Last updated: 7 ต.ค. 2568 | 230 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อห้าทศวรรษก่อนหน้า GIRARD-PERREGAUX ได้เปิดตัว Laureato นาฬิการะดับไอคอนที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการนาฬิการ่วมสมัย ผลงานซึ่งได้รับการออกแบบ พัฒนาและผลิตขึ้นอย่างครบวงจรภายในโรงงานของแบรนด์ สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความประณีตในทุกรายละเอียด โดย Laureato ได้เปิดประตูให้แบรนด์ก้าวเข้าสู่โลกของนาฬิกาสปอร์ตหรู ด้วยดีไซน์สายแบบบูรณาการที่มีเอกลักษณ์ ผสานกลไกควอตซ์ระดับโครโนมิเตอร์ ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยแห่งยุค เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ Laureato แบรนด์จึงเฉลิมฉลองด้วยการเปิดตัว Laureato FIFTY รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ซึ่งผลิตเพียง 200 เรือนทั่วโลก ถ่ายทอดจิตวิญญาณดั้งเดิมของ Laureato ได้อย่างครบถ้วน ทั้งยังเป็นการรำลึกถึงอดีต พร้อมสะท้อนวิสัยทัศน์และแนวทางอันชัดเจนของ Girard-Perregaux ในอนาคต
A VISIONARY MANUFACTURING SPIRIT AND IDENTITY
นับตั้งแต่ปี 1791 ทาง Girard-Perregaux ได้สั่งสมอัตลักษณ์ของตนผ่านคำมั่นสำคัญสองประการ: การสร้างสรรค์นาฬิกาด้วยดีไซน์ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ และการพัฒนากลไกนาฬิกาด้วยความสามารถของตนเอง ท่ามกลางอุตสาหกรรมนาฬิกาที่ในอดีตเติบโตขึ้นจากแนวทาง établissage ซึ่งอาศัยเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนจากภายนอก Girard-Perregaux กลับเลือกเส้นทางที่แตกต่าง ด้วยการนำระบบการผลิตแบบ Manufacture มาใช้ตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ยุคเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการควบคุมทุกกระบวนการผลิตไว้ภายในองค์กร
แบรนด์จึงนับเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแห่งวงการที่รวมทุกขั้นตอนของการผลิตไว้อย่างครบวงจร ณ เมือง La Chaux-de-Fonds ใจกลางเทือกเขา Neuchâtel ไม่เพียงสร้างสรรค์นาฬิกาภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเท่านั้น หากยังเป็นผู้ผลิตกลไกคุณภาพเพื่อส่งมอบให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกถ่ายทอดงานฝีมืออันประณีตพิถีพิถัน ตามมาตรฐานอันเข้มงวดของศาสตร์การทำนาฬิกาชั้นสูง
ประวัติศาสตร์ของ Laureato สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศ ย้อนกลับไปในปี 1966 Girard-Perregaux ได้ก่อตั้งแผนกวิจัยและพัฒนาเพื่อศึกษาศักยภาพของเทคโนโลยีควอตซ์ และในอีกห้าปีต่อมา แผนกดังกล่าวได้พัฒนาขึ้นเป็นสำนักงานออกแบบของแบรนด์ พร้อมเปิดตัวกลไก GP350 ที่มีความถี่ 32,768 เฮิรตซ์ ซึ่งในเวลาต่อมากลายเป็นมาตรฐานสากลของอุตสาหกรรมนาฬิกาทั่วโลก
Girard-Perregaux คือหนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยีกลไกควอตซ์อย่างแท้จริง โดยในปี 1977 ซึ่งเป็นเพียงสองปีหลังจากการเปิดตัว Laureato สิทธิบัตรด้านกลไกควอตซ์ที่ได้รับการรับรองโดย COSC ถึง 83% ล้วนมาจากแบรนด์เพียงรายเดียว นาฬิกา Laureato รุ่นแรกจึงถือกำเนิดขึ้นบนรากฐานอันมั่นคงของความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิคและวิสัยทัศน์อันล้ำหน้า
LAUREATO:
