VAN CLEEF & ARPELS

Extraordinary Objects
นับจากเริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1906 Van Cleef & Arpels ยังครองตำแหน่งอันโดดเด่นเป็นหนึ่งท่ามกลางบรรดาเมซงผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีทั้งหลายด้วยการสรรค์สร้างผลงาน “ศิลปะวัตถุ” ล้ำค่า เต็มเปี่ยมไปด้วยลูกเล่นสุดเซอร์ไพรส์ จุดประกายจินตนาการเกินฝัน ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่งบ้าน หรือเครื่องประดับความงามอย่างตลับแป้ง และขวดน้ำหอม ต่างล้วนสะท้อนถึงกระแสความนิยมของแต่ละยุคสมัยเช่นเดียวกับทักษะ ความชำนาญเหนือชั้นของเมซง

ครรลองวิวัฒน์หัตถศิลป์ซึ่งดำเนินคู่ขนานไปกับวิทยาการล้ำสมัยในแต่ละยุค ได้นำไปสู่ประดิษฐกรรมหุ่นกล ตัวแทนสุนทรียศิลป์แนวคิดใหม่ในการบอกเวลา แต่ละนาทีราวถูกสะกดให้หยุดนิ่งระหว่างประติมากรรมรัตนชาติค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากใจกลางของช่อพฤกษา ขณะเดียวกับที่แต่ละปีผันผ่านไปตามวงโคจรของมวลดาราในงานออกแบบจำลองมิติเร้นลับแห่งห้วงจักรวาล

งานวาดแพ็ทเทิร์นชิ้นส่วนผลงานตามภาพวาดร่างแบบลงสีกวอช

ด้วยความเฉียบคมในการคัดสรร และนำหลากวัสดุเลอค่ามาแปรรูป ประกอบร่วมเป็นโครงสร้าง     ประดิษฐกรรมสุดแยบคาย แต่ละผลงานเหล่านี้ ได้กลายเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนความชำนาญต่างศาสตร์ ต่างสาขาระหว่างกลไกขับเคลื่อนหลากระบบ, งานฝีมือเครื่องประดับชั้นสูง และหัตถศิลป์ชั้นสูงแบบฉบับฝรั่งเศส ไม่ต่างอันใดจากตัวแทนความชำนาญต่างสาขาในอาณาจักรมหัศจรรย์เกินฝันของ Van Cleef & Arpels ทุกผลงานคือบทพิสูจน์ภารกิจมุ่งมั่นที่เมซงมีต่อการอนุรักษ์ และสืบสานไหวพริบในการพลิกแพลงทักษะแขนงต่างๆ ซึ่งจำต้องอาศัยความอดทน รวมถึงการใช้เวลาเป็นสำคัญ

นาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกล “ดาราจักรจำลอง” Planétarium automaton

งานประกอบทองคำสีกุหลาบ, ทองคำสีขาว และทองคำสีเหลือง ร่วมกับงานฝังทับทิมซ่อนหนามเตย, งานประดับทับทิม, ไพลินหลากสี, โกเมนสีส้มสเปซซาไทต์, เพชร, พลอยน้ำสมุทรลาพิซ ลาซูลิ, โมราแกลเซโดนี, ไข่มุก, โมราสลับลายแจสเปอร์, หยกดำ, ควอร์ตซ์สีกุหลาบน้ำนม, มุกดาจันทรกานต์สีส้ม, นิลอัคนีอ็อบซิเดียน, ไม้ต้นมะนาว, ฮอลลีขาว, ไม้ผักโขม, ไม้แก่นซิริโคเต, แก้ว, อลูมิเนียม, เหล็กกล้า, ทองเหลือง, วัสดุพีวีดีสีทองสัมฤทธิ์ และสีดำ, หนัง

