A. LANGE & SÖHNE Saxonia Thin

ด้วยการออกแบบที่ถูกกลั่นกรองจนเหลือเพียงแก่นแท้ และกลไกผลิตภายในโรงงานที่บางเฉียบพร้อมการตกแต่งอย่างประณีต Saxonia Thin จึงเปล่งประกายเสน่ห์แห่งความสง่างามในรูปแบบที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่านาฬิกาใด บัดนี้รุ่นพิเศษในตัวเรือนทองคำ Honeygold® 750 และแพลทินัม 950 มาพร้อมหน้าปัดอัญมณีโอนิกซ์สีดำเงางาม เติมเต็มสายผลิตภัณฑ์ด้วยสองเวอร์ชันใหม่ที่หรูหรา แต่ละรุ่นผลิตจำกัดเพียง 200 เรือนเท่านั้น

ความงามที่เรียบง่ายและกระชับคือหัวใจสำคัญของ Saxonia Thin แสดงออกผ่านเข็มเพรียวสองเข็มและหลักชั่วโมงที่จัดวางอย่างพอดี หน้าปัดจึงมุ่งเน้นอย่างหมดจดต่อการบอกเวลาเพียงชั่วโมงและนาที

สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ
หน้าปัดที่รังสรรค์ได้อย่างกลมกลืนของนาฬิกานี้ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หากแต่เป็นผลลัพธ์จากการปรับสมดุลอย่างละเอียดในทุกองค์ประกอบ นักออกแบบของ A. Lange & Söhne ทุ่มเทความพิถีพิถันให้กับสัดส่วนของเข็ม ความยาวและความโค้งมนของปลายเข็ม รายละเอียดเล็กน้อยของหลักชั่วโมงที่ขัดเหลี่ยมเงางาม ไปจนถึงการจัดวางสัดส่วนของตัวเรือน ด้วยตัวเรือนที่บางเฉียบและการออกแบบสัดส่วนที่แม่นยำ นาฬิกาเข็มสองเข็มรุ่นนี้รับกับข้อมือได้อย่างกระชับพอดี ขณะเดียวกันก็เพรียวบางพอที่จะเลื่อนเก็บเข้าใต้แขนเสื้อเชิ้ตได้อย่างไร้รอยสะดุด คุณสมบัติที่สะท้อนถึงการผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสุนทรียะและฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวัน

งดงามกับการผสานสองเฉดสีที่ลงตัว
หน้าปัดหินโอนิกซ์ที่ประดับอยู่บนรุ่นใหม่ทั้งสอง ทำให้งานออกแบบมีมิติแห่งความสูงศักดิ์ยิ่งขึ้น หินหายากชนิดนี้แทบไม่ค่อยถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตนาฬิกา ด้วยพื้นผิวสีดำเข้มเงางามทำให้นาฬิกาเต็มไปด้วยเสน่ห์อันลุ่มลึก ในเวอร์ชันตัวเรือนทอง Honeygold พื้นหน้าปัดสีดำสนิทเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับประกายอุ่นของเนื้อโลหะมีค่า ขณะที่ในรุ่นแพลทินัม 950 โทนเย็นกลับสร้างความตัดกันอันน่าหลงใหล ทำให้เข็มและหลักชั่วโมงโดดเด่นตัดกับฉากหลังสีดำอย่างชัดเจน

สุนทรียะแห่งความเรียบง่าย
บุคลิกอันโดดเด่นของ Saxonia Thin ตั้งอยู่บนหลักการออกแบบ “Less is more” อย่างแท้จริง ความบางเฉียบของตัวเรือนที่มีเพียง 6.2 มิลลิเมตร และเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร แสดงให้เห็นความสง่างามในเชิงสถาปัตยกรรมของเวลา ตัวเรือนผลิตขึ้นจากทอง Honeygold ทองสูตรพิเศษเฉพาะของ Lange หรือแพลทินัม 950 ที่หรูหราสงบนิ่ง เมื่อผสานเข้ากับขาสายนาฬิกาที่โค้งเรียบลื่น นาฬิกาจึงโอบรับข้อมือได้อย่างพอดี และเลื่อนเก็บใต้แขนเสื้อเชิ้ตได้อย่างไร้ที่ติ

