Last updated: 16 ก.ย. 2568 | 27 จำนวนผู้เข้าชม |
ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่พาเนรายได้เริ่มต้นเปิดเผยศักยภาพสู่สายตาบุคคลทั่วไป โดยตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1910 จนถึงปี 1993 เรือนเวลาของพาเนรายถูกเก็บเป็นความลับและถูกสวมใส่โดยบุคลากรทางทหารเท่านั้น ผ่านแนวคิดที่ว่าเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูงนั้นคู่ควรแก่การถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ต่อภารกิจอันท้าทายของกองทัพเรืออิตาลี เป็นเหตุให้เรือนเวลาในสมัยแรกๆ นั้นถูกปกปิดเป็นความลับทางทหาร จนกระทั่งในปี 1993 เรือนเวลาเหล่านั้นได้ถูกเปิดให้สาธารณชนทั่วไปได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกถึงเอกลักษณ์ของการออกแบบที่รังสรรค์มาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาแห่งความก้าวหน้าในโลกแห่งการรังสรรค์เรือนเวลา และในปีนี้ ในวาระครบรอบการเปิดตัวในปี 1993 พาเนรายจึงได้รังสรรค์นิทรรศการ “The Depth of Time” นิทรรศการประวัติศาสตร์เพื่อเชิดชูมรดกในฐานะผู้ผลิตเรือนเวลาให้กับกองทัพเรืออิตาลี และเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญที่จุดประกายให้พาเนรายก้าวสู่ความมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในวงการนาฬิกา
“ เราภูมิใจที่ได้เปิดตัวนิทรรศการ “The Depth of Time” เพื่อมอบประสบการณ์ให้ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสามารถค้นพบความลับในอดีตอันเป็นตำนานของพาเนราย และสัมผัสถึงเอกลักษณ์และที่มาในการรังสรรค์เรือนเวลาอันโดดเด่นของเรา นิทรรศการนี้นำเสนอเบื้องหลังที่หาดูได้ยากเกี่ยวกับต้นกำเนิดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพาเนราย ซึ่งต่อมาได้ถูกพัฒนาไปสู่การออกแบบที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในปัจจุบัน นวัตกรรมแต่ละอย่าง เดิมทีมีจุดประสงค์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการใช้งาน คุณสมบัติแต่ละอย่างที่ถูกคิดค้นในอดีตมีส่วนช่วยในการกำหนดเอกลักษณ์และจุดเด่นของเมซง โดยนิทรรศการนี้จะเผยเห็นว่าจุดเริ่มต้นเล็กๆ จากธุรกิจของครอบครัว ในเวลาไม่ถึงศตวรรษ สามารถดึงดูดความสนใจของสาธารณชนด้วยเสน่ห์ที่น่าค้นหาและกลายเป็นชื่อที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาหรูได้อย่างไร ” Emmanuel Perrin ซีอีโอของพาเนรายกล่าว
เพื่อเป็นการระลึกถึงโอกาสสำคัญนี้ พาเนรายยังได้นำเสนอ Luminor Marina Militare PAM05218 รุ่นใหม่ เรือนเวลาที่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ของเมซง เรือนเวลาใหม่นี้เป็นการตีความใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจากเรือนเวลา Luminor รุ่น 5218-202/A ที่รังสรรค์ขึ้นสำหรับบุคลากรของกองทัพเรืออิตาลีโดยเฉพาะ และได้ถูกเปิดตัวในปี 1993 หลังจากที่เมซงได้นำเสนอ Luminor ref. 5218-2021/A และ Mare Nostrum 5218-301/A รุ่นแรกแก่สายตาสาธารณชน
นิทรรศการนี้ย้อนรอยวิวัฒนาการของพาเนรายตั้งแต่บทบาทในอดีตในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ให้กับกองทัพเรืออิตาลี ไปจนถึงการปรากฏตัวในปี 1993 จนเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตนาฬิกานอกเหนือจากการผลิตอุปกรณ์เพื่อการป้องกันประเทศ นิทรรศการนี้มีการจัดแสดงเอกสารสำคัญที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ซึ่งรวมไปถึงจดหมายที่ส่งผ่านกันส่วนตัวระหว่างตระกูลพาเนรายและทางการทหาร ภาพร่างทางเทคนิค แค็ตตาล็อกรุ่นแรกๆ และภาพถ่ายจริงทางประวัติศาสตร์ โดยเครื่องมือต่างๆ เช่น เข็มทิศและมาตรวัดความลึก