MANIFESTO OF A NEW ELEGANCE
Laureato โดดเด่นทันทีที่ปรากฏ ด้วยอัตลักษณ์การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์: ขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมซ้อนบนฐานกลม ตัวเรือนทรงตอนโนและสายโลหะแบบบูรณาการ ออกแบบโดยทีมดีไซเนอร์ภายในของ Girard-Perregaux ถ่ายทอดเส้นสายที่ลื่นไหล ผสานโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมอย่างงดงาม
ดีไซน์ของ Laureato ท้าทายกรอบการทำนาฬิกาแบบดั้งเดิมโดยไม่ละทิ้งรากเหง้า แตกต่างจากนาฬิการ่วมยุคอย่าง Royal Oak ของ Gérald Genta (1972) ที่เน้นเหลี่ยมมุมและสกรูเด่นชัด หรือ Nautilus (1976) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหน้าต่างเรือและทรง “หมอน” แบบคลาสสิก Laureato กลับยืนหยัดในความเที่ยงตรง สมดุล และสง่างาม
นับตั้งแต่ปี 1975 Laureato จึงกลายเป็นตัวแทนของนิยามใหม่แห่งความหรูหราที่ละเมียดและมีชั้นเชิง ไม่ได้เป็นเพียงผลผลิตจากกระแส แต่คือผู้นำกระแสอย่างแท้จริง
ปรัชญาดังกล่าวสะท้อนอย่างชัดเจนใน Laureato FIFTY ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากรุ่นต้นแบบ รุ่นใหม่นี้จึงผสานความภักดีต่อดีไซน์ดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ
“This new creation embodies both fidelity to the historic design and the integration
of the most advanced technologies”
LAUREATO FIFTY:
REFINED DESIGN, ENHANCED TECHNOLOGY
ด้วยตัวเรือนใหม่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มม. และความหนาเพียง 9.8 มม. Laureato FIFTY ยังคงถ่ายทอดจิตวิญญาณดั้งเดิมไว้อย่างชัดเจน ผ่านการผสานวัสดุอย่างสเตนเลสสตีลและเยลโล่โกลด์ 3N ชวนให้นึกถึงรุ่นไบคัลเลอร์ดั้งเดิมจากปี 1975 พร้อมเติมความร่วมสมัยในทุกรายละเอียด ตัวเรือนทรงตอนโนได้รับการปรับโฉมใหม่ ด้วยเส้นสายคมชัด ขอบตัวเรือนที่โดดเด่น และการเชื่อมต่อสายที่เรียบลื่นยิ่งขึ้น ขอบตัวเรือนแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ สลับพื้นผิวแบบขัดด้านและเงา สร้างมิติของแสงและเงา เสริมความงดงามให้ทุกมุมมอง กระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมาในรูปแบบเรียบแบน ช่วยเติมเต็มภาพลักษณ์โดยรวมให้ดูสง่างามยิ่งขึ้น อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นที่หาได้ยากในนาฬิกาประเภทนี้ คือความสามารถในการกันน้ำได้ลึกถึง 150 เมตร
หน้าปัดสีเทาซันเรย์ลึก ประดับลวดลาย Clous de Paris เพิ่มมิติด้วยหลักชั่วโมงและเข็มทองคำ 3N เหมือนตัวเรือน เข็มวินาทีตรงกลางถ่วงสมดุลด้วยตุ้มน้ำหนักรูปลูกศรคู่สัญลักษณ์ GP ช่องวันที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา แสดงวันที่บนแผ่นดิสก์สีเดียวกับพื้นหน้าปัด ความประณีตและรายละเอียดสะท้อนถึงความเคารพต่อศาสตร์การผลิตนาฬิกาชั้นสูง
“A level of finishing and detail that testifies to absolute respect for the codes of Haute Horlogerie”
INTEGRATED BRACELET:
BETWEEN AESTHETICS AND ERGONOMICS
