LONGINES PrimaLuna

ลองจินส์เผยโฉมคอลเลคชั่น PrimaLuna ดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน สะท้อนถึงปรัชญาของแบรนด์ที่ว่าความสง่างามที่แท้จริงนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ยังคงความคลาสสิกเหนือกาลเวลาไว้ได้อย่างงดงาม ด้วยแรงบันดาลใจจากรุ่นแรก ทุกองค์ประกอบจึงได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่สัดส่วนตัวเรือนที่ละเอียดอ่อน การแสดงวันที่ในฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรมแบบใหม่ ไปจนถึงเทคนิคการประดับอัญมณีอย่างเหนือชั้น ความเชี่ยวชาญนี้แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดในรุ่นพิเศษที่มีหน้าปัดมุกสีน้ำเงิน ขอบตัวเรือนประดับด้วยแซฟไฟร์ที่คัดสรรมาอย่างดี 48 เม็ด ซึ่งรวมกันสร้างสรรค์ความงามราวกับดวงดาว สะท้อนศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาของสวิส ความประณีตของผู้หญิงร่วมสมัยนี้ถูกถ่ายทอดผ่าน Ambassador of Elegance ของลองจินส์อย่าง Jennifer Lawrence ผู้ซึ่งมีเสน่ห์ตามธรรมชาติและความงามสง่าที่แท้จริง มาเป็นผู้ถ่ายทอดเสน่ห์อันบริสุทธิ์ที่สะท้อนช่วงเวลาอันล้ำค่าและมีความหมายอย่างลงตัวที่สุด

กว่าศตวรรษที่ผ่านมา ลองจินส์ได้สร้างสรรค์นิยามแห่งความสง่างามของผู้หญิงอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านเรือนเวลาที่ยกย่องความประณีตและความมีสไตล์ของผู้หญิงทั่วโลก ความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีนี้ เริ่มต้นจากผลงานประดับอัญมณีในช่วงต้นทศวรรษ 1900 ไปจนถึงเรือนเวลาที่มาพร้อมกลไกซับซ้อน ได้หล่อหลอมให้ลองจินส์กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการประดิษฐ์นาฬิกาสำหรับผู้หญิงอย่างแท้จริง ด้วยเรือนเวลารุ่นใหม่เหล่านี้ คอลเลคชั่น PrimaLuna จึงเป็นตัวแทนความมุ่งมั่นของลองจินส์ที่มีต่อสุภาพสตรีที่ให้ความสำคัญกับความสง่างามของดีไซน์ ควบคู่ไปกับความเที่ยงตรงของกลไกสวิสอันยอดเยี่ยม ด้วยการผสมผสานระหว่างเลขอารบิกแบบคลาสสิก หน้าปัดที่เปล่งประกาย และรายละเอียดที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน เรือนเวลาแต่ละเรือนจึงถ่ายทอดเรื่องราวสำหรับผู้ที่เข้าใจว่าความหรูหราที่แท้จริงนั้นเกิดจากความมั่นใจในงานฝีมือที่ไร้ที่ติ

PrimaLuna 2025: คอลเลคชั่นที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด
การปรับโฉมด้านรูปลักษณ์ของ PrimaLuna เริ่มต้นด้วยตัวเรือนขนาด 34 มม. ที่ได้รับการออกแบบใหม่ พื้นผิวโค้งมนเล็กน้อยสร้างมิติของแสงและเงา ช่วยเพิ่มความสง่างามแบบผู้หญิงให้กับเรือนเวลา เม็ดมะยมเป็นเหมือนบทกวีที่รังสรรค์ขึ้นอย่างงดงาม รูปทรงคล้ายฟองช่วยสื่อถึงพระจันทร์เต็มดวง ในขณะที่การแกะสลักรูปพระจันทร์เสี้ยวรอบพื้นผิวก็สร้างความเชื่อมโยงที่น่าสนใจกับกลไกข้างขึ้นข้างแรมด้านใน มีให้เลือกทั้งแบบสแตนเลสสตีล กับการผสมผสานวัสดุสองชนิดที่สง่างาม หรือประดับด้วยเพชรและแซฟไฟร์ ซึ่งแต่ละแบบยังคงสัดส่วนที่ลงตัวของ  คอลเลคชั่นไว้พร้อมนำเสนอความหรูหราที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ความเที่ยงตรงในทุกจังหวะการเคลื่อนไหว
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ PrimaLuna ที่กลไกข้างขึ้นข้างแรมแบบอัตโนมัติมาพร้อมกับการแสดงวันที่ที่ใช้งานได้จริง โดยขับเคลื่อนด้วยกลไก Longines' exclusive L899.5 ที่มีซิลิคอน บาลานซ์ สปริง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของลองจินส์ ความเป็นเลิศทางเทคนิคนี้ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ด้วยกำลังสำรองถึง 72 ชั่วโมง ทำให้มั่นใจได้ว่าเรือนเวลาจะเดินได้อย่างเที่ยงตรงตลอดช่วงเวลา แม้จะไม่ได้สวมใส่ นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติกันน้ำได้ลึกถึง 3 บาร์ (30 เมตร) นาฬิกา PrimaLuna ทุกเรือนจึงมอบความน่าเชื่อถือจากงานฝีมือการประดิษฐ์นาฬิกาของสวิส ในสัดส่วนที่ละเอียดอ่อนที่สะท้อนถึงความสง่างามแบบผู้หญิง เทคโนโลยีซิลิคอนบาลานซ์สปริงยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและให้การต้านทานต่อสนามแม่เหล็กและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำที่คงทนยาวนาน

