Last updated: 27 ก.ย. 2568 | 66 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับ Girard-Perregaux การสร้างกลไกนาฬิกาไม่ใช่เพียงงานวิศวกรรม แต่คือการหลอมรวมปรัชญา การออกแบบ และมรดกแห่งเวลา นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1791 แบรนด์ได้สั่งสมความเชี่ยวชาญในการออกแบบ พัฒนา และผลิตกลไกขึ้นเองภายในโรงงานของตนเองทั้งหมด ตามแนวคิด“การผลิตแบบบูรณาการ” จุดเด่นที่ทางแบรนด์ภาคภูมิใจและยังคงรักษาไว้ พร้อมตอกย้ำความสามารถนี้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวกลไกรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Calibre GP4800
GIRARD-PERREGAUX: MASTERS OF
MOVEMENT AND DESIGN FROM THE START
จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ Girard-Perregaux ได้วางรากฐานให้แบรนด์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำหนดนิยามใหม่แห่งโลกการประดิษฐ์นาฬิการะดับสูง นับตั้งแต่เริ่มต้นทางแบรนด์ผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเข้ากับความงาม ผลงานระดับตำนานอย่าง Tourbillon with Three Bridges โดย Constant Girard ในปี 1867 ได้ยกระดับชิ้นส่วนกลไกให้กลายเป็นงานศิลป์ทางโครงสร้าง ตอกย้ำแนวคิดที่ว่ารูปทรงและฟังก์ชั่นสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
นับจากวันนั้น Girard-Perregaux ยังคงนำเสนอความโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชี่ยวชาญรอบด้าน ทั้งการออกแบบที่ทรงพลัง มีมิติแบบสถาปัตยกรรม และนวัตกรรมล้ำหน้าในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา ที่เหนือไปกว่านั้น ด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ทางแบรนด์ได้วางรากฐานอย่างมั่นคงในฐานะผู้นำแห่งวงการนาฬิกาชั้นสูง
ตลอดระยะเวลา Girard-Perregaux ไม่เคยหยุดนิ่งในการค้นคว้านวัตกรรมใหม่ ๆ ในปี 1965 ทางแบรนด์เปิดตัวกลไกความถี่สูงรุ่นแรก ซึ่งเดินด้วยความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ด้านความแม่นยำและความเสถียร สะท้อนความชำนาญทางวิศวกรรมกลไกได้อย่างชัดเจน ความสำเร็จนี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในปี 1966 เมื่อหอดูดาว Neuchâtel มอบรางวัลพิเศษให้แก่ Girard-Perregaux เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี เพื่อยกย่องบทบาทสำคัญของแบรนด์ในการพัฒนาความเที่ยงตรงของกลไกนาฬิกา
ในปี 2013 ทาง Girard-Perregaux เปิดตัวนวัตกรรม Constant Escapement L.M. สร้างพลังงานด้วยซิลิคอนเบลดที่ยืดหยุ่น กลไกสุดล้ำสมัยนี้สามารถคว้ารางวัล Aiguille d’Or อันทรงเกียรติจากเวที Grand Prix d’Horlogerie de Genève ในปีเดียวกัน ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง
THE LAUNCH OF A NEW ICON: CALIBRE GP4800
แต่ละก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ถูกออกแบบและรังสรรค์ขึ้นอย่างครบถ้วน ณ เมืองลาโชว์-เดอ-ฟงส์ โดยโรงงานผลิตที่ใช้เวลากว่า 234 ปีในการหล่อหลอมเทคนิคในการผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาทั้งภายนอกและภายใน ปัจจุบัน Girard-Perregaux มีเครื่องกลไกกว่า 30 รุ่น ได้รับสิทธิบัตรกว่า 80 รายการ และทีมช่างนาฬิกาที่หลงใหลในประเพณีและนวัตกรรม Girard-Perregaux ยังคงสานต่องานศิลป์ในรูปแบบและฟังก์ชั่น
