Last updated: 2 ก.ย. 2568 | 253 จำนวนผู้เข้าชม |
ถักร้อยรอยบุปผา Flowerlace
เครื่องประดับ “ถักร้อยรอยบุปผา” หรือ Flowerlace คอลเลกชันใหม่สะกดสายตาด้วยประกายเหลืองอร่ามของทองคำจรัสประกายพราวเพชรระยิบระยับราวต้องแสงจากดวงตะวัน ถ่ายทอดความสดใส มีชีวิตชีวาในธรรมชาติ จุดกำเนิดแรงบันดาลใจอันเป็นที่รักยิ่งตลอดกาลของเมซง นอกจากนั้น ด้วยความงามสง่าทางสุนทรียศิลป์ในการใช้เส้นโค้งออกแบบมิติทรง โครงสร้างตัวเรือนเปิดโปร่ง น้ำหนักเบา จำลองงานขดม้วนแถบริบบิน ถักร้อยอย่างอ่อนช้อยตามรอยลักษณ์ของวงกลีบดอกไม้ประดับอาภรณ์ สะท้อนถึงหนึ่งในแนวทางการสร้างสรรค์อันทรงแบบฉบับของ VAN CLEEF & ARPELS นั่นก็คือแฟชัน หรือ “ศิลปะงานตัดเย็บ” ได้อย่างชัดเจน
แหวนหว่างนิ้ว Flowerlace Between the Finger ring ตัวเรือนเล็ก
ทองคำสีเหลืองประดับเพชร
จี้เข็มกลัด Flowerlace ตัวเรือนใหญ่
ทองคำสีเหลืองประดับเพชร
เครื่องประดับ “ถักร้อยรอยบุปผา” หรือ Flowerlace คอลเลกชันใหม่ ประกอบไปด้วยห้าผลงานสร้างสรรค์อันได้แก่แหวน, แหวนหว่างนิ้วหรือ Between the Finger ring, ต่างหูหนึ่งคู่, จี้สร้อยคอ และเข็มกลัดจี้สร้อยคอ ซึ่งสามารถ แพลงวิธีสวมใส่ได้สองแบบ แสดงถึงรสนิยมชมชอบของเมซงที่มีต่อศิลปะในการดัดแปลงเครื่องประดับได้อย่างละเมียดละไม ผลงานสร้างสรรค์ทั้งห้าถือกำเนิดจากการหลอมรวมไหวพริบ พลิกแพลงทักษะความชำนาญเฉพาะด้านของบรรดาช่างฝีมือต่างแขนงประจำเมซง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคนิคหล่อแบบสูญขี้ผึ้งหรือ lost-wax casting กระบวนการหล่อแบบโลหะละลายไขผึ้ง หรือไขแว็กซ์แบบโบราณ ด้วยการขึ้นต้นแบบประติมากรรมไขแว็กซ์ให้ได้รูปทรงโมทิฟตามต้องการเป็นอันดับแรกก่อนหุ้มทับด้วยวัสดุเนื้อแข็งเป็นกรอบแม่พิมพ์ชั้นนอก จากนั้นจึงนำไปเผาเพื่อละลายไขผึ้งให้สำรอกตัวออกมา พร้อมกับเทโลหะทองคำหลอมเหลวสำหรับหล่อแบบชิ้นส่วนลงไปแทนที่ เมื่อโลหะเลอค่าแข็งตัวได้รูปจึงทำการกระเทาะเอากรอบแม่พิมพ์ชั้นนอกออก ลำดับต่อมา ช่างทำตัวเรือนเครื่องประดับ ก็จะใช้ความชำนาญเหนือชั้นทางงานฝีมือของตนตกแต่ง เก็บรายละเอียดของของชิ้นงานจนได้ผิวเรียบเนียน เกลี้ยงเกลาสำหรับนำไปฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือน และขัดผิวเป็นอันดับสุดท้าย
จี้เข็มกลัด Flowerlace ตัวเรือนขนาดใหญ่
ทองคำสีเหลืองประดับเพชร
ต่างหู Flowerlace ตัวเรือนขนาดเล็ก
ทองคำสีเหลืองประดับเพชร
แหวน Flowerlace ตัวเรือนขนาดกลาง
ทองคำสีเหลืองประดับเพชร
โครงสร้างเปิดโปร่งของตัวเรือนอ่อนช้อยราว “ถักร้อยรอยบุปผา” ด้วยขดลวดทองจำลองแบบโบว์ดอกไม้แถบริบบิน ล้อมวงเขี้ยวหนามเตยก้านช่อเกสรลูกปัดทองโอบรอบพวงเพชรต่างขนาด จัดตำแหน่งในสัดส่วนอสมมาตร มอบความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว และเปลี่ยนแปลงตามวงจรธรรมชาติได้อย่างละเมียดละไม แต่ละชิ้นส่วนของโมทิฟวงกลีบดอก “ถักร้อยรอยบุปผา” อันประกอบไปด้วยโครงวงกลีบ, เขี้ยวหนามเตยก้านเกสรปลายลูกปัด และพวงเกสรฝังเพชร ล้วนผ่านกระบวนการงานฝีมือขัดผิว ซึ่งต้องใช้ความประณีต แม่นยำ และอดทนเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ทุกรายละเอียดของเนื้อทองหมดจด เกลี้ยงเกลา ต้องแสงทอประกายเงางามอย่างเต็มที่ อำนวยต่อการล้อแสงตกกระทบพวงเพชรให้จรัสแสงระยิบระยับประดับผิวอย่างงามสง่า เพชรแต่ละเม็ดล้วนผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันตามมาตรฐานคุณภาพระดับสูงอย่างเคร่งครัด นั่นคือ D ถึง F ในแง่ของสี และ IF ถึง VVS ในแง่ของความกระจ่างใส บริสุทธิ์ ปราศจากตำหนิก่อนถึงมือช่างขึ้นตัวเรือน ซึ่งต่างบรรจงฝัง