หน่วยจักรกล และระบบขับเคลื่อนทั้งหลายประกอบไปด้วยกลไกโคจรเสมือนจริงของสุริยะจักรวาลจำลอง ทำงานร่วมกับระบบบอกเวลาอีก 11 รูปแบบ อาทิเช่นกลไกบอกชั่วโมง/นาที, ระบบปฏิทินถาวรตามสุริยคติ, แหล่งพลังงานสำรองก่อนนาฬิกาหยุดเดิน 15 วัน ขับเคลื่อน และบอกเวลาตามสั่ง เสียงดนตรีเป็นท่วงทำนองซึ่งได้รับการออกแบบ สร้างสรรค์มาเป็นพิเศษโดยอาศัยกลไกหีบเพลงทำงานร่วมกับชุดระฆังพร้อมค้อนตีตามจังหวะผลงานเอกลักษณ์ มีเพียงชิ้นเดียวในโลก

Planétarium automaton
นาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกล “ดาราจักรจำลอง”
จากใต้ผืนฟ้าเหนือจัตุรัสว็องโดมสู่ความประทับใจที่ Van Cleef & Arpels มีต่อความงดงามตระการตาของหมู่ดาวกลางห้วงเวหนอันกว้างใหญ่ นำมาซึ่งการสร้างสรรค์อาณาจักร “จินตศิลป์ดาราศาสตร์” หรือ Poetic Astronomy อันประกอบไปด้วยบรรดาผลงานถ่ายทอดจินตนาการถึงเรื่องราวความเป็นไปของเทหวัตถุทั้งหลายที่ดารดาษประดับทั่วทิฆัมพรดังเช่นการรังสรรค์ย่อส่วนงานต้นแบบ “ท้องฟ้าจำลอง” ระหว่างศตวรรษที่ 18 มาสู่ระบบสุริยจักรวาลขนาดจิ๋ว มีพระอาทิตย์เป็นศูนย์กลางวิถีโคจรของโลก, ดวงจันทร์บริวาร และดาวเคราะห์อื่นๆ อยู่ภายในกรอบตัวเรือนนาฬิกาข้อมือ และนี่คือจุดกำเนิดของคอลเลกชัน “ดาราจักรจำลอง” หรือ Planétarium (ปลาเนตารียอม) มอบความหลากหลายของทั้งนาฬิกาข้อมือระบบซ้อนกลไก และหุ่นกลขนาดใหญ่สำหรับเป็นของตกแต่งประดับโต๊ะ

สำหรับปีนี้ เมซงสรรค์สร้าง Extraordinary Object หรือ “ผลงานศิลปะวัตถุเหนือสามัญ” ชิ้นใหม่ไว้ในคอลเลกชันนาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกลดาราจักรจำลอง โดยอาศัยการเลือกใช้วัสดุต่างคุณสมบัติและต่างเฉดสี

