VAN CLEEF & ARPELS Cadenas

จุดบรรจบระหว่างประดิษฐกรรมนาฬิกาข้อมือกับหัตถศิลป์เครื่องประดับชั้นสูง คือเส้นทางการใช้ความคิดสร้างสรรค์ อันนำมาซึ่งอาณาจักร “เครื่องประดับบอกเวลา” ของ Van Cleef & Arpels แต่ละผลงานล้วนโดดเด่นในความเป็นเลิศของการใช้ไหวพริบ พลิกแพลงทักษะความชำนาญงานเครื่องประดับมารังสรรค์สู่นาฬิกาข้อมือ อันอำนวยต่อการดูเวลาได้อย่างละเมียดละไมผ่านลูกเล่นซ่อนหน้าปัดหลากรูปแบบ ในขณะเดียวกับที่ความแยบคายของตัวกลัดซ่อน และชั้นเชิงทางเทคนิคประกอบชิ้นส่วน อำนวยให้สายนาฬิกาสง่างาม เต็มไปด้วยความยืดหยุ่น โอบกระชับรอบสรีระข้อมือสนิทแนบ บรรดารัตนชาติล้วนผ่านการคัดสรรตรงตามมาตรฐานคุณภาพอย่างเคร่งครัด จับคู่เทียบสีเปรียบคุณ-ลักษณ์อย่างพิถีพัน

ในปีค.ศ. 1935 นาฬิกาข้อมือ Cadenas (กาเดอนาส์) ก้าวสู่ตำแหน่งผลงานสัญลักษณ์ ตัวแทนหัตถศิลป์บอกเวลาของ Van Cleef & Arpels อย่างรวดเร็วด้วยการหลอมรวมความงามสง่าทางงานออกแบบเข้ากับประโยชน์ใช้สอยลงสู่ความโดดเด่นเป็นหนึ่งของโครงสร้างสายโซ่คู่ขนานทรงปล้องท้องงูยึดตัวเรือนหน้าปัดนาฬิกาจำลองแบบมิติทรงแม่กุญแจ มอบความยืดหยุ่น อำนวยต่อการโอบกระชับรอบโค้งข้อมืออย่างแนบเนียน และเพราะพื้นลาดเอียงของส่วนฐานหน้าปัดบอกเวลา จึงมีแต่ผู้สวมใส่เท่านั้นจะมองเห็นอย่างแยบยลผ่านอากัปพลิกข้อมือเพียงเล็กน้อย ในขณะที่สายตาของบุคคลอื่นรอบข้าง นี่คือเครื่องประดับข้อมือสุดภูมิฐานอย่างแท้จริง

เพื่อสืบสานความแยบคายเชิงประดิษฐกรรม อันถือเป็นมรดกศิลป์เลอค่า และทรงคุณค่าในฐานะผลงานประวัติศาสตร์แห่งเมซง Van Cleef & Arpels ได้รังสรรค์ผลงานรุ่นใหม่จากการประกอบสายคาด “ปล้องท้องงู” ทำจากทองคำสีเหลืองประกอบตัวเรือนกรอบหน้าปัดฝังเพชรเกล็ดหิมะจิกไข่ปลาตัดขอบกับไพลินสีน้ำเงินเจียระไนเหลี่ยมจัตุรัสมุมแหลม (princess-cut) เรียงแถวเดี่ยว ซึ่งลูกเล่นสีตัดจรัสประกายสะกดสายตายังมาปรากฏซ้ำบนชิ้นส่วนตัวกลัดซ่อนของสายคาดโดยใช้งานฝังไพลินเหลี่ยมจัตุรัสแถวเดี่ยว ในขณะที่พื้นหน้าปัดนาฬิกาทองคำสีขาวรองรับงานฝังเพชรเหลี่ยมเกสรระยับแสงเจิดจ้า

ผลงานสัญลักษณ์ Van Cleef & Arpels นับจากปีค.ศ. 1935
นาฬิกาข้อมือ Cadenas เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางการออกแบบท่ามกลางบรรดาประดิษฐกรรมสร้างสรรค์ อันถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมซง ผลงานรุ่นตัวเรือนทองคำสีเหลือง อันถือเป็นต้นแบบชิ้นแรก ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1935 ก่อนตามมาด้วยความหลากหลายทางสีสัน ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือรุ่นซึ่งทำการวางจำหน่ายเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1936 ด้วยงานฝังไพลิน และ/หรือทับทิมเจียระไนปลายสอบฝังเรียงแถวเดี่ยวคาดขอบหน้าตัดลาดเอียงเหนือตัวเรือน กับตำแหน่งด้านหลังตัวซ่อนกลไกตัวกลัดสายคาด ลูกเล่นการใช้สีรัตนชาติตัดโทนกับโลหะโครงสร้างสไตล์นี้ ได้ถูกพลิกแพลงไปสู่ผลงานรุ่นฝังเพชรปีค.ศ. 1938 และมรกตปีค.ศ. 1943 ตามลำดับ