ก็ได้ถูกจัดแสดงควบคู่ไปกับนาฬิกาทางประวัติศาสตร์นี้ด้วย พร้อมทั้งเผยสำเนาจดทะเบียนสิทธิบัตรผลงานบุกเบิกทางประวัติศาสตร์ของพาเนรายในด้านความส่องสว่าง ความสามารถในการอ่านใต้น้า และการออกแบบ นิทรรศการนี้เล่าเรื่องราวหลายหลาย รวมไปถึงเรื่องราวของการเปิดตัวครั้งประวัติศาสตร์บนเรือพิฆาตของอิตาลี Luigi Durand de la Penne (D560) โดยมีเจ้าชายเจ้าชายอเมเดโอ ดยุคแห่งซาวอยและออสต้า บุตรชายของเจ้าชายไอโมเน่แห่งซาวอย ผู้ก่อตั้ง Assault Craft of the Italian Royal Navy ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเป็นดั่งช่วงเวลาที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นของพาเนรายในฐานะผู้รังสรรค์เรือนเวลาสำหรับการสวมใส่ให้กับบุคคลทั่วไป โดยที่ยังคงตั้งมั่นต่อดีเอ็นเอของความแม่นยำทางวิศวกรรมและอรรถประโยชน์ที่ทนทานไว้อย่างมั่นคง
โดยนิทรรศการนี้จัดขึ้นที่บูติกพาเนราย ณ เมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นสถานที่กำเนิดของเมซง และจะจัดขึ้นเป็นเวลาสองเดือนตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2025 นิทรรศการนี้นำเสนอโอกาสที่ไม่ควรพลาดในการค้นพบประวัติศาสตร์ของเมซงอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะเริ่มเปิดตัวสู่สาธารณะ โดยนิทรรศการ ณ เมืองฟลอเรนซ์ นี้จะเป็นนิทรรศการแห่งแรก ก่อนที่จะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาและจีนต่อไป
Luminor Marina Militare PAM05218
Luminor Marina Militare PAM05218 เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 เนื่องในโอกาสเปิดนิทรรศการ “The Depths of Time” เพื่อรำลึกถึง Luminor Marina Militare ref. 5218-202/A ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1993 ปีเดียวกับ Luminor ref. 5218-201/A และ Mare Nostrum ref. 5218-301/A เมื่อครั้งอดีต เรือนเวลา Luminor Marina Militare ref. 5218-202/A เป็นเรือนเวลาที่จาหน่ายให้เฉพาะบุคลากรทางการทหารเท่านั้น ในขณะที่ Luminor ref. 5218-201/A และ Mare Nostrum ref. 5218-301/A เป็นนาฬิกาสองรุ่นแรกที่วางจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป โดยถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2536 บนเรือพิฆาตอิตาลี Durand de la Penne (D560) โดยมีเจ้าชายเจ้าชายอเมเดโอ ดยุคแห่งซาวอยและออสต้า ร่วมเป็นสักขีพยาน
“ ในนิทรรศการ “ The Depths of Time ” เราขอเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกามาร่วมค้นพบวิวัฒนาการอันเป็นตำนานของพาเนราย ตั้งแต่บทบาททางประวัติศาสตร์ของเราในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ให้กับกองทัพเรืออิตาลี ไปจนถึงการเติบโตสู่ระดับโลกในฐานะแบรนด์นาฬิกาหรู โดย Luminor Marina Militare PAM05218 รุ่นใหม่นี้ เป็นดั่งเรือนเวลาที่เฉลิมฉลองช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของการก้าวสู่สาธารณะอันน่าจดจำของพาเนราย ” Alessandro Ficarelli ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ของพาเนรายกล่าว
เป็นครั้งแรกที่พาเนรายนำเรือนเวลาจากอดีตมาตีความใหม่ โดยยังคงซื่อสัตย์ต่อคุณสมบัติของรุ่นบุกเบิกทางประวัติศาสตร์ แต่ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงคุณสมบัติใหม่อย่างละเอียดโดยไม่ละทิ้งดีเอ็นเอเก่าๆ ให้หายไป เรือนเวลานี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. โดยพัฒนาจากเรือนเวลารุ่นดั้งเดิม 5218-202/A ซึ่งมีขนาดตัวเรือน 47 มม. อันเป็นไปตามมาตรฐานความต้องการทางการทหาร โดยการปรับเปลี่ยนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของเมซงที่ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติสำคัญจากตัวเรือนขนาดใหญ่ ให้มาอยู่ในขนาดที่เล็กลงเพื่อมอบสุนทรียภาพที่เรียบง่ายและทันสมัยเหมาะกับยุคปัจจุบัน
