Last updated: 5 ก.ย. 2568 | 239 จำนวนผู้เข้าชม |
101 (LM101) เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 มาพร้อมตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร นับเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีขนาดเล็กและบางที่สุดในคอลเลกชั่น Legacy Machine แม้จะมีรูปลักษณ์กะทัดรัด แต่สะกดสายตาด้วยงานออกแบบเชิงมิติที่ซับซ้อน โดยเฉพาะบาลานซ์วีลแบบ “ลอยตัว” ขนาด 14 มิลลิเมตร ที่โดดเด่นอยู่เหนือกลไก
ตามชื่อรุ่น “101” ซึ่งสื่อถึงพื้นฐานเบื้องต้น นาฬิการุ่นนี้จึงมุ่งเน้นที่องค์ประกอบหลักสำคัญของนาฬิกากลไก ได้แก่
บาลานซ์วีล ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความเที่ยงตรง การแสดงพลังงานสำรอง ที่บ่งบอกว่ากลไกยังเหลือพลังงานในลานอีกมากน้อยเพียงใดและเมื่อใดที่ควรขึ้นลาน และแน่นอนที่สุดคือ การแสดงเวลา ซึ่งเป็นหัวใจหลักของนาฬิกาทุกเรือน
กลไกของ LM101 ถือเป็นคาลิเบอร์แรกที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมวิศวกรภายในของ MB&F โดยมีช่างนาฬิกาอิสระระดับรางวัลอย่าง Kari Voutilainen เข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบและกำหนดรายละเอียดงานขัดแต่ง เพื่อให้มั่นใจว่าชิ้นส่วนกลไกและเทคนิคการขัดแต่งด้วยมือตามสไตล์ศตวรรษที่ 19 นั้นจะสอดคล้องกับมาตรฐานของศาสตร์การทำนาฬิกาชั้นสูง และยังคงยึดถือขนบธรรมเนียมการทำนาฬิกาไว้อย่างเคร่งครัด
ทศวรรษที่ผ่านมา นาฬิกาคอลเลกชั่นนี้ได้รับการพัฒนาออกมาในหลากหลายเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนไวท์โกลด์
โรสโกลด์ เยลโลว์โกลด์ แพลทินัม แพลลาเดียม และสเตนเลสสตีล พร้อมด้วยหน้าปัดที่มีสีสันและผิวสัมผัสหลากหลาย โดดเด่นไม่แพ้กันในแต่ละรุ่น เรียกได้ว่าแต่ละผลงานล้วนมีเสน่ห์น่าหลงใหลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
LM101 ได้กลายเป็นหนึ่งในผลงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของ MB&F และตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหล่านักสะสม
และผู้หลงใหลในนาฬิกาต่างเรียกร้องให้มีการสร้างเวอร์ชั่น EVO ออกมา เพื่อตอบรับคำเรียกร้องนี้ และเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ในปี 2025 MB&F จึงตัดสินใจเปิดตัว LM101 EVO อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นทั้งการเฉลิมฉลองต่อสองทศวรรษแห่งศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกา และเป็นคำขอบคุณต่อผู้ที่ชื่นชอบนาฬิการุ่นนี้อีกด้วย
วิวัฒนาการของ EVO
ผลงาน EVO เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ด้วยนาฬิกา LM Perpetual EVO ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรุ่น LM Perpetual ที่เคยคว้ารางวัล หลังจากนั้นได้เปิดตัว LM Split Escapement EVO และ LM Sequential EVO ในปี 2022
การปรับโฉมในแบบ EVO คือการพัฒนาในด้านการออกแบบและวิศวกรรมที่ถูกนำมาใช้กับรุ่นต่าง ๆ ของ Legacy Machine เพื่อยกระดับให้กลายเป็นนาฬิกาที่เหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จุดเด่นของรุ่น EVO ได้แก่ ความสามารถในการกันน้ำได้ลึก 80 เมตร เม็ดมะยมแบบขันเกลียว สายยางแบบยึดเข้ากับตัวเรือน และระบบกันกระแทก FlexRing ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ MB&F ติดตั้งอยู่ระหว่างตัวเรือนกับกลไกเพื่อปกป้องนาฬิกาขณะใช้งานในกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความทนทานและสวมใส่สบาย นาฬิการุ่นนี้ยังผลิตจากวัสดุไฮเทค เช่น เซอร์โคเนียมและไทเทเนียม
ทางด้านดีไซน์ นาฬิกา EVO โดดเด่นด้วยตัวเรือนที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และสายที่ยึดต่อกับตัวเรือนอย่างลงตัว อีกทั้งยังตัดขอบตัวเรือนแบบดั้งเดิมออกไป เพื่อเปิดมุมมองให้เห็นหน้าปัดอย่างชัดเจนผ่านกระจกแซฟไฟร์ทรงโดม
