DUBAI Watch Week 2025

Latifa Bint Mohammed Dubai Watch Week ได้ประกาศรายชื่อแบรนด์ที่เข้าร่วมงาน Dubai Watch Week 2025 ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 7 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 90 แบรนด์ พร้อมย้ายสถานที่ไปยังแลนด์มาร์กของเมืองอย่าง Dubai Mall, Burj Park บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร โดยปีนี้จะมีรูปแบบโปรแกรมใหม่และการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายในงาน และงาน Brands Exhibition จะมีพื้นที่เฉพาะสำหรับแบรนด์ดังระดับโลก รวมถึงพื้นที่เฉพาะสำหรับแบรนด์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตร ได้แก่ กรมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแห่งดูไบ (DET), Dubai Culture และ Dubai Mall

ภายใต้การอุปถัมภ์ของ Sheikha Latifa bint Mohammed bin Rashid Al Maktoum ประธานของ Dubai Culture & Arts Authority (Dubai Culture) งาน Dubai Watch Week จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 23 พฤศจิกายน 2025 ที่ Dubai Mall, Burj Park โดยมีแบรนด์ที่เข้าร่วมงานกว่า 90 แบรนด์ นับเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับแพลตฟอร์มนี้ เนื่องจากช่วยเสริมสร้างตำแหน่งของตนในฐานะงานระดับโลกด้านความหรูหรา วัฒนธรรม และนาฬิกา

สถานที่จัดงานแห่งใหม่ซึ่งมีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางฟุตนี้ตั้งอยู่ในใจกลางดูไบ และจะเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ รูปแบบโปรแกรมที่น่าสนใจ และการกระทำต่างๆ ที่รับรองว่าจะต้องดึงดูดผู้ชมได้อย่างแน่นอน ด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 23,000 คนในปี 2023 Dubai Watch Week มุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงชุมชน สร้างโอกาสอันเป็นเอกลักษณ์สำหรับการแลกเปลี่ยนชุมชน การทำงานร่วมกัน และการบรรจบกันอย่างสร้างสรรค์

การจัดงานครั้งที่ 7 นี้มีแบรนด์ต่างๆ เข้าร่วมเพิ่มขึ้น 46% จากครั้งก่อน และจะมีแบรนด์ชั้นนำ เช่น Rolex, Audemars Piguet, TUDOR, Van Cleef & Arpels, Hublot, Chopard, Ferdinand Berthoud, Breitling, Girard-Perregaux, BVLGARI, TAG Heuer, CHANEL และ Gerald Charles ซึ่งทั้งหมดจะมีพื้นที่แบบสแตนด์อโลนในสถานที่จัดงาน

“ความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากแบรนด์และพันธมิตรก่อนงานในปีนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าประทับใจ เนื่องจากเราได้สร้างแพลตฟอร์มของงาน Dubai Watch Week ขึ้น และเดินหน้าผลักดันให้ดูไบเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกต่อไป เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนสู่สถานที่จัดงานแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าสำหรับงานครั้งที่ 7 ซึ่งเราเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของการก่อตั้งงานในปี 2015 เป้าหมายของเราคือการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับแขกผู้มาเยือนด้วยการปรับปรุงแนวคิดโปรแกรมของเราและคัดเลือกกิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับอุตสาหกรรมและผู้เยี่ยมชมจากทั่วโลกต่อไป” Hind Seddiqi ซีอีโอของงาน Dubai Watch Week กล่าว

แบรนด์ที่เข้าร่วม ได้แก่ A. Lange & Söhne, Angelus, Arnold & Sons, Armin Strom, ArtyA, ARTIME, Atelier Wen, Beda’a, Bell & Ross, Behrens, Biver, Bovet, Bremont, Chronoswiss, Cyrus Watches Genève, Czapek & Cie, David Candeaux, De Bethune, DOXA, DUKE, Favre Leuba, F.P. Journe, Frederique Constant, GENUS, Greubel Forsey, H. Moser & Cie., Hautlence, HAUTE-RIVE WATCHES, Hermle DREHTEILE UND UHREN GmbH & Co. KG, HYT, ID Genève, Jacob & Co., Jean Rousseau, Kollokium, Konstantin Chaykin, Kross Studio, Kudoke, Kurono Tokyo, L’Epee, La Fabrique du Temps Louis Vuitton, La Vallée, Laurent Ferrier, Louis Erard, Louis Moinet, Ludovic Ballouard, MEC Watches, Miki Eleta, MB&F, MING, Moritz Grossmann, Nivada Grenchen, NOMOS Glashütte, NORQAIN, Oris, Parmigiani Fleurier, Perrelet, Raketa, Raul Tena, Ressence, REXHEP REXHEPI, Roger Dubuis, Roger W Smith, Rudis Sylvia, Schwarz Etienne, Singer Reimagined, Speake-Marin, Studio Underd0g, Trilobe, Tutima, Ulysse Nardin, URWERK, Vanguart, Velini Watches, Voutilainen, Vyntage Horology

สนใจเข้าชมงาน สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่ https://www.dubaiwatchweek.com