สายสเตนเลสสตีลและเยลโล่โกลด์ยังคงถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งดีไซน์ดั้งเดิม ความซับซ้อนในรายละเอียดสะท้อนผ่านรูปทรงเรียวของข้อต่อทรง ‘H’ ที่ผลิตจากสเตนเลสสตีล โดยได้รับการออกแบบให้บางลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเข้าใกล้ตัวล็อก ข้อต่อแต่ละชิ้นได้รับการปรับให้สั้นลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ช่วยให้สายโอบรับกับข้อมือ พร้อมฟังก์ชั่นปรับขนาดแบบครึ่งข้อ ข้อต่อกลางที่ทำจากเยลโล่โกลด์ถูกออกแบบให้มีความนูนเล็กน้อยกว่าส่วนที่เป็นสเตนเลสสตีล ช่วยสร้างมิติและเพิ่มความโดดเด่น
ตัวล็อกบานพับแบบสามทบประทับโลโก้ GP พร้อมสลักบนบานพับด้านใน ปุ่มกดทรงแปดเหลี่ยมบนตัวล็อกสะท้อนดีไซน์ขอบตัวเรือน เสริมความกลมกลืนในการออกแบบ ตัวล็อกยังมาพร้อมระบบปรับขนาด ช่วยปรับความยาวสายได้เพิ่มขึ้นถึง 4 มม. เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพอากาศเมืองร้อน ทุกรายละเอียดสามารถใช้งานได้จริง สวยงาม และเรียบง่าย
THE ART OF THE MOVEMENT:
THE NEW CALIBRE GP4800
การเปิดตัวกลไกชุดใหม่ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญแม้กระทั่งสำหรับผู้ผลิตระดับแนวหน้าอย่าง Girard-Perregaux โดยเผยกลไกผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ใส Laureato FIFTY จะเผยให้เห็นกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุด GP4800 ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน กลไกใหม่นี้ผสานความประณีตเข้ากับประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ โดดเด่นด้วยเอสเคปเมนท์ซิลิคอน และบาลานซ์แบบแปรผัน ซึ่งสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญเชิงกลไกระดับสูงของช่างนาฬิกาจากโรงงาน การออกแบบกลไก GP4800 ไม่เพียงมุ่งเน้นความทนทานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังรวมฟังก์ชั่นการทำงานหลากหลายกว่า 10 ระบบ การตกแต่งกลไกเผยให้เห็นถึงความงดงามเหนือกลไก GP4800 ไม่เพียงโดดเด่นในด้านรูปลักษณ์และเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Girard-Perregaux ในฐานะกลไก “เรียบง่าย” เรือนแรกที่แสดงชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ ภายใต้สถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ นั่นคือ “สะพานจักรกลสามส่วน” องค์ประกอบนี้ถ่ายทอดทั้งความชำนาญร่วมสมัยและประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสองศตวรรษของแบรนด์ โดยยึดมั่นในมาตรฐานที่เข้มงวดควบคู่กับจินตนาการเชิงสร้างสรรค์ กลไก GP4800 จึงเป็นบทสะท้อนแห่งวิวัฒนาการของศาสตร์การประดิษฐ์กลไก ที่ก้าวข้ามขอบเขตของกลไกทัวร์บิญองไปสู่แนวคิดใหม่ของสถาปัตยกรรมเครื่องบอกเวลา
AVAILABILITY
Laureato FIFTY รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นผลิต 200 เรือน จะวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย Girard-Perregaux ตั้งแต่ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป
A LIVING HERITAGE
ตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา Laureato ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยไม่เคยลืมรากฐานการออกแบบ พัฒนา และผลิตภายในโรงงานของแบรนด์ 100% ทุกเจเนอเรชันปรับปรุงดีไซน์ ยกระดับประสิทธิภาพและกลไก นาฬิกาเรือนนี้จึงยังคงความคลาสสิก ดูร่วมสมัยและสะท้อนความหรูหราอย่างเรียบง่าย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นจากความเที่ยงตรง
