Last updated: 24 มิ.ย. 2568 | 120 จำนวนผู้เข้าชม |
บาวร์ โอ ลัก (Baur au Lac) โรงแรมระดับตำนานแห่งเมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์ สมาชิกของกลุ่ม The Leading Hotels of the World ประกาศรายชื่อศิลปินที่เข้าร่วมจัดแสดงผลงานในนิทรรศการ Art in the Park ครั้งที่ 23 อย่างเป็นทางการ นิทรรศการศิลปะกลางแจ้งนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ริเริ่มโดย จีจี้ ครัคท์ (Gigi Kracht) ทายาทรุ่นที่ 6 ของครอบครัวผู้บริหารโรงแรม นักสะสมศิลปะและภัณฑารักษ์ผู้ดูแลการคัดสรรผลงานด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด จนกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางศิลปะร่วมสมัยที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในซูริก ทั้งยังเป็นหมุดหมายสำคัญของนักสะสมและผู้หลงใหลศิลปะจากทั่วโลก โดยปีนี้งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ถึง 23 กรกฎาคม 2025 เพื่อสอดคล้องกับช่วงเวลาของสัปดาห์ศิลปะที่สำคัญในซูริกอย่าง Zurich Art Weekend และก่อนงาน Art Basel หนึ่งสัปดาห์
ปีนี้ บาวร์ โอ ลัก จับมือกับ Galerie Eva Presenhuber แกลเลอรีร่วมสมัยชั้นนำของซูริก นำเสนอผลงานของศิลปินระดับนานาชาติชื่อดังหลายท่าน ได้แก่ แซม ฟอลส์ (Sam Falls) จากสหรัฐอเมริกา, มาร์ก แฮนด์ฟอร์ธ (Mark Handforth) จากฮ่องกง, ฌอง-มารี อัปริอู (Jean-Marie Appriou) จากฝรั่งเศส, วาลองแตง การ์รง (Valentin Carron) จากสวิตเซอร์แลนด์ และลูอิซา กาญญาร์ดี (Louisa Gagliardi) จากสวิตเซอร์แลนด์ โดยผสมผสานผลงานจัดแสดงทั้งประติมากรรมและจิตรกรรม นำมาจัดวางอย่างงดงามท่ามกลางสวนเขียวชอุ่มของโรงแรม ซึ่งหันหน้าสู่ทะเลสาบซูริก มอบประสบการณ์ชมงานศิลปะกลางแจ้งในบรรยากาศที่สงบและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
แซม ฟอลส์ (Sam Falls)
ศิลปินชาวอเมริกันผู้ทำงานอยู่บนเส้นขอบบาง ๆ ระหว่างเวลา สถานที่ และความเปราะบางของชีวิต แซม ฟอลส์ สร้างภาษาทางศิลปะของตนเองขึ้นจากการนำ ‘เวลา’ และ ‘การเปิดรับแสง’ ซึ่งเป็นแก่นของกระบวนการถ่ายภาพ มาผสานเข้ากับองค์ประกอบของธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ฟอลส์มักทำงานกลางแจ้งโดยใช้วัสดุพื้นถิ่นที่หาได้จากธรรมชาติ รอบตัว และให้ธรรมชาติกลายเป็นพื้นที่ ของการแสดงออกในเชิง site-specific โดยเขาปฏิเสธการทำซ้ำเชิงกล (mechanical reproduction) และเลือกใช้แนวทางที่เชื่อมโยงกันอย่างเกื้อกูลระหว่าง ‘วัตถุ’ และ ‘เรื่องราว’ อย่างแยกไม่ออก ผลลัพธ์คือการเชื่อมโยงอย่างเป็นธรรมชาติระหว่างศิลปะภาพถ่าย ประติมากรรม และจิตรกรรม ตลอดจนการลดช่องว่างระหว่างศิลปิน ผลงาน และผู้ชม
ผลงานที่จะนำมาจัดแสดงใน Art in the Park 2025 ได้แก่
Reunion (2009) โดย Sam Falls
ฌอง-มารี อัปปริอู (Jean-Marie Appriou)
ประติมากรรมของ ฌอง-มารี อัปริอู ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้มีจินตนาการเป็นอาวุธหลัก มักชวนให้นึกถึงรูปทรงดึกดำบรรพ์ และหยั่งรากในโลกแห่งตำนาน อดีต ปัจจุบัน และอนาคตในเวลาเดียวกัน เขานำแรงบันดาลใจจากทั้งเทพปกรณัม นิยายวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงภาพฝันร่วมสมัย มาหล่อหลอมเข้ากับเทคนิคเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานกับวัสดุอย่าง อะลูมิเนียม และ บรอนซ์ ที่อัปริอูสามารถผลักขีดจำกัดของสื่อเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านการขัดเงา เคลือบผิว หรือผสมผสานกับวัสดุอื่นๆ เช่น แก้วเป่า (blown glass) จนกลายเป็นผลงานที่ให้ความรู้สึกเหมือนผ่านกระบวนการทางเวทมนตร์มากกว่าเพียงการสร้างสรรค์ทางช่างฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสัตว์ มนุษย์ หรือสิ่งที่เกินจริงไปจากความรู้สึก อัปริอูมักวางองค์ประกอบให้ดูคุ้นตา แต่เต็มไปด้วยชั้นเชิงในการตีความ พร้อมกับบ่มเพาะตำนานของตัวเองขึ้นใหม่ในแต่ละชิ้นงาน