พร้อมด้วยการเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่าที่ช่วยเพิ่มความชัดเจนในการอ่านค่าเวลา ส่วนด้านกลไก รุ่น EVO
มาพร้อมการตกแต่งในโทนสีเข้ม เสริมลุคสปอร์ตและดูทันสมัย
LM101 EVO ผลงานเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี
เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีของ MB&F ในปี 2025 ทางแบรนด์ได้เปิดตัว LM101 EVO รุ่นพิเศษใน 2 เวอร์ชั่น
ที่ผลิตจากไทเทเนียม โดยมาพร้อมหน้าปัดให้เลือกสองสี ได้แก่ สีแซลมอน และ สีเขียวพีค็อก สีของแผ่นหน้าปัดได้จากกระบวนการ CVD ซึ่งเป็นเทคนิคที่เลือกใช้เนื่องจากมีข้อได้เปรียบทางเทคนิค โดยเฉพาะเมื่อแผ่นหน้าปัดเป็นส่วนหนึ่ง
ของโครงสร้างกลไกหลัก รุ่นสีเขียวพีค็อกมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยเฉดสีที่เปลี่ยนไปตามมุมมอง แสงสะท้อน
เฉดสีเขียว น้ำเงิน และม่วงอย่างมีมิติ ส่วนรุ่นสีแซลมอนก็ไม่แพ้กันในแง่ความคลาสสิก เพราะเป็นหนึ่งในสีที่พบได้ค่อนข้างน้อยในนาฬิกาของ MB&F
ถ้าหากลองสังเกตจะเห็นรายละเอียดใหม่ ๆ ในรุ่น EVO โดยหน้าปัดย่อยสีดำทั้งสองส่วนที่ลอยอยู่เหนือแผ่นหน้าปัด ได้รับการตกแต่งขอบเป็นวงกลมอย่างบรรจง ที่มุมบนขวาหน้าปัดแสดงชั่วโมงและนาทีซึ่งอ่านง่ายชัดเจน ได้รับการแสดงผลด้วยเข็มไวท์โกลด์ดีไซน์ใหม่ ส่วนมาตรวัดพลังงานสำรองที่อยู่ในหน้าปัดย่อยด้านล่าง แสดงถึงการพัฒนาครั้งสำคัญ เพราะระยะเวลาพลังงานสำรองของกลไก LM101 EVO ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 45 ชั่วโมง เป็น 60 ชั่วโมง เพื่อสอดคล้อง
กับแนวคิดสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ซุ้มคู่โค้งที่รองรับบาลานซ์วีลแบบลอยตัวยังคงเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตา โดยโครงสร้างทั้งชิ้นถูกทำขึ้นจากโลหะชิ้นเดียว และต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการขัดแต่งด้วยมือ เพื่อให้ได้ความเงางาม โดยในรุ่น EVO นี้ ฐานของซุ้มโค้งถูกออกแบบใหม่ให้ดูไหลลื่นและประณีตยิ่งขึ้น ดูแตกต่างจากรุ่น LM101 ดั้งเดิมอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันเอสเคปเมนท์วีลก็ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่เช่นกัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลาย battle-axe ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่พบได้บ่อยในผลงานของ MB&F
Straumann® double hairspring และ กระปุกลานแบบ slipping mainspring ที่มีความเสถียรสูง คือสององค์ประกอบสำคัญของกลไกไขลานด้วยมือ LM101 EVO รุ่นใหม่นี้ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง FlexRing ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะของ MB&F ที่มาในผลงาน EVO ด้านหลังตัวเรือนประกบกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ เผยให้เห็นความงดงามของกลไกที่ผ่านการขัดแต่งด้วยมือ รายละเอียดภายในประกอบด้วยลายเจนีวาพลิ้วไหว, ขอบมุมขัดเงาด้วยมือ, แกนจักรฝังเชาตองทอง, สกรูรมควันสีน้ำเงิน, และแผ่นฐานกับสะพานจักรที่มีเส้นสายโค้งมนสวยงาม องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนสะท้อนสไตล์ของนาฬิกาพกโบราณและเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อรากฐานในประวัติศาสตร์การทำนาฬิกา
เพื่อเสริมลุคให้สมบูรณ์แบบ ผู้สวมใส่สามารถเลือกสายยางได้ระหว่างสีขาวหรือสีเทา แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่ได้ถูกจัดเป็นรุ่น
ลิมิเต็ดอิดิชั่น แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านกำลังการผลิต คอลเลกชั่นนี้จึงสามารถผลิตได้เพียงไม่กี่สิบเรือนต่อปีเท่านั้น
5 ก.ย. 2568
5 ก.ย. 2568
5 ก.ย. 2568
5 ก.ย. 2568