Last updated: 11 ต.ค. 2568 | 153 จำนวนผู้เข้าชม |
แบรนด์นาฬิกาสวิสชั้นสูงผู้บุกเบิกอย่าง Hublot (อูโบลท์) ประกาศเปิดตัววิวัฒนาการล่าสุดของความร่วมมืออันต่อเนื่องกับศิลปินชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Hublot อย่าง Daniel Arsham (แดเนียล อาร์แชม) ผ่านผลงาน Hublot MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire (อูโบลท์ เอ็มพี-17 เมกา-10 อาร์แชม สแปลช ไทเทเนียม แซฟไฟร์)
ต่อยอดจากความสำเร็จของนาฬิกาพกที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรุ่น MP-16 Arsham Droplet (เอ็มพี-16 อาร์แชม ดร็อพเล็ต) สำหรับผลงานล่าสุดนี้ได้กลับมาสร้างนิยามใหม่ให้กับกฎเกณฑ์การออกแบบนาฬิกาอีกครั้ง โดยถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากพลังแห่งสายน้ำ รูปทรงตามธรรมชาติ และความโปร่งใส
MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง Art of Fusion อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hublot และวิสัยทัศน์ด้านโบราณคดีในเชิงจินตนาการของ Daniel Arsham ในการตีความวัตถุร่วมสมัยให้กลายเป็นเสมือนโบราณวัตถุ เสมือนการเชื่อมต่อระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
นี่คือนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ Daniel Arsham ออกแบบให้กับ Hublot ผลงานนาฬิกาข้อมือซึ่งเปรียบเสมือนประติมากรรมที่สวมใส่ได้ และถ่ายทอดวิสัยทัศน์อันสร้างสรรค์ของ Arsham ในทุกรายละเอียดของความโค้งที่ลื่นไหล ตัวเรือนขนาดพอเหมาะ 42 มม. บรรจุกลไก Meca-10 รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาโดย Hublot และปรับขนาดให้เล็กลง โดยสามารถชื่นชมความงามของกลไกได้ผ่านหน้าปัดแบบเปิดและฝาหลังกระจกคริสตัล แซฟไฟร์
การเลือกใช้คริสตัล แซฟไฟร์ สำหรับขอบหน้าปัดทรงกล่องแบบฟรอสต์ ร่วมด้วยไทเทเนียมและยางเป็นวัสดุหลัก สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของปรัชญา Art of Fusion จาก Hublot ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นรากฐานอันสมบูรณ์แบบในการสร้างสรรค์รูปทรงออร์-แกนิกของนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวของสายน้ำ จุดเด่นอยู่ที่ช่องเปิดบนหน้าปัดซึ่งออกแบบให้เป็นรูปทรงน้ำกระเซ็น ซึ่งเป็นวิวัฒนาการต่อเนื่องจากแรงบันดาลใจของหยดน้ำในรุ่น MP-16 ก่อนหน้า
มุมมองของ Arsham ที่มีต่อ “เวลา” ถือเป็นสิ่งสำคัญของแนวทางการออกแบบ โดยในรายการ TED Talk ปี 2016 เขาได้อธิบายไว้ว่า “ผลงานของผมคือการทำให้เส้นแบ่งของเวลาถูกทำลายลง คุณจึงไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าวัตถุชิ้นนี้มาจากอดีตหรืออนาคต” หากนาฬิการุ่น MP-16 Arsham Droplet ถ่ายทอดแนวคิดนี้ผ่านรูปทรงแล้ว นาฬิการุ่นใหม่ MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire กลับมุ่งเน้นการสะท้อนให้เห็นถึงร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้ผ่านกาลเวลา ด้วยเส้นสายของตัวเรือนที่ลื่นไหล ช่องเปิดบนหน้าปัดรูปน้ำกระเซ็น และองค์ประกอบต่างๆ ที่ทำจากแซฟไฟร์โปร่งใส ผลงานเรือนนี้จึงเป็นการหลอมรวมวิสัยทัศน์เชิงศิลป์ของ Arsham เข้ากับกลไก Meca-10 ของ Hublot ได้อย่างลงตัวทั้งในเชิงแนวคิดและสมรรถนะการทำงาน ภายใต้ดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้จริง
