Last updated: 29 ก.ย. 2568 | 190 จำนวนผู้เข้าชม |
ORIS ผสานไอคอนิกของ Big Crown เข้ากับกลไกอินเฮ้าส์ Calibre 113 ที่มาพร้อมพลังงานสำรองยาวนาน 10 วัน เข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้น และฟังก์ชั่นปฏิทินธุรกิจเต็มรูปแบบ
MOVEMENTS FOR THE TIMES
รากฐานอันมั่นคงแห่งการสร้างสรรค์กลไกอินเฮ้าส์ประสิทธิภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ผู้คนยุคใหม่ทั่วโลก คือสิ่งที่นิยามตัวตนของ Oris
สำหรับ Oris เราผลิตแต่นาฬิกากลไกจักรกลเท่านั้น ในช่วงทศวรรษ 1980 เราเคยทดลองผลิตนาฬิกาควอตซ์อยู่บ้าง แต่ก็รู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา สิ่งที่เราหลงใหลคือนาฬิกาจักรกล ที่มอบทั้งความสุข คุณค่าแห่งกาลเวลา และถูกออกแบบมาเพื่อให้อยู่กับคุณตราบนานเท่านาน นี่คือสิ่งที่เป็นตัวตนของเราอย่างแท้จริง
ตลอดศตวรรษที่ 20 Oris ได้พัฒนากลไกจักรกลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเกือบ 300 แบบ ภายในโรงงานของเราในเมือง Hölstein หล่อหลอมเป็นรากฐานแห่งความภาคภูมิใจอันยาวนาน และเมื่อก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เราได้เริ่มต้นบทใหม่แห่งการสร้างสรรค์กลไก ด้วยการเปิดตัว Calibre 110 ในโอกาสครบรอบ 110 ปีของเราในปี 2014 ซึ่งเป็นกลไกนวัตกรรมที่ใช้เวลาถึง 5 ปีในการพัฒนา
Calibre 100 Series คือการปฏิวัติทั้งด้านเทคนิคและดีไซน์ มาพร้อมพลังงานสำรองยาวนาน 10 วัน และเข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้น ที่จะแสดงเวลาพลังงานที่เหลืออยู่จนกว่าจะต้องขึ้นลานใหม่ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อพลังงานลดลง และเพราะเป็นกลไกขึ้นลานด้วยมือ กลไกอัจฉริยะในกระปุกลานเดี่ยวจึงสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังตัวเรือน โดยไม่ถูกรบกวนจากโรเตอร์ขึ้นลาน
ความสำเร็จทั้งในเชิงเทคนิคและเชิงพาณิชย์ได้นำพาให้ Oris เปิดตัวกลไกอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Calibre 111, 112, 113, 114 และ 115 โดยแต่ละรุ่นได้เพิ่มเติมคอมพลิเคชั่นเข้าไป ขณะที่ Calibre 115 ถูกออกแบบในสไตล์ Skeleton ที่เผยให้เห็นความงดงามของกลไกภายใน และบรรจุอยู่ในตัวเรือนไทเทเนียม ProPilot X ดีไซน์ล้ำสมัย สะท้อนถึงวิสัยทัศน์อนาคตของการสร้างสรรค์กลไกและการออกแบบนาฬิกาของเรา
ในปี 2020 Oris ได้ต่อยอดจาก Calibre 100 Series สู่การเปิดตัว Calibre 400 Series ระบบออโตเมติก ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อผู้คนยุคใหม่ทั่วโลก ตามเจตจำนงดั้งเดิมของเรา โดดเด่นด้วยพลังงานสำรอง 5 วัน มาตรฐานการต้านทานสูงหลากหลายระดับ พร้อมการรับประกันและคำแนะนำการเข้ารับบริการนานถึง 10 ปี
ในวันนี้ Oris ภาคภูมิใจที่จะสานต่อเรื่องราวนี้ด้วย Big Crown Calibre 113 นาฬิกาที่โดดเด่นด้วยสีสัน ผสานไอคอนแห่งดีไซน์จากปี 1938 เข้ากับกลไก Calibre 110 Series ในเวอร์ชั่นที่มาพร้อมฟังก์ชั่นปฏิทินธุรกิจเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นการหลอมรวมระหว่างนวัตกรรมและมรดกดั้งเดิมอย่างสมบูรณ์แบบ
