ROBINSON The Ultimate Watch Fair 2023

Last updated: 25 มี.ค. 2566  |  719 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ROBINSON The Ultimate Watch Fair 2023

Robinson The Ultimate Watch Fair 2023 งานมหกรรมนาฬิกาที่ผนึกกำลังร่วมกับแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกว่า 30 แบรนด์ คัดสรรนาฬิกาทั้งจากกลุ่มลักชูรี กลุ่มแฟชัน ไปจนถึงสมาร์ทวอทช์ คอลเลกชันล่าสุด คอลเลกชันพิเศษจำนวนจำกัด รวมถึงคอลเลกชันที่นำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่งานนี้ด้วย ต่อไปนี้คือเรือนเวลาไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ของงานนี้

เรือนเวลากลุ่มลักชูรีเรือนแรก Grand Seiko Evolution 9 Collection SLGA015 เผยแรงบันดาลใจของธรรมชาติผ่านหน้าปัดสีดำลายคลื่นแห่งกระแสน้ำอันทรงพลัง ""คุโรชิโอะ"" แห่งทะเลญี่ปุ่น ความประณีตของงานขัดแต่งตัวเรือน ที่บรรจุไว้ด้วยกลไก Spring drive ใหม่ล่าสุด 9RA5 เดินด้วยความเที่ยงตรง +- 0.5 วินาทีต่อวัน สำรองพลังงานได้ 120 ชั่วโมง

Rado True Square Automatic เรือนเวลากลุ่มลักชูรีเรือนที่ 2 อันเป็นเรือนเวลาจากตระกูล True Square นาฬิกาไฮเทคเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีชื่อเสียงของ Rado ผลิตโดยใช้ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีการฉีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว True Square มีน้ำหนักเบา มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและสวมใส่สบาย 

Oris Big Crown Calibre 473 คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดของ Oris ที่อ้างอิงตัวเรือนขนาด 38 มม. ของรุ่น Big Crown แต่โดดเด่นกว่าด้วยการใช้กลไกใหม่อย่าง Calibre 473 ซึ่งเป็นกลไก in-house ไขลานด้วยมือที่มีกำลังสำรอง 5 วันหรือ 120 ชั่วโมง โดยถือเป็นหนึ่งจากผลผลิตของโปรเจ็กต์ Oris Movement Creation Programme ที่เริ่มขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 2000 เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีจากจุดศูนย์กลาง หน้าปัดย่อยแสดงเข็มวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มชี้บอกวันที่จากจุดศูนย์กลางที่บอกวันที่แบบฉับพลัน ตัวปรับตั้งวันที่ ปรับตั้งเวลาแบบละเอียด และหยุดเข็มวินาที มาพร้อมหน้าปัดสีฟ้าอมเขียว ที่มีรูปแบบคล้ายกับ Wing Of Hope และสายหนังกวางจาก Cervo Volante เพื่อแสดงถึงความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ

Frederique Constant Highlife Automatic COSC อีกหนึ่งเรือนจากกลุ่มลักชูรี และเป็นคอลเลกชันล่าสุดจาก Frederique Constant นาฬิกาเดรสวอทช์สำหรับสุภาพบุรุษเรือนนี้ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้นาน 38 ชั่วโมง ตัวเรือนและสายผลิตจากสเตนเลสสตีลคู่กับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงิน พร้อมสายยางสีน้ำเงินในเซ็ทสำหรับเปลี่ยนสาย

Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date Black เผยโฉมภายใต้ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาดใหญ่ 45 มม. ที่ได้สัดส่วนลงตัว พร้อมทั้งความโดดเด่นของการเคลือบ ดีแอลซี (DLC) สีดำสนิท ด้วยรูปลักษณ์อันเหนือคำบรรยาย ทั้งสไตล์อันปราดเปรียวและเข้มแข็ง แต่กลับถ่ายทอดความโดดเด่นได้อย่างเหนือใคร

Mido Multifort M Chronometer เรือนเวลาที่ผ่านการทดสอบและรับรองโดย COSC โดดเด่นด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเกินมาตรฐาน Calibre 80 สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริงช่วยเสริมความแม่นยำทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ดีไซน์อินเด็กซ์ทรงกลมที่มีลักษณะเฉพาะตัวด้วย Super-LumiNova สีเบจ ช่วยให้อ่านค่าได้ดีที่สุดเมื่อตัดกับพื้นหน้าปัดสีเขียวไล่เฉด พื้นผิวหน้าปัดที่ถูกออกแบบเป็นลายขัดซาตินในแนวตั้ง กันน้ำได้ลึกถึง 100 ม. พร้อมสายนาฬิกาที่ให้ความสะดวกในการเปลี่ยน เพลียงคลิกเดียวโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

