CZAPEK & CIE. Antarctique Rattrapante R.U.R.

Last updated: 3 ก.ย. 2568  |  50 จำนวนผู้เข้าชม  | 

CZAPEK & CIE. Antarctique Rattrapante R.U.R.

วันหนึ่งในอนาคต หุ่นยนต์จะก้าวขึ้นมามีอำนาจเหนือชีวิตมนุษย์หรือไม่?
หรือมนุษย์ผู้แสวงหาความงามและความหมายในโลกกลไก จะยังคงเป็นผู้กำหนดชะตาตนเอง?

คำตอบอาจแฝงอยู่ใน Antarctique Rattrapante ‘R.U.R.’ นาฬิกาเรือนใหม่ล่าสุดจาก Czapek & Cie ที่นำหุ่นยนต์ตัวน้อยเข้ามาเติมชีวิตชีวาให้กับการจับเวลา โดยเผยโฉมกลไกสุดซับซ้อนผ่านหน้าปัดแซฟไฟร์เคลือบเทาใส หากกดปุ่มเริ่มจับเวลา ดวงตาของหุ่นยนต์จะเปล่งประกายสีเหลือง คล้ายกับ Shrikes ในภาพยนตร์ Mortal Engines เมื่อหยุดการทำงาน ดวงตากลายเป็นสีแดง และหากรีเซ็ต เขาจะเปลี่ยนตาเป็นสีน้ำเงิน หุ่นกลเล็กๆ นี้ไม่เพียงสร้างความสนุก หากยังทำให้ผู้สวมใส่สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของกลไกที่กำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง



หน้าปัดรุ่น R.U.R. โดดเด่นด้วยรายละเอียดเฉพาะ เช่น เข็มโครโนกราฟสีขาว เข็มแยกวินาทีอลูมิเนียมสีน้ำเงินปลายขาว และสัญลักษณ์ “XX” บนวงจับเวลารอบนอกและซับไดอัล ซึ่งแทนภาษาหุ่นยนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอักษร Yautja ในภาพยนตร์ Predator ตีความอย่างขี้เล่นร่วมกับตัวอักษร “X” ของ Xavier de Roquemaurel ซีอีโอของแบรนด์นั่นเอง หัวหุ่นยนต์ที่ถูกวางเด่นกลางกลไกคือผลงานศิลป์ย่อส่วน สร้างขึ้นโดยพันธมิตร MD’Art จากไทเทเนียม ผ่านการตัด ขัดเงา และสลักด้วยเลเซอร์อย่างประณีต ก่อนระบายสีตาทีละดวงด้วยโทนนีออนสดใสทั้งสามเฉด

จากบทละครสู่แรงบันดาลใจ
แรงบันดาลใจของนาฬิการุ่นนี้ย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ.1921 เมื่อคำว่า “Robot” ถูกเผยแพร่สู่โลกครั้งแรกในบทละคร R.U.R. – Rossum’s Universal Robots ของนักเขียนชาวเช็ก Karel Čapek เรื่องราวกล่าวถึงมนุษย์กลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานแทนคน แต่กลับลุกฮือขึ้นต่อต้านผู้สร้าง สะท้อนความกังวลต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่อาจพรากความเป็นมนุษย์ไป ละครเรื่องนี้แพร่หลายอย่างรวดเร็วและวางรากฐานให้กับโลกไซไฟที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Terminator หรือ Blade Runner หนึ่งศตวรรษให้หลัง Czapek & Cie ได้นำแนวคิดนี้กลับมาตีความใหม่ ผ่านหุ่นยนต์บนหน้าปัดที่ไม่ใช่สัญลักษณ์แห่งการกบฏ หากแต่เป็นการเฉลิมฉลองความงามของกลไกจักรกล


กลไกที่เผยความลับออกสู่สายตา
กลไกคาลิเบอร์ SXH6 ซึ่งพัฒนาโดย Jean-François Mojon แห่ง Chronode ได้พลิกแนวคิดการออกแบบ โดยนำกลไกจับเวลาวินาทีแยก (split-seconds chronograph) ที่ปกติซ่อนอยู่ด้านหลังเครื่อง ให้ขึ้นมาอยู่บนด้านหน้าปัด ผู้สวมใส่จึงได้ชมทุกจังหวะของคอลัมน์วีล แคลมป์ และคลัตช์ที่ทำงานสอดประสานกันอย่างงดงาม หัวหุ่นยนต์ถูกติดตั้งไว้เหนือคอลัมน์วีล เมื่อกดปุ่มสตาร์ท สต็อป หรือรีเซ็ต กลไกจะสั่งให้ดวงตาของหุ่นยนต์เปลี่ยนสีในทันที ผสานรูปแบบและหน้าที่เข้าด้วยกันอย่างแยบยล เพื่อให้หุ่นยนต์ดูสมบูรณ์แบบที่สุด ทีมงานต้องทดลองปรับพื้นผิวและสีสันนับครั้งไม่ถ้วน แม้เพียงการเปลี่ยนเฉดสีเล็กน้อยก็ส่งผลต่อสมดุลโดยรวม นี่คือความพิถีพิถันในระดับศิลปะชั้นสูงที่สะท้อนอัตลักษณ์ของ Czapek อย่างแท้จริง

ความงามที่ซ่อนอยู่ภายใน
เหนือกว่าฟังก์ชันจับเวลาแบบ split-seconds นาฬิกาเรือนนี้ยังมีนวัตกรรม “Isolator” กลไกที่ช่วยลดแรงเสียดทานและการรบกวนความเที่ยงตรงขณะใช้งาน ถือเป็นการยกระดับโครโนกราฟแยกวินาทีของ Czapek ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ทุกองค์ประกอบผ่านการตกแต่งด้วยงานหัตถศิลป์ haute horlogerie ตั้งแต่สกรูขัดเงาเงามัน คานและสะพานจักรที่ตัดมุมด้วยมือ ไปจนถึงโรเตอร์ทองกุหลาบรีไซเคิล 5N ที่ประดับอยู่ด้านหลัง สายข้อมือแบบอินทิเกรตสะท้อนรายละเอียดเดียวกันด้วยผิวปัดด้านสลับขัดเงาอย่างกลมกลืนกับตัวเรือนขนาด 42.5 มม.


Antarctique Rattrapante ‘R.U.R.’ ผลิตเพียง 77 เรือนทั่วโลก พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2025 ที่บูติกเจนีวา ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก และทางเว็บไซต์ Czapek

นี่คือนาฬิกาที่ไม่เพียงบอกเวลา หากยังเล่าเรื่องราวของมนุษย์ หุ่นยนต์ และความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับวิทยาศาสตร์ที่ยืนยาวข้ามศตวรรษ — ถ่ายทอดผ่านดวงตาสามสีของหุ่นยนต์ตัวจิ๋ว ที่จับจ้องผู้สวมใส่อยู่ทุกวินาที

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้