ตัวเรือนสตีลขนาด 44 มม. ของ PAM05218 ถูกเคลือบด้วย DLC (Diamond-Like Carbon) ซึ่งทำให้ได้สีที่คล้ายคลึงกับการเคลือบแบบดั้งเดิม PVD ของรุ่น 5218-202/A ทำให้ตัวเรือนมีสีดำสนิทสะดุดตา คงไว้ซึ่งสุนทรียภาพความงดงามของรุ่น 5218-202/A อันโดดเด่นเหนือรุ่นสตีลอื่นๆ ที่ถูกนาเสนอในปี 1993 โดย DLC คือการเคลือบพื้นผิวโลหะด้วยคาร์บอน ซึ่งให้ความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการสึกหรอ และป้องกันการกัดกร่อน ในขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเรือนมีรูปลักษณ์สีดำที่โดดเด่น
เรือนเวลานี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก P.6000 ซึ่งเป็นกลไกไขลานด้วยมือ สำรองพลังงานได้นานถึง 3 วัน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15½ ลิญญ์ และมีวงล้อบาลานซ์ที่สั่นได้ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง บาลานซ์บริดจ์แบบพาดผ่านที่ช่วยยึดตำแหน่งของออสซิลเลเตอร์ให้มั่นคง ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความแม่นยำของกลไก
หน้าปัดโดดแด่นด้วยคำว่า ‘ Marina Militare ’ เพื่อเป็นการสดุดีถึงความร่วมมือทางประวัติศาสตร์อันยาวนานระหว่างพาเนรายและกองทัพเรืออิตาลี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษ 1910 และดำเนินมากว่าหนึ่งศตวรรษ นอกจากนี้ แบบอักษรที่ใช้บนหน้าปัดสำหรับตัวเลขและตัวอักษรยังได้รับการวาดขึ้นใหม่เป็นพิเศษเพื่อสะท้อนถึงรูปแบบตัวอักษรดั้งเดิมของนาฬิการุ่นแรกในปี 1993 เรือนเวลารุ่นนี้แตกต่างจากหน้าปัดแบบแซนด์วิชอันเป็นเอกลักษณ์ของพาเนรายจากรุ่นอื่นๆ โดยที่หน้าปัดนี้เป็นแบบชั้นเดียว ที่ได้รับการสลักและเคลือบด้วย Super-LumiNova® โดยผิวสัมผัสถูกรังสรรค์ให้เว้าเล็กน้อยเพื่อทำให้ตัวเลขบนหน้าปัดดูมีมิติมากขึ้น ทว่าลักษณะเด่นอื่นๆ จากรุ่นปี 1993 ยังคงได้รับการอ้างอิงอย่างพิถีพิถัน ได้แก่หน้าปัดและเข็มนาฬิกาที่ “ ไม่เข้าคู่กัน ” (Non-matching) ซึ่งเดิมทีเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างทริเทียมและวานิช จึงทำให้เรือนเวลาที่ผลิตในช่วงแรกมีตัวเลขสีน้าตาลส้ม ในขณะที่เข็มนาฬิกาออกเป็นสีเขียว ซึ่งเป็นความแตกต่างที่ต่อมากลายเป็นของสะสมอันทรงคุณค่า
ความไม่เข้าคู่กันอย่างไม่ได้ตั้งใจนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนในรุ่นการผลิตต่อๆ มา ทว่ามีเพียงไม่กี่เรือนเวลาที่ยังคงมีไว้ซึ่งความไม่เข้าคู่กันนี้ จึงทำให้เรือนเวลานั้นๆ ตามหาเพื่อครอบครองได้ยากเป็นพิเศษ และ PAM05218 รุ่นใหม่นี้ได้รังสรรค์ความไม่เข้าคู่กันนี้ขึ้นมาใหม่โดยตั้งใจ โดยการใช้ Super-LumiNova® สีคาราเมลบนหน้าปัดสีดำด้าน จับคู่กับเข็มนาฬิกาในโทนสีที่อ่อนกว่า ซึ่งเป็นการสดุดีให้กับรายละเอียดที่ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์อันน่าหวงแหนที่สุดเอกลักษณ์หนึ่งของเรือนเวลานี้ ตัวเรือน PAM05218 มีฝาหลังแบบปิด โดยสามารถกันน้ำได้ถึง 300 เมตร บนฝาหลังประกอบด้วยคำว่า Officine Panerai Firenze และโลโก้ OP ฝาหลังยังระบุคุณสมบัติของนาฬิกาเฉกเช่นเดียวกับรุ่นดั้งเดิม เรือนเวลามาพร้อมสายหนังลูกวัวแบบวินเทจสีน้ำตาลทอง พร้อมบัคเคิ้ลสี่เหลี่ยมคางหมูเคลือบ DLC สีดำ เช่นเดียวกับรุ่นปี 1993 ทำให้นาฬิกามีเสน่ห์แบบวินเทจที่น่าดึงดูดใจ เรือนเวลารุ่นนี้ยังมาพร้อมสายยางรับเบอร์สีดำเส้นที่สองเพื่อการสวมใส่ได้หลากหลายโอกาส
16 ก.ย. 2568
16 ก.ย. 2568
16 ก.ย. 2568
16 ก.ย. 2568