โดยในเดือนกันยายนนี้ ทางแบรนด์พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยการเปิดตัวกลไกใหม่ Calibre GP4800 ที่พัฒนาขึ้นทั้งหมดภายในโรงงาน เป็นการเริ่มต้นใหม่ ที่ไร้ข้อจำกัดทางเทคนิคและข้อผูกมัดด้านความคิดสร้างสรรค์ กลไกนี้สะท้อนแก่นแท้ของแบรนด์ ทั้งด้านการออกแบบและประสิทธิภาพ นวัตกรรม และมรดกทางวัฒนธรรม ที่ผสานกันอย่างลงตัว
A MOVEMENT FOR NOW AND THE FUTURE
กลไก Calibre GP4800 ถูกพัฒนาขึ้นโดย Girard-Perregaux พร้อมคุณสมบัติทางเทคนิคขั้นสูงหลายประการ เพื่อรองรับความคาดหวังจากลูกค้าปัจจุบันและในอนาคต
The Calibre GP4800 plays
host to an array of technical refinements
เพื่อตอบรับความสนใจที่เพิ่มขึ้นในนาฬิกาที่มีขนาดตัวเรือนเล็กลงทางแบรนด์จึงได้มุ่งพัฒนาเครื่องนาฬิกาที่มีขนาดกะทัดรัด โดยกลไก Calibre GP4800 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 25.60 มม. (หรือ 11½ lines) และมีความหนาเพียง 4.28 มม. นอกจากนี้ การออกแบบของกลไกนี้ยังเปิดโอกาสให้โรงงานผู้ผลิตผสานกลไกพื้นฐานเข้ากับกลไก
ซับซ้อนเพิ่มเติมได้ในอนาคต แม้ว่าจะมีขนาดกะทัดรัด แต่ Calibre GP4800 ก็ยังอัดแน่นไปด้วยความประณีตทางเทคนิคมากมาย ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยในการมอบความแม่นยำ ความน่าเชื่อถือและความงดงามในทุกองค์ประกอบ
A SILICIUM ESCAPEMENT AND
A STOP SECONDS FUNCTION
กลไก GP4800 ติดตั้งเอสเคปเมนต์ที่ผลิตจากซิลิคอน เอสเคปวีล, ก้านจักรและโรลเลอร์ ซึ่งทำจากวัสดุน้ำหนักเบา โดยซิลิคอนมีคุณสมบัติพิเศษ ผิวเรียบ ป้องกันสนามแม่เหล็ก และทนต่อการสึกหรอเหมาะ
Silicium is exceptionally smooth, non-magnetic and highly resistant
A VARIABLE-INERTIA BALANCE
กลไก GP4800 มาพร้อมบาลานซ์แบบปรับความเฉื่อยได้ นาฬิกาทั่วไปมักปรับความเร็วด้วย ‘เรเก็ตต์’ ซึ่งเปลี่ยนความยาวของสปริงบาลานซ์ทำให้นาฬิกาเดินเร็วหรือช้า แต่บาลานซ์แบบปรับความเฉื่อยได้นี้ล็อกความยาวสปริงไว้คงที่ และปรับความเร็วโดยการขันสกรูทองคำขาวสี่ตัวรอบขอบบาลานซ์วีล ทำให้การตั้งค่าแม่นยำยิ่งขึ้น
ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สามารถส่งแรงบิด โดยบาลานซ์วีลมีค่าโมเมนต์ความเฉื่อยอยู่ที่ 8 มิลลิกรัม-เซนติเมตร และเมื่อทำงานร่วมกับระบบบาลานซ์แบบปรับความเฉื่อยได้ ก็สามารถลดผลกระทบจากแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งกับการผลิตนาฬิกาที่ต้องการความแม่นยำ ความแข็งแกร่ง ทนการเสียดทาน และความทนทานของซิลิคอนช่วยเพิ่มความมั่นใจในอายุการใช้งานของกลไก โดยชิ้นส่วนถูกออกแบบเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความเที่ยงตรง พร้อมฟังก์ชั่นหยุดเวลาวินาทีที่ช่วยให้ผู้สวมใส่ตั้งเวลาได้อย่างแม่นยำ
The GP4800
features a superior variable-inertia balance
นอกจากนี้ แรงบิดที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลให้กลไกมีความเสถียรมากขึ้น จึงช่วยเพิ่มความแม่นยำ การพัฒนาเหล่านี้ทำให้กลไก GP4800 สามารถสำรองพลังงานได้อย่างน้อย 55 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่มีนัยสำคัญ และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้ผลิตในการสร้างความก้าวหน้าทางเทคนิคควบคู่ไปกับความสะดวกสบายในการใช้งาน ตั้งแต่บาร์เรลไปจนถึงระบบควบคุมจังหวะ ทุกชิ้นส่วนกลไกนี้ได้รับการออกแบบและปรับแต่งเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
AN IMPROVED
WINDING SYSTEM