นาฏกรรมดาราจักรจากความชำนาญงานผลิตนาฬิกาของ Van Cleef & Arpels
โดดเด่นสะดุดตาด้วยมิติโครงสร้าง (ขนาดความสูง 50 ซม. และเส้นผ่านศูนย์กลาง 66.5 ซม.) หุ่นกลดาราจักรจำลองหรือ Planétarium automaton (ปลาเนตารียอม โอโตมาตง) คือเวทีแสดงวิถีโคจรรอบดวงสุริยะเสมือนจริงของดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบที่สามารถมองเห็นจากโลกได้ด้วยตาเปล่า และกล้องโทรทัศน์ทั่วไป นั่นก็คือดาวพุธ, ดาวศุกร์, โลกกับดวงจันทร์บริวาร, ดาวอังคาร, ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ และเพราะระบบกลไกอันสลับซับซ้อน อำนวยให้ดาวแต่ละดวงสามารถเคลื่อนที่ตามวงโคจรด้วยความเร็วจริง นั่นก็คือดาวพุธใช้เวลา 88 วันในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ ในขณะที่ดาวศุกร์ใช้เวลา 224 วัน, 365 วันสำหรับดาวเคราะห์โลก, ดาวอังคารใช้เวลา 687 วันส่วนดาวพฤหัสบดีคือ 11.86 ปี และดาวเสาร์ 29 ปีครึ่ง และก็เหมือนกับผลงานนาฬิกาข้อมือสำหรับผู้หญิง ดวงจันทร์บริวารโคจรรอบโดยโดยใช้เวลา 27.3 วัน การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ปรากฏให้เห็น และรับรู้ได้อย่างชัดเจนในแต่ละวัน สำหรับโจทย์ท้าทายความสามารถอันเหลือเชื่อเช่นนี้ Van Cleef & Arpels ได้พัฒนามิติสัณฐานเชิงโครงสร้างดาราจักรจำลองของนาฬิกาประดับโต๊ะเรือนนี้ให้มีความสมจริงตามระบบสุริยจักรวาล เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนตามสั่งอันอำนวยให้จังหวะการเคลื่อนตัวตามทำนองดนตรีของวัตถุทรงกลมต่างดาวเคราะห์ทั้งหลายนี้สามารถเริ่มต้นใหม่ตามความต้องการของผู้สั่งงานได้ตลอดเวลา ภายใต้โดมแก้วครอบฐานจักรกลจำลองวิถีสุริยะจักรวาล อันเป็นงานเป่าแก้วผลิตพิเศษสำหรับผลงานชิ้นนี้เพียงเท่านั้น คือประดิษฐกรรมสุดหรูหรา ตระการตาของมวลดาราในระบบสุริยจักรวาลที่พร้อมโคจรไปบนวิถีของตนตามเวลาจริงเมื่อระบบขับเคลื่อนกลไกการทำงานได้เริ่มต้น ดาวตกทองคำสีกุหลาบประดับเพชรรองรับงานฝังทับทิมซ่อนหนามเตยก็จะปรากฏออกมาจากช่องประตูบานเล็ก และเคลื่อนตัววนรอบหน้าปัด 24 ชั่วโมงเพื่อทำหน้าที่บอกเวลาทั้งชั่วโมง และนาที ระหว่างที่ดาวตกพุ่งทะยานผ่านบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหลายนั้น เสียงดนตรีพลันก้องกังวานเสนาะโสตเติมเต็มบรรยากาศนาฏกรรมแห่งดวงดารา ในทุกวินาที ดาวเคราะห์ดวงน้อยจะเคลื่อนตัวทะยานขึ้นสลับดิ่งลงในแนวย้อนวิถีโคจรธรรมชาติ ขณะเดียวกับที่ส่วนฐานโครงสร้างของนาฬิกาตั้งโต๊ะหุ่นกลอาศัยงานประกอบไม้ต้นมะนาว, ฮอลลีขาว, ไม้ผักโขม และไม้แก่นซิริโคเตขึ้นรายละเอียดช่องหน้าต่างบานประตูไล่เรียงกันตามลำดับเพื่อแสดงให้เห็นชั่วโมง/นาที, กลางวัน/กลางคืน, ปฏิทินถาวรตามสุริยคติเพื่อบอกวัน, เดือน และปี ตลอดจนหน่วยเก็บพลังงานสำรอง และยังมีประตูบานหนึ่ง อำนวยให้มองเข้าไปเห็นการทำงานของกลไกค้อนเคาะระฆัง 15 ลูก ซึ่งได้รับการติดตั้งไว้ภายในโครงสร้างจักรกลบอกเวลาเรือนนี้

ประติมากรรมดาวเคราะห์สามมิติทั้งหลาย ถูกจัดตำแหน่งตามวิถีโคจรรอบดวงอาทิตย์อย่างสมจริง เหนืออื่นใด แต่ละดวงยังมีลูกเล่นริบบินทองสลักชื่อดาว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแผนที่สุริยจักรวาลระหว่าศตวรรษที่ 18

กลศิลป์แห่งมวลวัสดุ
เพื่อรังสรรค์ความอัศจรรย์อันได้รับแรงบันดาลใจจากทัศนียภาพบนห้วงเวหน Van Cleef & Arpels ใส่ใจเป็นอย่างยิ่งในการคัดสรร และดำเนินกระบวนการทำงานกับวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัตนชาติ หรือโลหะล้ำค่า ซึ่งต้องถูกนำมาร้อยเรียงอยู่ร่วมกัน อย่างพระอาทิตย์ ซึ่งใช้การจัดช่อรวบก้านทองคำต่างเปลวรังสีเพลิงจำนวนมากกว่า 500 เส้นให้กระจายตัวออกมารอบแกนสุริยะทำจากทองคำสีกุหลาบประดับฝังไพลินเหลือง, โกเมนสีอัคคีหรือสเปสซาไทต์และเพชร ซึ่งเมื่อระบบขับเคลื่อนจักรกลเริ่มทำงาน เส้นทองคำต่างเปลวรังสีความร้อนสุกสว่างเหล่านี้พลันไหวกระเพื่อมสืบเนื่องจาก “ระบบสั่น” (trembleur) ที่ติดตั้งไว้ภายใน และถึงเป็นการขยับเคลื่อนเพียงเล็กน้อย รัตนชาติทั้งหลายก็ยังจรัสประกายระยิบระยับไปตามแรงแผ่วสะเทือนเสมือนการเคลื่อนไหวของเปลวเพลิงรอบดวงสุรีย์