ผลงานที่จะจัดแสดงใน Art in the Park 2025 ได้แก่
Fire on the Sea (2020) อะลูมิเนียมเคลือบผิวพิเศษ และแก้ว – ผลงานที่ชวนให้จินตนาการถึงเปลวไฟกลางทะเล ภาพที่เป็นไปไม่ได้แต่กลับชวนหลงใหล
Acid Saliva I (2018) อะลูมิเนียมและแก้ว – รูปทรงเหนือจริงที่เหมือนหลุดออกมาจากห้วงฝันหรือร่างกายของสัตว์แปรสภาพ
Mirage (Erg Chebbi) (2018) อะลูมิเนียม – มิราจหรือภาพลวงตากลางทะเลทรายโมร็อกโก แปรรูปเป็นประติมากรรมที่สื่อถึงความเปราะบางของการรับรู้
Cypress (Vessel) (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – ไซปรัสในรูปแบบของภาชนะ วัตถุที่ดูเหมือนธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งในสัญลักษณ์
Cypress (Rock) (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – ต้นไซปรัสในรูปแบบของหิน สะท้อนความคงทนถาวรของธรรมชาติ
Pân (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – เทพแพนแห่งป่าไม้และเสียงขลุ่ย ถูกตีความใหม่ในภาษาทางประติมากรรมร่วมสมัย
Le joueur de flûte (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – นักเป่าขลุ่ยที่เป็นทั้งบทกวี และเรื่องเล่าในรูปทรงเร้นลับ
Ama pioka (2021) บรอนซ์เคลือบผิว – หนึ่งในสองชิ้นจากซีรีส์ ‘Ama’ ที่อุทิศให้กับนักประดาน้ำหญิงจากตำนานญี่ปุ่น ถ่ายทอดผ่านบรอนซ์เคลือบอย่างประณีต
Ama tali (2021) บรอนซ์ – เคลือบผิวชิ้นคู่กันกับ Ama pioka แสดงถึงอีกภาวะของการดำน้ำ การหายใจ และการดำรงอยู่ใต้น้ำอย่างกลมกลืน
Fire on the Sea (2020) โดย Jean-Marie Appriou
ฌอง-มารี อัปปริอู (Jean-Marie Appriou)
ประติมากรรมของ ฌอง-มารี อัปริอู ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้มีจินตนาการเป็นอาวุธหลัก มักชวนให้นึกถึงรูปทรงดึกดำบรรพ์ และหยั่งรากในโลกแห่งตำนาน อดีต ปัจจุบัน และอนาคตในเวลาเดียวกัน เขานำแรงบันดาลใจจากทั้งเทพปกรณัม นิยายวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงภาพฝันร่วมสมัย มาหล่อหลอมเข้ากับเทคนิคเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานกับวัสดุอย่าง อะลูมิเนียม และ บรอนซ์ ที่อัปริอูสามารถผลักขีดจำกัดของสื่อเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านการขัดเงา เคลือบผิว หรือผสมผสานกับวัสดุอื่น ๆ เช่น แก้วเป่า (blown glass) จนกลายเป็นผลงานที่ให้ความรู้สึกเหมือนผ่านกระบวนการทางเวทมนตร์มากกว่าเพียงการสร้างสรรค์ทางช่างฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสัตว์ มนุษย์ หรือสิ่งที่เกินจริงไปจากความรู้สึก อัปริอูมักวางองค์ประกอบให้ดูคุ้นตา แต่เต็มไปด้วยชั้นเชิงในการตีความ พร้อมกับบ่มเพาะตำนานของตัวเองขึ้นใหม่ในแต่ละชิ้นงาน
ผลงานที่จะจัดแสดงใน Art in the Park 2025 ได้แก่
Fire on the Sea (2020) อะลูมิเนียมเคลือบผิวพิเศษ และแก้ว – ผลงานที่ชวนให้จินตนาการถึงเปลวไฟกลางทะเล ภาพที่เป็นไปไม่ได้แต่กลับชวนหลงใหล