CROWN AND CALENDAR
Oris Big Crown Calibre 113 มาพร้อมฟังก์ชั่นปฏิทินธุรกิจเต็มรูปแบบ แสดงวัน วันที่ เดือน และสัปดาห์ทั้ง 52 สัปดาห์ตลอดปี
Oris มีความยินดีนำเสนอ Big Crown Calibre 113 นาฬิกาที่ผสานดีไซน์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ เข้ากับกลไกอินเฮ้าส์ประสิทธิภาพสูง และโทนสีที่เปี่ยมด้วยความสดใส
Big Crown ถูกสร้างสรรค์ขึ้นครั้งแรกในปี 1938 ในฐานะเครื่องบอกเวลาความเที่ยงตรงสำหรับนักบินที่สวมถุงมือ มาพร้อมตัวเรือนทรงกลมที่สวมใส่สบาย เม็ดมะยมขนาดใหญ่ และกลไก Pointer Date ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยในปัจจุบัน ผลลัพธ์คือการใช้งานที่ตอบโจทย์นักบินในยุคนั้น และเมื่อเวลาผ่านไปยิ่งตอกย้ำคุณสมบัติเหล่านี้สู่สถานะไอคอนิก ทำให้ Big Crown กลายเป็นหนึ่งในดีไซน์นาฬิกาสวิสที่เป็นที่จดจำมากที่สุด
คุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านั้นได้กลายเป็นพื้นฐานของนาฬิการุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกลไกอินเฮ้าส์ Calibre 113 แบบขึ้นลานด้วยมือ มีพลังงานสำรองยาวนาน 10 วัน และเข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้นที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งจะแสดงผลในลักษณะเหมือนชะลอลงเมื่อพลังงานใกล้หมดและถึงเวลาต้องขึ้นลานใหม่ เช่นเดียวกับคุณสมบัติใน Big Crown รุ่นดั้งเดิมเมื่อเกือบ 90 ปีก่อน ที่ช่วยเพิ่มความชัดเจนในการอ่านค่าได้อย่างยอดเยี่ยม
Calibre 113 ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นปฏิทินธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานซึ่งต้องการติดตามไม่เพียงแค่วัน วันที่ และเดือน แต่รวมถึงสัปดาห์ด้วย โดยรอบหน้าปัดจะมีสเกล 52 สัปดาห์ ซึ่งชี้บอกด้วยเข็มจากกลางหน้าปัดอย่างชัดเจน
นักออกแบบของ Oris ได้เลือกใช้โทนสีที่น่าจดจำ เพื่อสะท้อนถึงความสุขที่หลอมรวมอยู่ในฟังก์ชั่นของนาฬิกา หน้าปัดหลักโดดเด่นด้วยสีเขียวมิ้นต์ ตัดกับหน้าปัดย่อยและรายละเอียดหน้าปัดบางส่วนในโทนสีชมพู Rose Pink เพิ่มความคมชัดด้วยดีเทลสีทองและสีขาว จับคู่มากับสายโลหะแบบเรียวที่สวมใส่สบายกระชับกับข้อมือ
ผลลัพธ์ที่ได้คือ การถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความภาคภูมิใจในการสร้างสรรค์และการผลิตนาฬิกาของ Oris
บทสัมภาษณ์ : BEAT FISCHLI AND LUKAS BŰHLMANN
ALIGNING DIARIES
ขอเริ่มด้วยการแนะนำตัวสั้นๆ และเล่าประสบการณ์กับ Oris ของคุณ
Beat Fischli ผมเข้าร่วมงานกับ Oris ตั้งแต่ปี 2012 ในตำแหน่ง Chief Operating Officer ซึ่งยังคงเป็นบทบาทหน้าที่ของผมจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากความรับผิดชอบหลักของ COO เช่น การจัดซื้อ การผลิต และการควบคุมคุณภาพ ผมยังมีโอกาสได้เป็นผู้นำและรับผิดชอบโครงการพัฒนาทางเทคนิคมากมายตลอด 13 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการพัฒนากลไกอินเฮ้าส์ของ Oris ทั้ง Calibre 100 Series และ Calibre 400 Series