ด้วยงานออกแบบอันเอื้อต่อการดัดแปลง แต่งเติมลูกเล่นใหม่ได้หลากหลาย รวมถึงธรรมเนียมนิยม “เครื่องประดับเพชรน้ำ” นำมาซึ่งผลงานรุ่นประกอบสายโซ่ปล้องท้องงูทำจากแพลทินัมฝังเพชรเหลี่ยมเกสรจิกไข่ปลาร่วมกับเพชรเหลี่ยมบาแก็ตต์แถวเดี่ยวบนตัวเรือน นอกจากนั้น ยังมีการสับเปลี่ยนวัสดุสายโลหะปล้องท้องงูไปเป็นสายหนัง ให้ความรู้สึกทะมัดทะแมง เหมาะแก่การเป็นนาฬิกาสวมใส่ในชีวิตประจำวัน

ด้วยการนำรูปทรงของใช้ในบ้าน ซึ่งในที่นี้ก็คือแม่กุญแจ มารังสรรค์ ดัดแปลงเป็นตัวเรือนนาฬิกาข้อมือ ปรากฏการณ์ประดิษฐกรรมจาก Van Cleef & Arpels จึงไม่ต่างอันใดจากการรื้อฟื้นแนวทางงานออกแบบ “สำเร็จรูป” ซึ่งมารเซล ดูชองพ์ ศิลปินหลากความสามารถได้ริเริ่ม และนำเสนอไว้ผ่านผลงานของเขาระหว่างทศวรรษ 1910 ก่อนมีการพัฒนาขยายผลโดยกลุ่มศิลปินลัทธิเหนือจริงในช่วงทศวรรษ 1930 นอกจากนั้น นาฬิกาข้อมือ Cadenas ยังถือเป็นผลงานจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์อันสะท้อนถึงวิถีมารยาทสังคมของสุภาพสตรีสมัยก่อนว่าด้วยเรื่องของการดูเวลากลางที่สาธารณะ โดยเฉพาะในงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งการยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาถือเป็นเรื่องต้องห้าม ด้วยเหตุนั้น หน้าปัดนาฬิกาติดตั้งตรงตำแหน่งลาดเอียงกับแนวข้อมือ จึงอำนวยต่อการชายตา “ลอบดูเวลา” จากสร้อยข้อมือได้อย่างแยบคายดังปรากฏในภาพโฆษณาเมื่อปีค.ศ. 1936

นาฬิกาข้อมือแถบริบบินซ่อนเวลา Ruban Mystérieux
ศิลปะในการตัดเย็บ เป็นอีกหนึ่งแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจให้แก่เมซงมานับจากเริ่มต้นกิจการ และผลงานสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือเครื่องประดับชั้นสูงแถบริบบินซ่อนเวลา Ruban Mystérieux  (รูบอง มีซเตอริเยอซ์) เรือนนี้คือการถ่ายทอดความอ่อนช้อย และบอบบางของแถบแพรที่โอบกระหวัดรัดรอบสรีระได้อย่างแนบเนียน ละมุนละไมมาสู่โครงสร้างตัวเรือนวงกำไลแถบริบบินรองรับเพชรเดี่ยวคุณภาพ DIF เจียระไนทรงวงรีขนาด 3.72 กะรัตประกอบกลไกเลื่อนเผยหน้าปัดผลึกแก้วคริสตัลระยับแสงติดตั้งเข็มบอกชั่วโมง และนาทีท่ามกลางงานล้อมเพชร เมื่อพิจารณาร่วมกับกลไกไขลานด้วยมือขับเคลื่อนการทำงานของระบบ ซึ่งมีขนาดเล็กอย่างยิ่ง ทั้งกระบวนการสร้างสรรค์ จำเป็นต้องอาศัยความละเอียด พิถีพิถัน และแม่นยำอย่างสูงในการประกอบทุกชิ้นส่วนเข้ากรอบตัวเรือน

สำหรับผลงานชิ้นนี้ ตัวเรือนโลหะทองรองรับงานฝังเพชรเหลี่ยมเกสรชิดขอบ มอบผลลัพธ์เสมือน “พรมหิมะ” ทั่วโครงสร้างร่วมกับงานฝังไพลิน และมรกตซ่อนหนามเตยหรือ Mystery Set อันเป็นเทคนิคซึ่ง Van Cleef & Arpels ได้ดำเนินการจดสิทธิบัตรคุ้มครอบเมื่อปีค.ศ. 1933 จากการใช้ไหวพริบแยบคายออกแบบรูปทรงเจียระไนให้ลงตัวกับการฝังสอดเข้าร่องรางทองก่อนจะนำมาประกอบบนโครงสร้างตัวเรือนหลักเพื่อให้อัญมณีทั้งหลายร่วมกันกลบหน้าโลหะอย่างหมดจด แนบเนียน จรัสประกายระยับแสงละมุนตาดุจแพรใยกำมะหยี่

@vancleefarpels #VanCleefArpels #watchesandwonders2025 #PoetryOf Time #VCAwatch #VCAWatchesandWonders