ความซับซ้อนทางเทคนิคที่ผสานกับบทกวีแห่งดวงจันทร์
คอลเลคชั่น PrimaLuna เผยให้เห็นถึงความหลากหลายผ่านหน้าปัดสามแบบที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร หน้าปัดสีเงินซันเรย์แบบคลาสสิกพร้อมเลขอารบิกสีน้ำเงินหรือดำ สะท้อนความสง่างามเหนือกาลเวลา พื้นผิวที่แวววาวเล่นกับแสงในทุกจังหวะการเคลื่อนไหว สำหรับผู้ที่หลงใหลในความหรูหราแบบร่วมสมัย หน้าปัดมุก mother-of-pearl สีขาวประดับด้วยหลักชั่วโมงเพชรก็มอบความงามที่เปล่งประกายอย่างเงียบสงบ และที่สุดแห่งความงามคือหน้าปัดมุก mother-of-pearl สีน้ำเงินของรุ่นประดับอัญมณีสีน้ำเงินที่มาพร้อมหลักชั่วโมงเพชร 14 เม็ดบนพื้นหลังสีใหม่ที่ไม่เหมือนใคร แซฟไฟร์สีน้ำเงิน 48 เม็ดบนขอบตัวเรือนที่ไล่เฉดสีอย่างละเมียดละไมเติมเต็มหน้าปัดสุดพิเศษนี้ได้อย่างลงตัว สร้างสรรค์ความงามที่สอดประสานกันของสีสันและแสงไฟ เข็มนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้เรียวบางลงเพื่อความประณีตยิ่งขึ้นแต่ยังคงความเงางาม มีให้เลือกทั้งแบบโรเดียมเพลท, สีน้ำเงิน, สีทอง, หรือสีโรสโกลด์ รับรองว่าเห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็น PrimaLuna แน่นอน

ผสานความลงตัวอย่างกลมกลืน
ความประณีตของคอลเลคชั่นนี้ครอบคลุมถึงตัวเลือกสายนาฬิกา โดยแต่ละเรือนมีให้เลือกทั้งสายสแตนเลสสตีลที่หรูหรา หรือสายหนังอัลลิเกเตอร์ระดับพรีเมียม สายรุ่นใหม่มาพร้อมข้อต่อโค้งมนสั้นลงคล้ายพระจันทร์ครึ่งดวง ช่วยเพิ่มความสบายในการสวมใส่และผสานเข้ากับตัวเรือนได้อย่างแนบเนียน สร้างสรรค์ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบเป็นหนึ่งเดียว ในขณะที่สายหนังอัลลิเกเตอร์ซึ่งมีให้เลือกทั้งสีน้ำเงินหรูหรา สีแดง และสีเบอร์กันดี ก็มอบสัมผัสที่ใกล้ชิดระหว่างเรือนเวลากับผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะเลือกจากนวัตกรรมทางเทคนิคหรือความงามทางสุนทรียะ นาฬิกาแต่ละรุ่นในคอลเลคชั่นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าการออกแบบอย่างพิถีพิถันนั้นสามารถสร้างความกลมกลืนที่สมบูรณ์แบบระหว่างงานฝีมือแบบดั้งเดิมกับความประณีตทันสมัยได้อย่างไร