Lukas Bühlmann ผมทำงานที่ Oris มา 10 ปี และดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบมา 3 ปี เดิมทีผมเป็นนักออกแบบอุตสาหกรรม และเคยทำงานที่บริษัทด้านการออกแบบมาก่อน การได้ออกแบบนาฬิกา Oris ถือเป็นความสุขอย่างยิ่งสำหรับผม และเป็นความท้าทายที่กระตุ้นแรงบันดาลใจในการทำให้คอลเล็กชั่นของเรามีความร่วมสมัยอยู่เสมอ
น่าสนใจที่ได้เห็นการกลับมาของ Calibre 113 หนึ่งในตระกูล Calibre 100 Series กลไกขึ้นลาน 10 วัน ช่วยเล่าที่มาให้เราฟังหน่อย
BF ก่อนการครบรอบ 110 ปีของ Oris ในปี 2014 เราตัดสินใจที่จะนำ Oris กลับมาสู่เส้นทางในฐานะผู้สร้างสรรค์กลไกอีกครั้ง เราหลงใหลในกลไกจักรกล และแม้ว่าเราจะผลิตแต่นาฬิกาจักรกลมาโดยตลอด แต่ในเวลานั้นเราไม่ได้มีกลไกอินเฮ้าส์เป็นของตัวเองแล้ว ตลอดศตวรรษที่ 20 Oris เคยพัฒนากลไกมาเกือบ 300 แบบ และมีประวัติศาสตร์ทางวิศวกรรมที่น่าภาคภูมิใจ เป้าหมายของเราคือการนำสิ่งนั้นกลับคืนมา ด้วยการสร้างสรรค์กลไกที่บอกเล่าเรื่องราวนี้ได้ และยังสามารถตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าในยุคปัจจุบัน เราจึงได้พัฒนา Calibre 110 กลไกขึ้นลานด้วยมือที่มาพร้อมพลังงานสำรองยาวนานถึง 10 วัน และเข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ต่อมา เราได้เพิ่มคอมพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงปฏิทินธุรกิจแบบ 52 สัปดาห์ใน Calibre 113 และนี่คือกลไกอันงดงามที่เรานำกลับมาใช้ในนาฬิการุ่นใหม่นี้
Calibre 100 Series ได้เปิดประตูสู่ยุคแห่งการสร้างสรรค์กลไก ที่นำไปสู่ Calibre 400 Series ระบบออโตเมติก อะไรคือเหตุผลที่ Oris ยังคงพัฒนากลไกอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้?
BF กลไกเหล่านี้คือถ้อยแถลงอันชัดเจนถึงหนึ่งในศักยภาพหลักของเรา ความสามารถในการพัฒนาและสร้างสรรค์กลไกจักรกลอินเฮ้าส์ คือเครื่องหมายแห่งเอกลักษณ์ของบริษัท และในเชิงกลยุทธ์ สิ่งนี้สะท้อนถึงความเป็นเลิศของ Oris และสอดคล้องกับแนวคิดดั้งเดิมในการผลิตนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก
อะไรคือหลักการชี้นำที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนากลไกเหล่านั้น?
BF ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ต้องมีความท้าทายทางเทคนิค คือสะท้อนถึงการผสมผสานคุณสมบัติที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น อีกทั้งทุกอย่างต้องสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า เรามักจะกล่าวเสมอว่า Oris ผลิตนาฬิกาเพื่อผู้คนยุคใหม่ทั่วโลก ซึ่งคุณค่า ฟังก์ชั่น และดีไซน์ต้องผสานไปด้วยกันอย่างกลมกลืน
อะไรคือความท้าทายที่คุณต้องเผชิญ เมื่อต้องพัฒนากลไกใหม่ๆภายใต้หลักการเหล่านั้น?