Laureato FIFTY จาก Girard-Perregaux มิใช่เพียงนาฬิการุ่นฉลองครบรอบ แต่ยังเป็นการแถลงการณ์ของแบรนด์ที่ผสานอดีตกับอนาคต มรดกกับนวัตกรรม และความเรียบง่ายกับความกล้าไว้อย่างลงตัว
ข้อมูลเกี่ยวกับ Girard-Perregaux
โรงงานที่เชี่ยวชาญทั้งด้านงานออกแบบและการผลิตกลไก นับตั้งแต่ปี 1791
ด้วยกลไกมากกว่า 30 รุ่นในแค็ตตาล็อก สิทธิบัตรกว่า 80 ฉบับ และมรดกอันยาวนานกว่า 230 ปี Girard-Perregaux จึงเป็นมาสเตอร์แห่งศิลปะนาฬิกาชั้นสูง
ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา Girard-Perregaux ก็โดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง ในปี 1791 แบรนด์ได้ริเริ่มแนวคิดโรงงานนาฬิกาที่รวมกระบวนการผลิตทั้งหมดไว้ในที่เดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่อุตสาหกรรมนาฬิกาที่ตามมา ผู้ก่อตั้งและผู้นำของแบรนด์ในแต่ละยุคสมัยต่างได้ยกระดับชื่อเสียงของแบรนด์ด้วยวิสัยทัศน์และจิตวิญญาณที่กว้างไกลและความคิดที่ก้าวหน้า
จิตวิญญาณนี้ได้นำไปสู่ความสำเร็จสำคัญหลายประการ ได้แก่ Three Bridges Tourbillon ในปี 1867 กลไกความถี่สูงในปี 1965 ที่มีความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง ความถี่มาตรฐานควอตซ์สากล (32,768 เฮิร์ต) ในปี 1971 และกลไก Constant Escapement ในปี 2013 ซึ่งได้รับรางวัล Aiguille d’Or จากงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève ความก้าวหน้าแต่ละครั้งล้วนเป็นผลมาจากทีมงานภายในที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหลในการผลักดันขีดจำกัด พร้อมกับเคารพในประเพณีและมาตรฐานดั้งเดิม
Girard-Perregaux ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบ ทุกองค์ประกอบ ทั้งรูปทรงโครงสร้าง และความงาม ล้วนได้รับการคิดค้น พัฒนา และสร้างสรรค์ภายในโรงงานของตนเองอย่างครบถ้วน ทูร์บิยองที่มาพร้อมกับสะพานจักรทองคำสามส่วน ซึ่งได้รับรางวัลในการจัดแสดงใน Paris Universal Exhibition เมื่อ 1889 ถือ เป็นผลงานปฏิวัติวงการทั้งในด้านเทคนิคและรูปลักษณ์
ปรัชญานี้ได้รับการถ่ายทอดผ่านนาฬิกา Laureato ซึ่งเปิดตัวในปี 1975 และถูกออกแบบขึ้นทั้งหมดภายในโรงงาน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบที่ด้วยรูปทรงสมมาตรที่โดดเด่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากขอบหน้าปัดที่มี 14 เหลี่ยมของนาฬิกา Deep Diver ปี 1969 ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดผ่านนาฬิกา Laureato ที่เห็นในปัจจุบัน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลงาน Laureato ได้ผสานฟังก์ชั่นซับซ้อนใหม่ ๆ และกลไกอัตโนมัติ พร้อมกับการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องโดยยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ได้อย่างชัดเจน
ในปัจจุบัน Girard-Perregaux ได้รับการยอมรับและชื่นชมอย่างกว้างขวางจากผู้รักและนักสะสมนาฬิกา ด้วยแนวทางโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในการรังสรรค์นาฬิกาชั้นสูง ชื่อเสียงของแบรนด์จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา ความประณีตและความงามที่เหนือกาลเวลา เป็นโรงงานผลิตนาฬิกาที่ยังคงยืนหยัดรักษามรดกอันยาวนานและทรงคุณค่าอย่างมั่นคง
6 ต.ค. 2568
7 ต.ค. 2568
7 ต.ค. 2568
6 ต.ค. 2568