลหะสีดำ เปรียบเสมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน พื้นหน้าปัดสีม่วงที่มีเหลื่อมสีชมพูถ่ายทอดความงดงามของโยซากุระได้อย่างสมบูรณ์แบบ หน้าปัดที่ไล่เฉดเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนสวยงาม จากสีอ่อนค่อยๆ เข้มขึ้นในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ช่วยเพิ่มความลึกลึกลับและความน่าหลงใหลที่เปรียบเสมือนยามเย็นแห่งฤดูใบไม้ผลิที่อ่อนโยนในญี่ปุ่น ตัวเรือนมีเงาสะท้อนที่เป็นแนวโค้งรับกับตัวเรือน ความกว้างของขาสายนาฬิกาเป็นแบบเดียวกับที่พบได้ในรุ่นดั้งเดิมอย่างควอตซ์ แอสตรอน (Quartz Astron) รุ่นปี 1969 และขับเคลื่อนด้วยกลไก GPS Solar Dual-Time รหัส 5X53 ที่มีความทันสมัยที่สุด ซึ่งสามารถปรับเวลาให้มีความเที่ยงตรงและแม่นยำไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก*

(* บางครั้งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภูมิภาค / เขตเวลา / DST ซึ่งผู้ใช้อาจจะต้องปรับเวลาด้วยตัวเอง)

ใช้เพียงพลังงานแสงอาทิตย์และแสงทั่วไปเพื่อแปลงเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน นำเสนอการปรับตั้งเวลาอย่างรวดเร็ว รวมถึงการตั้งเวลาต่างไทม์โซน นาฬิกาแอสตรอนที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ รุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,500 เรือน และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่บูติก Seiko, เคาท์เตอร์ Seiko ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้