Seiko PROSPEX SPEEDTIMER Mechanical Chronograph รุ่น SRQ045J นาฬิกากลไกโครโนกราฟที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของนาฬิกาจับเวลา Seiko ออกแบบรูปทรงเหมือนนาฬิกาจับเวลาโครโนกราฟปี 1964 ที่ออกแบบสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวในปี 1964 การเคลื่อนไหวอันทรงพลัง ในนาฬิกาเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Seiko SPEEDTIMER รุ่นแรกในปี 1969 ที่ตอนนี้มีคาลิเบอร์ 8R46 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างยอดเยี่ยม ความสวยงาม ของโครโนกราฟรุ่นนี้เป็นการรำลึกถึงโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1972 เมื่อ Seiko ได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการ เครื่องหมายสีแดงช่วยให้อ่านเวลาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้สภาพอากาศมีหิมะเยอะ หรือมีน้ำแข็ง สำหรับนาฬิการุ่น “WINTER SPEEDTIMER” เป็นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มีจำนวนจำกัดเพียง 600 เรือนทั่วโลก

Casio G-B001MVE-9DR_LIMITED ที่มีต้นแบบมาจาก Casio W 001 เปิดตัวในปี 1994 ซึ่งมีรูปแบบการออกแบบแบบแคปซูลที่แข็งแกร่ง ในตอนนี้ CASIO ได้นำเสนอวิวัฒนาการใหม่ของนาฬิกาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มาพร้อมโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน ภายนอกเป็นโลหะ และมีฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน นอกจากนั้น กรอบยูรีเทนแบบถอดได้ยังให้สัมผัสที่สนุกสนาน โดยมีให้เลือกระหว่างกรอบสองกรอบคือ โลหะหรือยูรีเทน รูปแบบแคปซูลที่แข็งแกร่งที่ได้รับการปรับแต่งขึ้นมาใหม่ รักษารูปแบบการออกแบบดั้งเดิมไว้ขณะที่มีลักษณะเฉพาะตัวแบบใหม่เพิ่มเข้ามา กรอบและสายนาฬิกาโปร่งแสงได้รับการรวมเอาไว้ด้วย เพื่อให้การผสมผสานการออกแบบที่ปรับแต่งได้ 12 รูปแบบ กรอบเพิ่มเติมมีแบบหล่อสองโทนสีในรูปแบบสีเหลืองและสีเขียว และสายเพิ่มเติมที่แสดงการไล่ระดับสีน้ำเงิน คันโยกแบบเลื่อนทำให้ส่วนต่างๆ เปลี่ยนได้ง่าย โดยวางจำหน่ายครั้งแรกที่งานนี้เพียง 40 เรือนเท่านั้น

ปิดท้ายที่นาฬิกากลุ่มสมาร์ทวอทช์คอลเลกชันใหม่ล่าสุดของ GARMIN MARQ เจนเนอเรชั่นที่ 2 คือที่สุดของการใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด สะท้อนทุกด้านของชีวิตอันไร้ขอบเขต ตัวตน จิตวิญญาณ และความกล้าหาญ คัดสรรทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถันเฉพาะคุณ กับนวัตกรรมที่ได้มาตรฐานจากแบรนด์ระดับโลก ก้าวไปสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งกว่าด้วย MARQ Golfer (Gen 2) ลักชัวรีวอทช์ที่ไม่เหมือนใคร สร้างจากไทเทเนี่ยมเกรด 5 เพื่อความทนทานและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Amoled ที่ดึงดูดทุกสายตาแผนที่สนามกอล์ฟมากกว่า 42,000 สนาม และการติดตามข้อมูลในเกมการแข่งขันที่ล้ำหน้าที่สุด คุณจึงสามารถยกระดับความสามารถได้สูงยิ่งขึ้น

.

ที่มาพร้อมดีลโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีที่มีเฉพาะงานนี้เท่านั้น! (คลิก http://bitly.ws/BTHn) ประกอบด้วย ลดสูงสุด 30% (เฉพาะแบรนด์ / เฉพาะรุ่น) พร้อมรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30% เมื่อใช้คะแนนเดอะวัน และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งรับคูปองส่วนลดสูงสุด 5,900 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข พิเศษ! สำหรับลูกค้ากลุ่ม Top Spender ที่มียอดช้อปขั้นต่ำ 100,000 บาทขึ้นไป  รับบัตรรับประทานอาหารที่ร้าน Sushi Hiro Omakase หรือ บัตรกำนัล Afternoon Tea ที่โรงแรม Park Hyatt Bangkok พร้อมรับฟังคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจาก Personal Shopper และกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาแบบใกล้ชิด

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้