กลไก Calibre GP4800 มาพร้อมระบบขึ้นลานที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และติดตั้งโรเตอร์ บนตลับลูกปืน โดยใช้ลูกปืนเซรามิก และเสริมด้วยระบบกันกระแทก ซึ่งช่วยลดเสียงขณะขึ้นลานและรับมือกับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กลไกมีความทนทานในระยะยาว การเคลื่อนไหวของโรเตอร์จะถูกถ่ายทอดพลังงานไปยังระบบคลัตช์แบบตลับลูกปืน ซึ่งจะทำหน้าที่ขึ้นลานให้กับเมนสปริงบาร์เรลในทิศทางเดียว
BEAUTIFUL
TO BEHOLD
การออกแบบกลไกดูร่วมสมัย แต่แฝงด้วยรายละเอียดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกอันทรงคุณค่าของแบรนด์ โรเตอร์ทองคำ 18K แบบสเกเลตัน มีสะพานจักรสามส่วน ได้แก่ สะพานบาลานซ์ สะพานชุดเฟืองจักร และสะพานถังลาน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาพกในปี 1867 หนึ่งในเอกลักษณ์ดั้งเดิมของแบรนด์ โดยชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ได้เพียงหน้าที่ทางกลไกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความงดงามและสมมาตรตามปรัชญาที่ Constant Girard ยึดถือ
สะพานบาลานซ์แบบสเกเลตันถูกยึดไว้ด้วยสกรูสองจุด ทำให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งดีไซน์แบบเปิดโปร่งยังเปิดโอกาสให้สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของบาลานซ์วีลที่หมุนกลับไปกลับมา จังหวะของสปริงบาลานซ์ที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และเห็นการทำงานของเอสเคปเมนต์ซิลิเซียมได้อย่างชัดเจน
A SYMPHONY OF FINISHES.
A TESTAMENT TO CRAFTSMANSHIP
จากงานตกแต่งถึงสิบรูปแบบบนกลไก Calibre GP4800 ทาง Girard-Perregaux มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ งานฝีมือไม่ได้จำกัดเพียงสิ่งที่ตาเห็น แต่รวมถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ การใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสะท้อนความเคารพต่องานศิลปะแห่งการผลิตนาฬิกาชั้นสูงแบบดั้งเดิม พร้อมรับความงามในสไตล์ร่วมสมัย
สะพานจักรชุบโรเดียมสลักข้อความสีทองรวมทั้งตรานกอินทรีย์ ตกแต่งด้วยลายเส้นตรง Côtes de Genève ขอบตัดเฉียงแบบเพชร และหัวสกรูขัดเงากระจก บริเวณฐานหลักที่มองเห็นมีพื้นผิวทรายเป่าอย่างประณีต พร้อมประทับคำว่า ‘SILICIUM ESCAPEMENT
ใกล้กับบาลานซ์ แม้แต่พื้นผิวที่ซ่อนอยู่ก็ได้รับการประดับด้วยลายวงกลมบริเวณด้านล่างของแผ่นหลัก แสดงถึงความประณีตของแบรนด์ โรเตอร์ประดับลวดลายลูกศรขัดเงา เพื่อรำลึกถึงสะพานจักรดั้งเดิมในปี 1867 ด้านข้างตกแต่งด้วยการขัดทราย ลายเกลียว และเส้นตรง องค์ประกอบอื่นๆ เช่น คลัตช์ลูกปืนขัดเงาแบบซันเรย์ บาร์เรลขึ้นลานลายเกลียว และฟันเฟืองขัดผิวซาตินวงกลม ย้ำการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและมรดกดั้งเดิมการหลอมรวมของเทคนิคตกแต่งดั้งเดิมและสมัยใหม่ทำให้กลไก Calibre GP4800 เป็นมากกว่าความสำเร็จทางกลไก แต่ยังเป็นการแสดงออกทั้งภาพลักษณ์และความรู้สึกที่สะท้อนดีเอ็นเอของแบรนด์
Craftsmanship encompasses not only what is seen,
but also what remains hidden
BEING A MANUFACTURE IS
THE ESSENCE OF WHAT WE ARE
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน Girard-Perregaux ได้สถาปนาตนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาชั้นสูงระดับโลก ไม่เพียงรังสรรค์กลไกระดับคุณภาพเยี่ยมสำหรับนาฬิกาของแบรนด์เองเท่านั้น หากยังถ่ายทอดความเชี่ยวชาญให้กับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ด้วย บทบาทที่เงียบสงบแต่เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรีนี้ ยิ่งสะท้อนสถานะของแบรนด์ในฐานะ มาตรฐานแห่งความประณีต ทั้งในด้านการออกแบบและการผลิตกลไกจักรกล