แหวนหว่างนิ้ว Flowerlace Between the Finger ring ตัวเรือนขนาดเล็ก
ทองคำสีเหลืองประดับเพชร
งานประกอบช่อเกสรเพชร
งานขัดผิวขั้นตอนสุดท้ายของแหวนหว่างนิ้ว
อัญมณีเลอค่าลงบนเขี้ยวหนามเตยตามตำแหน่งไล่ระดับบนก้านพวงเกสรสำหรับนำไปประกอบเข้ากับชิ้นส่วนวงเขี้ยวหนามเตยก้านเกสรปลายลูกปัดที่ผ่านการดัดโค้งให้โอบล้อมรายรอบอย่างลงตัว บนปลายเปิดด้านหนึ่งของแหวนหว่างนิ้วหรือ Between the Finger ring วงกลีบดอกไม้ผลิบานในตำแหน่งที่คล้ายกำลังสดับฟังเสียงสนทนาจากเพชรเดี่ยวซึ่งถูกฝังสอดหุ้มรอบอยู่บนปลายอีกด้าน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ Van Cleef & Arpels ได้อย่างสง่างาม
คอลเลกชันอันสะท้อนถึงสไตล์ของเมซง
ผลงานคอลเลกชันใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงสองแนวทางงานออกแบบอันถือเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกสไตล์ของ Van Cleef & Arpels ได้อย่างชัดเจน อันดับแรก งานออกแบบ “ถักร้อยรอยบุปผา” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเข็มกลัด “โครงเส้นมิติทรง” หรือ Silhouette (ซิลูแอ็ตต์) รุ่นต่างๆ ซึ่งเมซงสรรค์สร้างขึ้นเมื่อปลายทศวรรษ 1930 ด้วยการนำลูกเล่นลายเส้นคดเคี้ยว และต่อเนื่องดังปรากฏในอลังการศิลป์ยุคนั้นมาใช้ถ่ายทอดความงดงามของมวลพฤกษาแทนที่เครื่องประดับรูปดอกไม้ตามกระแสสมัยนิยม ขดลวดทองคำเส้นบอบบางถูกดัดโค้งขึ้นรูปโครงเส้นมิติทรงดอกไม้โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างน้ำหนักเนื้อโลหะที่ปรากฏต่อสายตากับช่องว่างเปิดโปร่ง ขณะเดียวกัน ก็อำนวยต่อการเติมประกายสุกสว่างระยับแสงจากบรรดารัตนชาติเลอค่าในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวงเกสร หรือเกี่ยวกระหวัดมัดปมตรงกึ่งกลาง มอบผลลัพธ์อ่อนช้อย และงามสง่าเสมือนงานฝีมือร้อยริบบินมัดปมเป็นดอกไม้ตกแต่งเสื้อผ้า เป็นบทสรุปความผูกพันระหว่างศิลปะการตัดเย็บกับเครื่องประดับ และทรงคุณค่าอย่างยิ่งในฐานะผลงานมรดกแห่งเมซง นอกจากนั้น ผลงานเหล่านี้ยังสะท้อนถึงงานออกแบบเครื่องประดับชั้นสูง Flowerlace อันหมายถึง “ลูกไม้ลายดอก” ซึ่งถูกตั้งชื่อขึ้นเพื่อยกย่องความผูกพันระหว่างธรรมชาติกับแฟชันโดยอาศัยตัวเรือนทองคำสีขาวทวีประกายเจิดจ้าของเพชรน้ำ มอบความงามสง่าตระการตาในปีค.ศ. 2007
เข็มกลัดทรง (Silhouette clip) ค.ศ. 1937 ทองคำสีเหลือง ประดับทับทิมกับเพชร
Van Cleef & Arpels Collection
บัตรข้อมูลรายละเอียดของเข็มกลัด Silhouette รุ่นปีค.ศ. 1937
จากแผนกจัดเก็บเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Van Cleef & Arpels
www.presslounge.vancleefarpels.com
#VCAflowerlace #VCAfleursdhawai #VCAflora @vancleefarpels
20 ส.ค. 2568
1 ก.ย. 2568
22 ส.ค. 2568
2 ก.ย. 2568