ศิลปะแห่งการประดับอัญมณีและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ
ผลงานชิ้นเอกแห่งความสง่างามที่เหนือระดับ
นาฬิกา PrimaLuna หน้าปัดสีน้ำเงินอันโดดเด่น คือสุดยอดแห่งงานศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกาของคอลเลคชั่นนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ PrimaLuna ที่ขอบตัวเรือนได้รับการประดับด้วยแซฟไฟร์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน แซฟไฟร์ 48 เม็ด รวม 1.06 กะรัต ใน 4 เฉดสีและขนาดที่แตกต่างกัน สร้างความไล่ระดับสีที่ละเอียดอ่อน สะท้อนถึงความหลากหลายที่ไร้ขีดจำกัดของท้องฟ้ายามสนธยา เมื่อจับคู่กับหน้าปัดมุกสีน้ำเงินที่ประดับด้วยหลักชั่วโมงเพชร 14 เม็ด เรือนเวลาเรือนนี้จึงเปลี่ยนกลไกข้างขึ้นข้างแรมแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นการเฉลิมฉลองแห่งสีสัน แสง และความเชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์นาฬิกาของสวิสที่งดงามราวกับดวงดาวบนฟากฟ้า

ความงามสง่าแห่งแซฟไฟร์
เป็นครั้งแรกที่แซฟไฟร์ อัญมณีที่สื่อถึงสติปัญญา ความสูงส่ง และความสง่างามเหนือกาลเวลา ได้ถูกนำมาประดับบนขอบตัวเรือนอย่างประณีต บรรจงไล่เฉดสีน้ำเงินและขนาดของเม็ดอัญมณีอย่างละเอียดอ่อน แซฟไฟร์ขึ้นชื่อเรื่องสีสัน โทนสี และความเปล่งประกายที่โดดเด่น เป็นหนึ่งในอัญมณีที่หายากและแข็งที่สุดในโลก โดยมีความแข็งอยู่ที่ระดับ 9 ตามมาตรวัดโมห์ ซึ่งเป็นรองแค่เพชรเท่านั้น จึงมั่นใจได้ถึงความทนทานต่อรอยขีดข่วน แซฟไฟร์ที่คัดสรรมาสำหรับ PrimaLuna ทุกเรือนผ่านการเจียระไนและขัดเงาอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้พื้นผิวที่ไร้ที่ติ ช่วยเสริมทั้งความงามและประสบการณ์การสัมผัส และด้วยสีสันที่สดใส แซฟไฟร์จึงทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น พร้อมความแตกต่างเล็กน้อยในแต่ละชิ้นงานที่ทำให้มั่นใจได้ว่านาฬิกาแต่ละเรือนจะไม่เหมือนใคร

ความสอดประสานกลมกลืนแห่งท้องนภา
หน้าปัดนาฬิกาถูกรังสรรค์จากหอยมุกในเฉดสีน้ำเงินใหม่ที่เรียกว่า “celestial blue” และประดับด้วยหลักชั่วโมงเพชร 14 เม็ดที่เข้าคู่กับหมู่ดาวแซฟไฟร์บนขอบตัวเรือนได้อย่างลงตัว พร้อมเสริมความงามด้วยสายหนังจระเข้สีน้ำเงินแห่งท้องฟ้าที่เปล่งประกายคล้ายกับหน้าปัดนาฬิกา รังสรรค์เรือนเวลาอันแสนพิเศษนี้ให้เป็นตัวแทนของความสง่างามแห่งดวงจันทร์ที่ทอดยาวจากขอบตัวเรือนไปจนถึงข้อมือ ทุกองค์ประกอบทำงานสอดประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อเฉลิมฉลองความงามอันไร้ขีดจำกัดของท้องฟ้ายามค่ำคืน

JENNIFER LAWRENCE
เฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสง่างามส่วนตัวของเธอ ในแคมเปญใหม่ของ PrimaLuna
ในแคมเปญใหม่ของ PrimaLuna เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) Ambassador of Elegance ของลองจินส์ ได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างความคลาสสิกเหนือกาลเวลาและความมั่นใจแบบคนยุคใหม่ แคมเปญนี้จับภาพเธอในห้วงเวลาแห่งความสันโดษ ณ โรงละครโอเปร่าที่ว่างเปล่า ห่างไกลจากผู้คนมากมาย บรรยากาศราวกับความฝัน และบทกวีนี้สะท้อนช่วงเวลาที่เธอได้กลับมาเชื่อมโยงกับสถานที่และประสบการณ์ที่มีความหมายส่วนตัว นี่คือฉากที่สะท้อนให้เห็นว่านาฬิกา PrimaLuna ซึ่งผสานความสง่างามแบบคลาสสิกเข้ากับความประณีตแบบร่วมสมัย ได้รับการออกแบบมาสำหรับช่วงเวลาที่มีความหมายและเป็นส่วนตัวที่สุดของชีวิต อีกทั้งความงามสง่าตามธรรมชาติและบุคลิกที่หลากหลายของ Jennifer แคมเปญนี้ได้แสดงให้เห็นว่าความสง่างามที่แท้จริง โดยไม่ได้อยู่ที่การแสดงออกที่ยิ่งใหญ่ แต่มันคือการค้นหาความงามและความสำคัญในทุกช่วงเวลาที่เป็นของคุณอย่างแท้จริง