Acid Saliva I (2018) อะลูมิเนียมและแก้ว – รูปทรงเหนือจริงที่เหมือนหลุดออกมาจากห้วงฝันหรือร่างกายของสัตว์แปรสภาพ
Mirage (Erg Chebbi) (2018) อะลูมิเนียม – มิราจหรือภาพลวงตากลางทะเลทรายโมร็อกโก แปรรูปเป็นประติมากรรมที่สื่อถึงความเปราะบางของการรับรู้
Cypress (Vessel) (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – ไซปรัสในรูปแบบของภาชนะ วัตถุที่ดูเหมือนธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งในสัญลักษณ์
Cypress (Rock) (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – ต้นไซปรัสในรูปแบบของหิน สะท้อนความคงทนถาวรของธรรมชาติ
Pân (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – เทพแพนแห่งป่าไม้และเสียงขลุ่ย ถูกตีความใหม่ในภาษาทางประติมากรรมร่วมสมัย
Le joueur de flûte (2018) อะลูมิเนียมหล่อ – นักเป่าขลุ่ยที่เป็นทั้งบทกวี และเรื่องเล่าในรูปทรงเร้นลับ
Ama pioka (2021) บรอนซ์เคลือบผิว – หนึ่งในสองชิ้นจากซีรีส์ ‘Ama’ ที่อุทิศให้กับนักประดาน้ำหญิงจากตำนานญี่ปุ่น ถ่ายทอดผ่านบรอนซ์เคลือบอย่างประณีต
Ama tali (2021) บรอนซ์ – เคลือบผิวชิ้นคู่กันกับ Ama pioka แสดงถึงอีกภาวะของการดำน้ำ การหายใจ และการดำรงอยู่ใต้น้ำอย่างกลมกลืน
Fire on the Sea (2020) โดย Jean-Marie Appriou
มาร์ก แฮนด์ฟอร์ธ (Mark Handforth)
ผลงานของ มาร์ก แฮนด์ฟอร์ธ ศิลปินที่สนใจในภาษาทางประติมากรรมซึ่งสะท้อนชีวิตเมืองและวัตถุใกล้ตัวที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่น ป้ายจราจร โคมไฟถนน รถสกู๊ตเตอร์ ล้อรถบรรทุก หัวดับเพลิง หลอดไฟนีออน และเทียนไข แฮนด์ฟอร์ธมักนำวัตถุเหล่านี้ มาดัดแปลงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปร่างหรือสร้างซ้ำในขนาดที่ใหญ่ กว่าปกติอย่างมาก จนทำให้หลายครั้งผู้ชมเกิดความสงสัยว่างานเหล่านี้เป็นงาน ready-made หรือไม่ แต่สำหรับเขาเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะเป้าหมายของเขาไม่ใช่การถ่ายทอดความจริงอย่างตรงไปตรงมา หากแต่เป็นการจัดวางองค์ประกอบของวัตถุที่คุ้นเคยในรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างจุดเชื่อมโยงหรือเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้ชม
ผลงานที่จะจัดแสดงใน Art in the Park 2025 มีชื่อว่า Seal ประติมากรรมหล่อบรอนซ์ที่มี โครงสร้างเหล็กภายใน ตั้งอยู่บนฐานคอนกรีต
Seal (2012) โดย Mark Handforth
ลูอิซา กาญญาร์ดี (Louisa Gagliardi)
จิตรกรรมชุดใหม่ของ ลูอิซา กาญญาร์ดี ศิลปินผู้พำนักอยู่ในซูริก จะจัดแสดงภายในโรงแรม ผลงานของเธอเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนตัวตนทั้งของศิลปินและผู้ชม พร้อมกับสำรวจความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ในโลกที่เต็มไปด้วยการมองเห็นและการสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ ความพิเศษของผลงานเหล่านี้อยู่ที่สถานะก้ำกึ่งระหว่างภาพที่สร้างขึ้นด้วยดิจิทัลและวัตถุที่ มีตัวตนจริงในทางกายภาพสะท้อนทั้งความกังวลร่วมสมัยเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้ นและจัดการด้วยตัวเอง รวมถึงองค์ประกอบและเรื่องราวที่สืบทอดมาจากงานศิลปะคลาสสิกในประวัติศาสตร์ศิลปะอีกด้วย
Reunion (Room 7) (2025) โดย Louisa Gagliardi