เพียงแรกเห็น นาฬิการุ่นนี้อาจดูเหมือนเป็นการก้าวออกจากรูปทรงอันคุ้นเคยของ Hublot แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จะพบว่าทุกองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นสกรูรูปตัว H 6 ตัวบนขอบตัวเรือนและฝาหลัง บ่าของตัวเรือนดีไซน์โดดเด่นที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา รวมถึงบานพับล็อกไทเทเนียมรูปทรงตัว H ส่วนสีเขียวที่เป็นเสมือนองค์ประกอบของ Arsham ได้ถูกนำมาเติมแต่งผ่านเข็มชั่วโมงและนาที ตัวเลขหลักชั่วโมง และเครื่องหมายแสดงชั่วโมงและทุกๆ 5 นาที เข็มวินาทีขนาดเล็กที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ตลอดจนถึงมาตรบอกพลังงานสำรองที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
Hublot MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลา แต่คือการผสานกันอย่างลงตัวระหว่างศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงกับศิลปะร่วมสมัย ถ่ายทอดการตีความใหม่ผ่านวัสดุและรูปทรงที่แตกต่างจากเดิม เป็นการเชื้อเชิญทั้งนักสะสมและผู้หลงใหลในศิลปะให้ได้มาสัมผัสกับเวลา ผ่านมุมมองอันลื่นไหลและเป็นเอกลักษณ์ของ Daniel Arsham
“การได้ทำงานร่วมกับ Daniel Arsham คือการเปิดประสบการณ์และมุมมองในการออกแบบที่แปลกใหม่” Julien Tornare (จูเลี่ยน ทอร์นาเร่) CEO ของ Hublot กล่าว “MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire คือบทถัดไปที่น่าตื่นเต้นของความร่วมมือกันระหว่างเราและ Daniel Arsham ในฐานะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงปรัชญา Art of Fusion ของ Hublot ที่ผสานศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงเข้ากับศิลปะร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ออกเป็นนาฬิกาที่มีรูปแบบโดดเด่น ทั้งยังก้าวข้ามขอบเขตของนวัตกรรม ผลงานนี้ได้เชิญชวนให้เรามองเวลาในมิติใหม่ ผ่านวิสัยทัศน์อันลื่นไหลที่เป็นเอกลักษณ์ของ Arsham”
Daniel Arsham กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือครั้งนี้กับ Hublot เป็นการสำรวจความลื่นไหลของเวลา ผ่านตัวเรือนที่ได้รับแรง-บันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของหยดน้ำ และขับเคลื่อนด้วยกลไก Meca-10 ของ Hublot โครงสร้างอันโปร่งใสของนาฬิกาเรือนนี้สะท้อนถึงความใสกระจ่างและการเคลื่อนไหวของสายน้ำ ล่องลอย แม่นยำ และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”
นาฬิกา Hublot MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ผลิตในจำนวนจำกัด 99 เรือน พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่บูติกของ Hublot และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
เกี่ยวกับ HUBLOT
ในปี 1980 นับเป็นครั้งแรกที่นาฬิกาแบรนด์หนึ่งได้กล้าประกอบตัวเรือนทองคำเข้ากับสายยาง ซึ่งได้มาพลิกโฉมวงการนาฬิกาชั้นสูง ด้วยดีไซน์อันโดดเด่นของขอบตัวเรือนทรงช่องหน้าต่างเรือที่มีสกรูปรากฏให้เห็นเด่นชัด จึงเป็นที่มาของชื่อ Hublot (อูโบลท์) พร้อมกับแนวคิดของศิลปะแห่งการผสมผสาน (Art of Fusion)
ในปี 2005 ทางแบรนด์ได้ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Big Bang (บิ๊ก แบง) มาพร้อมดีไซน์อันมีเอกลักษณ์ ขนาดของตัวเรือนที่เหมาะสม และตัวเรือนในแบบหลายชั้น โดยในปีเดียวกัน Hublot ได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) จากงาน Grand Prix d'Horlogerie de Genève ตั้งแต่นั้นมา ด้วยวิสัยทัศน์ที่มาปฏิวัติวงการ นาฬิกา Big Bang ไม่เคยหยุดการพัฒนาและต่อยอดผลงานอย่างต่อเนื่อง และนี่คือนาฬิกาไอคอนเรือนแรกแห่งศตวรรษที่ 21