ด้วยความรู้และฝีมือจากช่างนาฬิกาผู้ชำนาญ โรงงานผลิตจึงรังสรรค์กลไกที่เปี่ยมด้วยมาตรฐานสูงสุดทั้งความงาม ความแม่นยำ น่าเชื่อถือ และทนทาน ความเชี่ยวชาญนี้สะท้อนผ่าน Calibre GP4800 กลไกเจเนอเรชั่นใหม่ที่ผสมผสานมรดกอันล้ำค่าของแบรนด์กับจิตวิญญาณก้าวหน้า พร้อมขับเคลื่อนนาฬิการุ่นใหม่ที่น่าสนใจในอนาคต
ข้อมูลเกี่ยวกับ Girard-Perregaux
โรงงานที่เชี่ยวชาญทั้งด้านงานออกแบบและการผลิตกลไก นับตั้งแต่ปี 1791 ด้วยกลไกมากกว่า 30 รุ่นในแค็ตตาล็อก สิทธิบัตรกว่า 80 ฉบับ และมรดกอันยาวนานกว่า 230 ปี Girard-Perregaux จึงเป็นมาสเตอร์แห่งศิลปะนาฬิกาชั้นสูง
ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา Girard-Perregaux ก็โดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง ในปี 1791 แบรนด์ได้ริเริ่มแนวคิดโรงงานนาฬิกาที่รวมกระบวนการผลิตทั้งหมดไว้ในที่เดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่อุตสาหกรรมนาฬิกาที่ตามมา ผู้ก่อตั้งและผู้นำของแบรนด์ในแต่ละยุคสมัยต่างได้ยกระดับชื่อเสียงของแบรนด์ด้วยวิสัยทัศน์และจิตวิญญาณที่กว้างไกลและความคิดที่ก้าวหน้า
จิตวิญญาณนี้ได้นำไปสู่ความสำเร็จสำคัญหลายประการ ได้แก่ Three Bridges Tourbillon ในปี 1867 กลไกความถี่สูงในปี 1965 ที่มีความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง ความถี่มาตรฐานควอตซ์สากล (32,768 เฮิร์ต) ในปี 1971 และกลไก Constant Escapement ในปี 2013 ซึ่งได้รับรางวัล Aiguille d’Or จากงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève ความก้าวหน้าแต่ละครั้งล้วนเป็นผลมาจากทีมงานภายในที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหลในการผลักดันขีดจำกัด พร้อมกับเคารพในประเพณีและมาตรฐานดั้งเดิม
Girard-Perregaux ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบ ทุกองค์ประกอบ ทั้งรูปทรง โครงสร้าง และความงาม ล้วนได้รับการคิดค้น พัฒนา และสร้างสรรค์ภายในโรงงานของตนเองอย่างครบถ้วน ทูร์บิยองที่มาพร้อมกับสะพานจักรทองคำสามส่วน ซึ่งได้รับรางวัลในการจัดแสดงใน Paris Universal Exhibition เมื่อ 1889 ถือเป็นผลงานปฏิวัติวงการทั้งในด้านเทคนิคและรูปลักษณ์
ปรัชญานี้ได้รับการถ่ายทอดผ่านนาฬิกา Laureato ซึ่งเปิดตัวในปี 1975 และถูกออกแบบขึ้นทั้งหมดภายในโรงงาน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบที่โดดเด่นด้วยรูปทรงสมมาตร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากขอบหน้าปัดที่มี 14 เหลี่ยมของนาฬิกา Deep Diver ปี 1969 ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดผ่านนาฬิกา Laureato ที่เห็นในปัจจุบัน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลงาน Laureato ได้ผสานฟังก์ชั่นซับซ้อนใหม่ ๆ และกลไกอัตโนมัติ พร้อมกับการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องโดยยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ได้อย่างชัดเจน
ในปัจจุบัน Girard-Perregaux ได้รับการยอมรับและชื่นชมอย่างกว้างขวางจากผู้รักและนักสะสมนาฬิกา ด้วยแนวทางโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในการรังสรรค์นาฬิกาชั้นสูง ชื่อเสียงของแบรนด์จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา ความประณีตและความงามที่เหนือกาลเวลา เป็นโรงงานผลิตนาฬิกาที่ยังคงยืนหยัดรักษามรดกอันยาวนานและทรงคุณค่าอย่างมั่นคง
24 ก.ย. 2568
26 ก.ย. 2568
27 ก.ย. 2568