ซีรีส์ผลงานชุดใหม่ในชื่อ Reunion ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับห้อง Salon I และ II ของโรงแรมบาวร์ โอ ลัก โดยมีแนวคิดที่สะท้อนถึงพื้นที่ ก้ำกึ่งของโรงแรมและห้องประชุม ซึ่งเป็นธีมที่ศิลปินหยิบมาใช้ซ้ำในผลงานหลายชิ้น พื้นที่เหล่านี้มีชีวิตจากผู้ คนและปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะกลับคืนสู่ความเงียบสงบและสภาพแวดล้อมที่เป็นกลาง ศิลปินใช้เทคนิค trompe-l’oeil หรือภาพลวงตา จำลองประตูฝรั่งเศสภายในห้องให้ดูสมจริง ราวกับหน้าต่างที่เปิดไปสู่ช่วงเวลาในจินตนาการอื่นๆ โดยชื่อ Reunion เองก็ชวนให้นึกถึงการกลับมาพบกันอีกครั้งของผู้คนที่มี ความทรงจำร่วมกัน ซึ่งการพบเจอเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอารมณ์หลากหลาย ตั้งแต่ความปิติยินดีไปจนถึงความรู้สึกสะเทือนใจอย่างเงียบงัน
แม้ภาพเปิดในผลงานจะมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง แต่กลับแสดงถึงพื้นที่เหนือจริงที่บางครั้งดูเหมือนไร้ที่สิ้นสุดและเวียนหัว ตัวละครที่อยู่ในภาพดูเหมือนรับรู้ถึงการมีอยู่ของกันและกันโดยไม่แสดงออกอย่างชัดเจน ผู้มาเยือนเป็นได้ทั้งผู้สังเกตและผู้ถูกสังเกต ได้รับเชิญให้มาแต่ก็เหมือนเป็นผู้บุกรุกในเวลาเดียวกัน
จีจี้ ครัคท์ (Gigi Kracht)
จีจี้ ครัคท์ นักสะสมศิลปะตัวยง สมาชิกคณะกรรมการพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ และนักเขียนผู้ใช้ชีวิตอยู่ระหว่างนิวยอร์กและซูริก เธอเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนิทรรศการ Art In The Park เมื่อ 25 ปีก่อน ระหว่างรับประทานอาหารเช้ากับศิลปินและประติมากรชาวโคลอมเบียผู้ล่วงลับ เฟอร์นันโด โบเตโร (Fernando Botero) ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและแขกประจำของโรงแรมบาวร์ โอ ลัก บนระเบียงที่มองเห็นทัศนียภาพอันงดงาม แนวคิดของนิทรรศการ Art In The Park ศิลปะกลางแจ้งนี้จึงถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นกิจกรรมสำคัญในปฏิทินศิลปะนานาชาติตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นหนึ่งในไฮไลต์ก่อนการจัดงาน Art Basel ในแต่ละปี ดึงดูดผู้ชื่นชอบงานศิลป์จากทั่วโลก
นิทรรศการนี้จัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของสวน Baur au Lac Park อันเงียบสงบใจกลางเมือง เปิดพื้นที่ให้ทั้งศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินแถวหน้าจากทั่วโลกได้นำเสนอผลงานร่วมสมัยที่ น่าจับตา ศิลปินหลายคนที่เคยร่วมจัดแสดงที่นี่ ต่อมาได้กลายเป็นดาวเด่นในวงการศิลปะ อาทิ นิโคลัส ปาร์ตี (Nicolas Party) ศิลปินชาวสวิส ผู้มีลายเซ็นชัดเจนในการใช้โทนสีพาสเทลในงานจิตรกรรม ผลงานที่เขาสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับโรงแรมแขวนอยู่หลังเคาน์เตอร์ต้อนรับของบาวร์ โอ ลัก อย่างภาคภูมิ นอกจากนี้ยังมีศิลปินระดับโลกอีกมากมายที่เคยร่วมแสดงใน Art in The Park ได้แก่ วิลเลียม เคนทริดจ์ (William Kentridge), มาร์ติน ครีด (Martin Creed), ริตา แอคเคอร์แมน (Rita Ackermann), ฌูอัน มิโร (Joan Miró), อัลเลน โจนส์ (Allen Jones), เมล รามอส (Mel Ramos), โรเทราต์ ไคล์น-โมเคย์ (Rotraut Klein-Moquay), ลูอิส บูร์ฌัวส์ (Louise Bourgeois), โรเบิร์ต อินเดียนา (Robert Indiana), ยานี เลอโนเนน (Jani Leinonen) และ มาร์โค เปเรโก (Marco Perego) ซึ่งหลายคนยังคงรักษามิตรภาพอันแน่นแฟ้นกับจีจี้ ครัคท์มาจนถึงทุกวันนี้
ศิลปะและการออกแบบที่ Baur au Lac