แนวคิดของการผสมผสานแฝงอยู่ในทุกองค์ประกอบ และเป็นแกนหลักที่แฝงไว้ในทุกคอลเลกชั่น นาฬิกา Big Bang ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมนาฬิกาอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ Classic Fusion (คลาสสิก ฟิวชั่น) ได้ผสานความโดดเด่นและเรียบง่ายได้อย่างสมดุล ส่วน Exceptional Timepieces (เอ็กเซ็ปชั่นนอล ไทม์พีซเซส) ได้เขียนนิยามแห่งความคาดหวังขึ้นใหม่กับผลงานสร้างสรรค์ที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร และด้วยแนวทางที่ท้าทายขนบธรรมเนียม Hublot ได้ถ่ายทอด DNA ของแบรนด์ผ่านกลไก In-house อย่าง Unico (ยูนิโค่), Meca-10 (เมก้า-10) และ Tourbillon (ทูร์บิญอง) ที่มาเพิ่มอีกมิติให้กับศิลปะแห่งการผสมผสาน
ศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของ Hublot ไม่ใช่แค่ภายในโรงงาน La Manufacture เท่านั้น แต่ยังสะท้อนออกมาในทุกมิติของแบรนด์ ความมหัศจรรย์สามารถเกิดขึ้นได้บนสนามฟุตบอล นำไปสู่ความร่วมมือกับมหกรรมกีฬาระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น FIFA World Cup™ ในปี 2010, 2014, 2018, 2022, Premier League (พรีเมียร์ ลีก), UEFA Champions League (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) และ UEFA Euro™ (ยูฟ่า ยูโร) ในบางครั้งความพิเศษนั้นก็เกิดขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ต ในสนามบาสเกตบอล ท่ามกลางการแสดงงานศิลปะ หรือแม้แต่ในประสบการณ์ทางรสชาติหร่วมกับครอบครัวเชฟมิชลิน สตาร์ของ Hublot และนี่คือจุดเริ่มต้นของ Hublot Vibes ผ่านช่วงเวลาที่แบ่งปันกันในกลุ่ม Hublotistas (อูโบลท์ทิสต้า) คอมมูนิตี้ที่ภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของนาฬิกา Hublot ซึ่งศิลปะแห่งการผสมผสานนี้ได้ก้าวข้ามขอบเขตไปอีกขั้น ความเป็นอยู่ที่กลายเป็นวิถีชีวิต และนั่นคือ วิถีของ Hublot
ครบรอบ 20 ปีของนาฬิกา BIG BANG – การเฉลิมฉลองแนวคิดที่มาปฏิวัติวงการของ BIG BANG
ในปี 2005 นาฬิกา Big Bang ได้เริ่มต้นยุคใหม่ให้กับวงการนาฬิกาอย่างแท้จริง สะท้อนถึงความเชื่อมโยงกับชื่อของตัวเองอย่างลึกซึ้ง แทบไม่เคยมีผลงานไหนที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการนาฬิกาสมัยใหม่ได้เหมือนกับนาฬิกา Big Bang ผ่านมา 20 ปีหลังจากการเปิดตัว Big Bang ยังคงยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ในการผลิตนาฬิกาที่ไม่หยุดนิ่งและผลักดันขอบเขตสู่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผ่านวัสดุพิเศษและกลไกภายในต่างๆ ที่คิดค้นพัฒนาขึ้นเอง ไม่ว่าจะเป็น Unico หรือ Meca-10 นาฬิกา Big Bang จึงแตกต่างจากประเพณีดั้งเดิม – แนวคิดนอกกรอบที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยดีไซน์อันโดดเด่นและความหลากหลายรูปแบบในการใช้งาน นี่คือนาฬิกา Big Bang
เกี่ยวกับ Daniel Arsham
Daniel Arsham คือศิลปินที่อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก สร้างสรรค์งานครอบคลุมทั้งศิลปะวิจิตรศิลป์ สถาปัตยกรรม การแสดง และภาพยนตร์ ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Arsham เป็นการผสมผสาน อดีต ปัจจุบัน และอนาคต แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและพลังของความทรงจำในอดีต โดยมักอ้างอิงถึงช่วงเวลาต่างๆ ในปลายศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ Arsham ยังได้ทำการร่วมมือกับหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อนำศิลปะอันโดดเด่นของเขาไปแบ่งปันให้แก่ผู้คนทั่วโลก
10 ต.ค. 2568
10 ต.ค. 2568
10 ต.ค. 2568
10 ต.ค. 2568