BF นวัตกรรมไม่เคยเป็นเรื่องง่าย แต่นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้มันมีคุณค่า ในฐานะทีม เรามีความทะเยอทะยานอย่างมาก และสิ่งนี้คือแรงผลักดันสำคัญ ความท้าทายคือการผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีการผลิตและวัสดุ และเรารู้สึกสนุกกับการก้าวสู่พื้นที่ใหม่ๆ ร่วมกับซัพพลายเออร์และพันธมิตรของเรา เพื่อส่งมอบโซลูชั่นทางวิศวกรรมที่ขับเคลื่อนวงการการผลิตนาฬิกาจักรกลไปสู่ทิศทางใหม่ๆ และบอกเล่าเรื่องราวบทใหม่ออกมา
โดยทั่วไปแล้ว การพัฒนากลไก Oris รุ่นใหม่ใช้เวลานานแค่ไหน?
BF คำตอบไม่สามารถกำหนดได้ตายตัว แต่โดยภาพรวมแล้ว การพัฒนากลไกพื้นฐานใหม่ทั้งหมดจากศูนย์อาจใช้เวลานานถึงหกหรือเจ็ดปี ขณะที่การปรับปรุงหรือต่อยอดจากกลไกที่มีอยู่เดิมด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย มักจะใช้เวลาไม่เกินสองปี เป้าหมายของเราคือการทำให้ได้มาตรฐานที่สมบูรณ์แบบ มากกว่าจะยึดติดกับกรอบเวลา
ย้อนกลับไปที่ Calibre 100 Series อะไรคือแนวคิดตั้งต้น?
BF องค์ประกอบสำคัญในข้อมูลจำเพาะของ Oris Calibre 100 Series คือ กลไกขึ้นลานด้วยมือ ที่มาพร้อมพลังงานสำรองยาวนาน 10 วัน และเข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรอง เราตั้งเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์กลไกที่ทั้งท้าทาย มีเอกลักษณ์ และสมเหตุสมผลในเชิงการใช้งานจริง
พลังงานสำรอง 10 วันถือว่าไม่ธรรมดาเลย อะไรทำให้คุณเลือกตัวเลขนี้ และต้องทำอย่างไรจึงจะทำได้จริง?
BF ในมุมหนึ่ง เรารู้สึกว่า 10 วันเป็นตัวเลขที่โดดเด่นและจดจำง่าย แต่เราก็รู้ดีว่านี่คือคุณสมบัติที่แทบไม่เคยพบในนาฬิกาจักรกล และแน่นอนว่าไม่เคยปรากฏในนาฬิกาของ Oris ปรัชญาของ Oris คือเราไม่ต้องการทำให้ซับซ้อนเกินไป ดังนั้นทางออกคือการคงโครงสร้างแบบกระปุกลานเดี่ยวไว้ และใช้เมนสปริงเดี่ยวที่ยาวเป็นพิเศษ วิธีนี้ทำให้เราสามารถผลักดันขีดจำกัดได้ โดยไม่ลดทอนคุณค่า ฟังก์ชั่น หรือดีไซน์ไป
คุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งคือเข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้น อะไรคือแรงบันดาลใจ?
BF คำตอบคือ ความชัดเจนและการอ่านค่าได้ง่าย เราต้องการให้นาฬิกาสามารถแสดงพลังงานสำรองที่เหลืออยู่ให้ผู้สวมใส่อ่านค่าได้อย่างสะดวก เพื่อให้รู้ได้อย่างแม่นยำว่าเมื่อใดที่ต้องขึ้นลานใหม่ โดยมุมระหว่างตัวเลขวันซึ่งแสดงพลังงานสำรองจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพลังงานสำรองลดลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้อย่างสมเหตุสมผล และ Oris ได้จดสิทธิบัตรอุปกรณ์เข็มชี้บอกพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้นนี้แล้ว
Calibre 100 Series รุ่นนี้มีความพิเศษอย่างไร?