ขั้นตอนประกอบโครงสร้างทองคำสีเหลืองล้อมดาวเคราะห์โลก
งานประกอบโครงสร้างทองคำสีเหลืองล้อมดาวอังคาร

หลากสัญลักษณ์ตามตำนานเทพปกรณัม ถูกนำมาใช้เติมเต็มภาพมิติร่วมกับดาวเคราะห์ทั้งหลาย อาทิ เปลือกหอยใน “กำเนิดวีนัส” ถูกนำมาใช้กับดาวศุกร์ (ซึ่งมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Venus), ลูกศร อันเป็นอาวุธประจำตัวเทพสงคราม “มาร์ส” สำหรับดาวอังคาร เช่นเดียวกับสายฟ้าประจำตัวเทพจูปิเตอร์สำหรับดาวพฤหัสบดี ในขณะที่ดาวพุธทำจากโมราแกลเซโดนีประดับทองคำสีขาวร่วมกับไพลินสีน้ำเงินหลากเฉด ดาวศุกร์ก็จรัสประกายเหลื่อมแสงละมุนตาจากการใช้ควอร์ตซ์สีกุหลาบประกอบทองคำสีกุหลาบฝังไพลินสีชมพู ส่วนดาวเคราะห์โลกทำจากหินแจสเปอร์สีเขียวประดับไพลินสองโทน โดยมีดวงจันทร์บริวารทำจากไข่มุกเม็ดขาวสกาวแสงนวลตาตัดกับพื้นฉากหลังสีน้ำเงินเข้มในตำแหน่งโคจรใกล้กับมุกดาจันทรกานต์สีส้มต่างดาวอังคารท่ามกลางวงล้อมของทองคำสีกุหลาบกลมกลืนกับไพลินสีชมพูทวีประกายอบอุ่นท้ายสุดคือดาวพฤหัสบดีทำจากแจสเปอร์ หรือโมราสลับลายสีส้มเข้มร่วมกับทองคำสีเหลืองฝังเพชรประดับ ขณะเดียวกับที่ดาวเสาร์สะกดสายตาด้วยลูกเล่นสีตัดระหว่างหยกดำกลางวงแหวนทองคำสีขาวประดับไพลิน

การจัดตำแหน่งดวงดาวทองคำสีขาวบนแผ่นชิ้นส่วนพลอยน้ำสมุทร
ขั้นตอนจัดตำแหน่งแผ่นชิ้นส่วนพลอยน้ำสมุทรไปตามโค้งวิถีโคจร

เพื่อรังสรรค์มิติล้ำลึกของห้วงจักรวาล ต้องอาศัยแผ่นพลอยน้ำสมุทรลาพิซ ลาซูลิบางเฉียบ เรียงซ้อนสิบห้าวงรองรับงานประดับดาวทองคำสีกุหลาบกับทองคำสีขาว และงานฝังเพชรหุ้มต่างเกล็ดละอองเทหวัตถุกระจายตัวไปตามแนววิถีโคจรของดาวเคราะห์บริวาร ในขณะที่เหล่าดาวเคราะห์ และดาวตกเคลื่อนตัวตามวิถีโคจรจริงของตนเองท่ามกลางเวิ้งจักรวาลระยับแสง ความงดงามตระการตานำมาซึ่งสองอารมณ์ชวนฝัน ระหว่างความน่าเกรงขามทางปรากฏการณ์ธรรมชาติในระบบสุริยะ กับความเป็นเลิศเหนือจินตนาการทางเทคนิคงานฝีมือ

#watchesandwonders2025 #PoetryOf Time #VCAwatch #VCAWatchesandWonders #VanCleefArpels