Ambassador of Elegance ของลองจินส์ ตั้งแต่ปี 2022
Jennifer Lawrence คือนักแสดง โปรดิวเซอร์ และนักเคลื่อนไหวเจ้าของรางวัลออสการ์ เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง เช่น Silver Linings Playbook ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์  สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปี 2013, American Hustle, Don’t Look Up, Joy และภาพยนตร์ไตรภาคชุด The Hunger Games ในปี 2018 เจนนิเฟอร์ได้ขยายบทบาทสู่เบื้องหลังในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Excellent Cadaver บริษัทโปรดักชั่นที่มุ่งมั่นนำเสนอเรื่องราวที่โดดเด่นและชวนให้ขบคิด

Jennifer Lawrence และ Justine Ciarrocchi ซึ่งเป็นคู่หูโปรดิวเซอร์ ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์มากมาย รวมถึง No Hard Feelings, Causeway และสารคดีอันทรงพลังอย่าง Zurawski v. Texas และ Bread & Roses ซึ่งเรื่องหลังได้รับรางวัล Peabody Award อันทรงเกียรติ สำหรับโปรเจ็กต์ล่าสุดของทั้งสองคือภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายเรื่อง Die My Love โดยมีเจนนิเฟอร์เป็นทั้งนักแสดงนำและเป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งเข้าฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2025 และมีกำหนดเข้าฉายในเดือนพฤศจิกายน นอกเหนือจากงานภาพยนตร์แล้ว เธอยังเป็นนักเคลื่อนไหวที่มุ่งมั่นในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและเป็นคณะกรรมการของ RepresentUs องค์กรไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่ทำงานเพื่อผ่านกฎหมายต่อต้านการทุจริตทั่วประเทศ

“นาฬิกา PrimaLuna เรือนใหม่ให้ความรู้สึกคลาสสิกเหนือกาลเวลา มีความสง่างามแบบคลาสสิกที่สามารถใส่ได้ง่ายๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ หรือจากลุคสบายๆ ไปจนถึงลุคที่เป็นทางการ”
Jennifer Lawrence

เกี่ยวกับกลไกนาฬิกาของลองจินส์
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกามานานนับร้อยปี ลองจินส์ถือเป็นผู้เริ่มต้นคิดค้นเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของกลไกนาฬิกามามากมาย และยังคงสานต่อเจตนารมย์อันแน่วแน่ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน การเดินหน้าสืบแสวงหาความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งส่งผลให้ลองจินส์เป็นเจ้าของนาฬิกาอัตโนมัติที่มีกลไกอันเปี่ยมประสิทธิภาพ ทั้งยังขึ้นชื่อในด้านการใช้ซิลิคอน บาลานซ์ สปริง โดยวัสดุนี้ไม่เพียงแค่มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการเกิดสนิม แต่ยังสามารถต้านทานการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และสนามแม่เหล็กอีกด้วย คุณสมบัติพิเศษนี้ช่วยพัฒนาคุณภาพความแม่นยำ และความยาวนานในการใช้งาน ซึ่งส่งผลให้นาฬิกาได้รับการประกันการใช้งานนาน 5 ปี
 
เกี่ยวกับลองจินส์
ลองจินส์แบรนด์นาฬิการะดับโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นที่เมืองแซงต์อิมิเยร์ เมื่อปี ค.ศ. 1832 โดยเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาที่มีดีไซน์สง่างามและทำงานอย่างทรงประสิทธิภาพที่สืบทอดมายาวนาน นับตั้งแต่อดีตลองจินส์ได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมาย รวมถึงเป็นพันธมิตรกับสมาพันธ์กีฬานานาชาติ ทำให้ชื่อของลองจินส์เป็นส่วนหนึ่งของโลกกีฬามาโดยตลอด นอกจากนี้ ลองจินส์เจ้าของโลโก้รูปนาฬิกาทรายติดปีกยังเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทสวอทช์กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำระดับโลก และยังวางจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ

#Longines #LonginesThailand #LonginesPrimaLuna #EleganceIsAnAttitude