BF นอกเหนือจากการแสดงชั่วโมง นาที วินาที และเข็มชี้บอกพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้นแล้ว Calibre 113 ยังแสดงวันที่ วัน สัปดาห์ และเดือน การสวมใส่นาฬิกาที่ใช้กลไก Calibre 113 จึงเปรียบเสมือนการมีปฏิทินธุรกิจแบบเต็มรูปแบบอยู่บนข้อมือ ผมชื่นชอบเป็นพิเศษกับคุณสมบัติอันชาญฉลาดของ Calibre 113 ที่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่นทั้งหมดได้ผ่านเม็ดมะยมเพียงเม็ดเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมีเม็ดมะยมเพิ่มเติมหรือปุ่มกดใดๆ เลย
แล้วเหตุใดจึงเลือกกลับมาที่ Calibre 113 และปฏิทินธุรกิจ?
BF Calibre 113 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและผู้ที่หลงใหลในนาฬิกามากมาย มันคือการผสมผสานของคอมพลิเคชั่นที่ทั้งน่าสนใจและสมบูรณ์แบบ แม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 8 ปีหลังจากเปิดตัว แต่ผมยังคงถูกถามถึง Calibre 113 อยู่บ่อยครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่ Calibre 113 ถูกนำมาใช้ใน Big Crown เพราะเหตุใด?
LB อย่างที่ทราบกันดี คอลเลกชั่น Big Crown มีประวัติศาสตร์อันยาวนานด้วยเข็มชี้ เช่นเดียวกับ Calibre 113 ดังนั้นจึงเป็นการจับคู่ที่ลงตัว อีกทั้งสัดส่วนและฟังก์ชั่นของกลไกยังเข้ากับดีไซน์ของ Big Crown ได้อย่างเหมาะเจาะ เรียกได้ว่าเป็นจังหวะที่ทุกอย่างสอดคล้องกันพอดี
หลังจากที่ Oris มุ่งเน้นไปที่ Calibre 400 Series ช่วงหนึ่ง นี่ถือเป็นสัญญาณของการหวนคืนของกลไกตระกูล Calibre 100 Series สู่คอลเลกชั่นของ Oris หรือไม่?
BF ความต้องการของตลาดทำให้ Calibre 100 Series ถูกผลิตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 โดย ProPilot X Calibre 115 แบบ Skeleton ที่เปิดตัวในปี 2019 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นทั้งนาฬิกาไอคอนิกที่โดดเด่น และผลงานชิ้นเอกของ Oris และในวันนี้ Calibre 113 ก็ได้กลับมาอีกครั้งในคอลเลกชั่น Big Crown
นาฬิการุ่นใหม่นี้มาพร้อมโทนสีที่โดดเด่น อะไรคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังของการเลือกสีชมพูและสีเขียว?
LB อย่างที่ Oris เป็นเสมอมา เราจริงจังกับการผลิตนาฬิกา แต่ไม่ทำให้มันเคร่งขรึมจนเกินไป นาฬิกากลไกจักรกลควรมอบความสุข และนั่นคือที่มาของการเลือกใช้สีสันใหม่ที่สดใสและอาจคาดไม่ถึง ใช่ มันโดดเด่นสะดุดตา และใช่ มันมอบความสุขให้เรา และเรามั่นใจว่าจะมอบความสุขให้กับลูกค้าของเราด้วยเช่นกัน
ในมุมมองของคุณ Lukas นาฬิกา Big Crown Calibre 113 รุ่นใหม่นี้ถ่ายทอดเรื่องราวการสร้างสรรค์นาฬิกาของ Oris อย่างไร?
LB นี่คือเรื่องราวของแนวคิดดั้งเดิมที่หยั่งรากลึก และผสานกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว เราผลิตนาฬิกากลไกจักรกลมานานกว่า 120 ปี แต่นาฬิการุ่นนี้กลับเปี่ยมด้วยความสดใส มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยความสุข มันคือนาฬิกาสำหรับวันนี้ และสำหรับผู้คนยุคใหม่ทั่วโลก
BIG CROWN CALIBRE 113
ขอแนะนำ Big Crown Calibre 113 ที่มาพร้อมพลังงานสำรองยาวนาน 10 วัน เข็มชี้บอกระดับพลังงานสำรองแบบไม่เชิงเส้น และฟังก์ชั่นปฏิทินธุรกิจเต็มรูปแบบ
29 ก.ย. 2568
29 ก.ย. 2568
29 ก.ย. 2568
29 ก.ย. 2568