สายหนังจระเข้สีดำมันวาวคือการปิดท้ายงานออกแบบที่กลมกลืน ไม่ว่าสวมใส่ในที่ประชุมกลางวัน หรือดินเนอร์ยามค่ำคืน นาฬิกาเรือนนี้ล้วนบ่งบอกถึงรสนิยมที่เปี่ยมด้วยสไตล์

กลไกเครื่องอินเฮาส์: ศิลป์แห่งความบาง
เช่นเดียวกับนาฬิกา A. Lange & Söhne ทุกเรือน Saxonia Thin ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลที่พัฒนาและผลิตขึ้นเองภายในโรงงานของแบรนด์ทั้งหมด กลไกไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ L093.1 มีความบางเพียง 2.9 มิลลิเมตร แต่ซ่อนพลังสำรองสูงสุดได้ถึง 72 ชั่วโมง ด้วยโครงสร้างตลับลานแบนที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด กลไกชุดนี้ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตตามมาตรฐานสูงสุดของ A. Lange & Söhne สามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์

ความสง่างามที่สืบทอดสู่กลไก
เสน่ห์ของ Saxonia Thin ไม่ได้อยู่แค่เพียงภายนอก หากยังสะท้อนอยู่ในรายละเอียดเล็กที่สุดของกลไกภายใน ความสมดุลระหว่างเฟืองเม็ดมะยมและเฟืองตลับลาน รูปทรงเด่นของสปริงสต็อปคลิก เส้นโค้งของแท่นเครื่องสามส่วนสี่ที่รังสรรค์จากเงินเยอรมันที่ปราศจากการชุบ ไปจนถึงการจัดวางสกรูสีน้ำเงินที่ผ่านความร้อนสูงวางรอบหลุมทับทิมทองคำ "ความงามของการผสานระหว่างแท่นเครื่องเงินเยอรมัน ทับทิมกันการเสียดสีสีแดง และสีน้ำเงินของบลูสกรู ทำให้หลุมทับทิมสีทองสามตำแหน่งเปล่งประกายอย่างงดงาม" Antony de Haas ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กล่าวไว้

เกี่ยวกับ A. Lange & Söhne
เฟอร์ดินานด์ อดอล์ฟ ลังเงอ ช่างนาฬิกาแห่งเดรสเดน วางรากฐานของอุตสาหกรรมนาฬิกาความเที่ยงตรงของแซกโซนีเมื่อเขาก่อตั้งโรงงานในปี 1845 ผลงานนาฬิกาพกของเขายังคงเป็นที่ปรารถนาอย่างสูงในหมู่นักสะสมทั่วโลก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัทถูกเวนคืน และชื่อ A. Lange & Söhne แทบจะสูญหายไปจากประวัติศาสตร์ จนกระทั่งในปี 1990 วอลเทอร์ ลังเงอ ผู้เป็นเหลนได้กล้าหาญรื้อฟื้นแบรนด์ขึ้นมาอีกครั้ง

ปัจจุบัน A. Lange & Söhne ผลิตนาฬิกาเพียงไม่กี่พันเรือนต่อปี ส่วนใหญ่ทำจากทองคำหรือแพลทินัม ทุกเรือนใช้กลไกที่ผลิตเองและตกแต่งด้วยมืออย่างพิถีพิถัน นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา แบรนด์ได้พัฒนากลไกขึ้นถึง 75 แบบ ครองตำแหน่งแนวหน้าของวงการนาฬิกา ผลงานชิ้นเอกอย่าง LANGE 1 ซึ่งมีช่องวันที่ขนาดใหญ่ และ ZEITWERK ที่แสดงตัวเลขกระโดดอย่างแม่นยำ ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์

นอกจากนี้ยังมีงานซับซ้อนขั้นสูง เช่น ZEITWERK MINUTE REPEATER, DATOGRAPH PERPETUAL TOURBILLON และ TRIPLE SPLIT ที่สะท้อนถึงเป้าหมายอันไม่หยุดนิ่งของโรงงานในการผลักดันศิลปะการทำนาฬิกาให้ก้าวไปสู่ขอบเขตใหม่ ๆ และในปี 2019 นาฬิกา ODYSSEUS ตัวเรือนสเตนเลสสตีลแนวสปอร์ตหรู ได้เปิดบทใหม่ให้กับเรื่องราวของ A. Lange & Söhne อย่างแท้จริง