ศิลปะและการออกแบบอันเปี่ยมรสนิยม คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของโรงแรมบาวร์ โอ ลัก ที่สื่อถึงความเป็นเลิศของงานฝีมือสวิสอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สาธารณะ ห้องพักทั้ง 119 ห้อง ไปจนถึงห้องสวีตหลากหลายรูปแบบ ล้วนสะท้อนรสนิยมและความประณีตผ่านรายละเอียดที่พิถีพิถันในทุกมิติ โดยผลงานศิลปะจำนวนมากได้รับการคัดสรรโดยตรงจาก จีจี้ ครัคท์ ด้วยสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในแวดวงศิลปะและมิตรภาพอันลึกซึ้งกับศิลปินหลายท่าน ไฮไลต์ของงานศิลปะภายในโรงแรม ได้แก่ ผลงานพิเศษที่สั่งทำพิเศษจาก ราชิด จอห์นสัน (Rashid Johnson) ศิลปินชาวอเมริกัน และ แมทธิว เดย์ แจ็กสัน (Matthew Day Jackson) จากบรูกลิน ซึ่งจัดแสดงอยู่ในบริเวณ Baur’s Brasserie ขณะที่ผนังห้องพักของโรงแรมก็ตกแต่งด้วยภาพพิมพ์หิน (lithographs) ของ เลอ กอร์บูซิเยร์ (Le Corbusier) และภาพถ่ายจากศิลปินระดับตำนานอย่าง อัลแบร์โต จาโคเมตติ (Alberto Giacometti) และ เรเน โกรบลี (René Groebli)
งานนิทรรศการ Art In The Park จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ถึง 23 กรกฎาคม 2025 เปิดให้เข้าชมทุกวัน ณ Baur au Lac Park สวนสวยในโรงแรมบาวร์ โอ ลัก เมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์ สำหรับแขกผู้เข้าพักที่ โรงแรมสามารถเข้าชมได้ฟรี และผู้เยี่ยมชมทั่วไปสามารถเข้าชมงานนิทรรศการได้ภายหลังจากใช้บริการเครื่องดื่มหรือรับประทานอาหารในบาร์หรือร้านอาหารของโรงแรม
ราคาห้องพักโรงแรม Baur au Lac ซูริก เริ่มต้นที่ 695 สวิสฟรังก์ (ประมาณ 28,000 บาท) ต่อคืน อ้างอิงจากราคาห้อง Deluxe Double สำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน ไม่รวมอาหารเช้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bauraulac.ch/en
เกี่ยวกับ บาวร์ โอ ลัก (Baur au Lac)
โรงแรมบาวร์ โอ ลัก สมาชิกของกลุ่ม The Leading Hotels of the World เป็นหนึ่งในโรงแรมหรูระดับแถวหน้าของโลกที่ดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 178 ปี ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองซูริกที่โดดเด่นด้วยสวนส่วนตัว มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบซูริกและเทือกเขาแอลป์ ให้บริการห้องพักทั้งหมด 119 ห้อง แบ่งเป็นจูเนียร์สวีต 27 ห้อง และห้องสวีต 18 ห้อง ตกแต่งในสไตล์ที่หลากหลาย ทั้งอาร์ตเดโก หลุยส์ที่ 16 และรีเจนซีแบบอังกฤษ ผสานองค์ประกอบร่วมสมัย และเลือกใช้ผ้าคุณภาพเยี่ยมจากฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษ ด้านอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของซู ริก โดยในเดือนกันยายน 2024 ได้เปิดตัวห้องอาหารคอนเซ็ปต์ ใหม่สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนในชื่อ มาร์กิตา (Marguita) สำหรับแขกและชาวเมืองซูริก ขระที่ บาวร์ส (Baur’s) บราสเซอรีและบาร์สไตล์ ร่วมสมัย เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 และในเดือนตุลาคม 2020 บาวร์ โอ ลัก ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงแรมอันดับ 1 ของโลก และอันดับ 1 ในยุโรปต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากผลโหวตของผู้อ่านนิตยสาร Condé Nast Traveler ประเทศสหรัฐอเมริกา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bauraulac.ch
19 มิ.ย. 2568
20 มิ.ย. 2568
23 มิ.ย. 2568
24 มิ.ย. 2568