เกี่ยวกับ Dubai Watch Week:
ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Ahmed Seddiqi งาน Dubai Watch Week เป็นมากกว่าการจัดแสดงนาฬิกา มันคือเวทีที่เชื่อมโยงผู้คน ชุมชน และนวัตกรรมเข้าด้วยกัน ภายในโลกของนาฬิกาหรู งานนี้เฉลิมฉลองการพบปะของผู้สร้างสรรค์ การแลกเปลี่ยนความรู้ และการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ทั้งในด้านการออกแบบ เทคนิคฝีมือ และเทคโนโลยี

เกี่ยวกับ Dubai Department of Economy and Tourism (DET)
ภายใต้วิสัยทัศน์ในการยกระดับดูไบให้เป็น ศูนย์กลางธุรกิจและการลงทุนชั้นนำระดับโลก รวมถึงจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว DET มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนรัฐบาลดูไบ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของเมืองทั้งทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับ Dubai Economic Agenda (D33) ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขนาดเศรษฐกิจของดูไบเป็นสองเท่า และยกระดับเมืองให้อยู่ในอันดับสามของเมืองโลกภายในทศวรรษหน้า

DET มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจบริการที่หลากหลายและสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดบุคลากรระดับโลก สร้างสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เป็นเลิศ และเร่งการเติบโตด้านผลผลิต พร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์ของดูไบในการเป็น เมืองที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตและทำงาน ด้วยการนำเสนอจุดเด่นด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย คุณภาพชีวิต และโอกาสเชิงธุรกิจที่ไม่ซ้ำใคร

ภารกิจของ DET ครอบคลุมการวางแผน กำกับดูแล พัฒนา และประชาสัมพันธ์ทุกภาคส่วนทางธุรกิจและการท่องเที่ยว รวมถึงการออกใบอนุญาตและจัดประเภทของธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม บริษัททัวร์ หรือเอเจนซี่ท่องเที่ยว

พอร์ตโฟลิโอของ DET ประกอบด้วยหน่วยงานสำคัญ เช่น Dubai Economic Development Corporation (DEDC), Dubai Business Licence Corporation (DBLC), Dubai Corporation for Consumer Protection and Fair Trade (DCCPFT), Dubai SME, Dubai Corporation for Tourism and Commerce Marketing (DCTCM), Dubai Festivals and Retail Establishment (DFRE) และ Dubai College of Tourism (DCT)

เกี่ยวกับ Dubai Culture & Arts Authority
ภายใต้การนำของ สมเด็จพระเจ้าหญิง Latifa bint Mohammed bin Rashid Al Maktoum Dubai Culture & Arts Authority (Dubai Culture) มีพันธกิจในการยกระดับและพัฒนาฉากวัฒนธรรมของดูไบ โดยอิงรากฐานจากมรดกวัฒนธรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้งสร้างสะพานเชื่อมวัฒนธรรมหลากหลาย เพื่อยกระดับดูไบให้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมระดับโลก แหล่งบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ และศูนย์รวมบุคลากรที่มีศักยภาพ

Dubai Culture มุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูและอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์ของนครดูไบ พร้อมพัฒนา กรอบกฎหมายและนโยบายสำหรับอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและสร้างสรรค์ ตามแผนกลยุทธ์ 2020–2026 นอกจากนี้ยังสนับสนุนบุคลากรและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ผลักดันความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการลงทุนในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและมรดกของรัฐ เช่น การบริหารจัดการ 6 แห่งมรดกทางวัฒนธรรม, 5 พิพิธภัณฑ์, ศูนย์วัฒนธรรมเด็ก Al Jalila, และ 8 สาขาห้องสมุดสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดมีส่วนช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่สนับสนุนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์

เกี่ยวกับ Dubai Mall: ศูนย์กลางของแฟชั่นและนวัตกรรม
เปิดตัวในปี 2008 Dubai Mall คือศูนย์รวมความบันเทิงและค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ 1.2 ล้านตารางเมตร และร้านค้ากว่า 1,200 แห่ง พร้อมด้วยร้านอาหารนานาชาติกว่า 200 ร้าน Dubai Mall ไม่เพียงเป็นแหล่งช้อปปิ้ง แต่ยังมีแหล่งบันเทิงและกิจกรรมหลากหลาย เช่น Dubai Aquarium & Underwater Zoo, Reel Cinemas 24-screen cineplex, KidZania Dubai, Play DXB และ Dubai Ice Rink

ย่าน Fashion Avenue ซึ่งเปิดตัวในปี 2018 ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Dubai Mall ในฐานะศูนย์รวมความหรูหราและนวัตกรรม ระดับโลก โดยช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของดูไบในฐานะ จุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยว

สะท้อนวิสัยทัศน์แห่งอนาคต
ทั้ง Dubai Watch Week, DET, Dubai Culture และ Dubai Mall สะท้อนให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ของดูไบในการเป็นศูนย์กลางระดับโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการอนุรักษ์วัฒนธรรม ทำให้ดูไบเป็นเมืองที่ไม่เพียงเหมาะสำหรับการลงทุนและธุรกิจ แต่ยังเป็น แหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากทั่วโลก

จากเวทีนาฬิกาหรูสู่ศูนย์รวมวัฒนธรรมและแฟชั่น ดูไบกำลังสร้างสมดุลระหว่างความทันสมัยและรากเหง้าวัฒนธรรมอย่างกลมกลืน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้สร้างสรรค์ทุกคนให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตที่ยั่งยืน