Last updated: 15 ต.ค. 2568 | 304 จำนวนผู้เข้าชม |
MARCO BICEGO (มาร์โก้ บิเชโก้) แบรนด์ไฟน์จิวเวลรีที่สะท้อนหัตถศิลป์ชั้นสูงแห่งช่างทองโบราณอิตาลีผสานอัตลักษณ์แห่งธรรมชาติอันพลิ้วไหว ผู้จารึกตำนานบทใหม่แห่งวงการจิวเวลรี โดยในปี 2025 นี้แบรนด์ได้เดินทางมาถึงหมุดหมายสำคัญแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี บนเส้นทางที่ถักทอขึ้นจากมรดกช่างทองโบราณ แรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และนวัตกรรมอันเป็นเอกสิทธิ์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อเป็นเกียรติแก่การเดินทางอันรุ่งโรจน์นี้ จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบสุดเอ็กซ์คลูซีฟขึ้น พร้อมเปิดตัว Muse คนใหม่ ‘พอลล่า เทเลอร์’ นักแสดงมากความสามารถและมีสไตล์เฉพาะตัว ถ่ายทอดตัวตนของ MARCO BICEGO ได้อย่างงดงามและทรงพลัง ณ ร้านอาหาร Cento ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นและแขกผู้มีเกียรติ อาทิ วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์, มิ้นท์-ภัทรศยา ยงรัตนมงคล และ ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม ร่วมยลโฉมคอลเลกชัน ‘25 Best’ ที่รวบรวม 25 ชิ้นงานไอคอนิกตลอดกาล ดั่งบทกวีที่คัดสรรมาอย่างวิจิตรบรรจง แต่ละชิ้นงานคือตัวแทนแห่งจิตวิญญาณของแบรนด์ที่หลอมรวมความสง่างามเหนือกาลเวลาเข้ากับความหรูหราอันเป็นธรรมชาติได้อย่างไร้ที่ติ
งานครั้งนี้จัดขึ้นโดย Scintilla Gioielli ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอิตาเลียนไฟน์จิวเวลรีชั้นนำของไทยมากกว่า 20 แบรนด์ คัดสรรความงามอันมีรสนิยมผ่านสายตาอันเฉียบคมของ สรีนา ธีระวิทยภิญโญ ผู้บริหารที่เชื่อมั่นในพลังของงานฝีมือและเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเธอได้กล่าวถึงการคัดสรรแบรนด์มาสู่สายตาชาวไทยว่า “หัวใจสำคัญของ Scintilla Gioielli คือ การเป็นนักเล่าเรื่องผ่านจิวเวลรี เราไม่ได้เพียงนำเสนอเครื่องประดับ แต่กำลังแบ่งปันมรดกทางวัฒนธรรม ความหลงใหล และงานฝีมือชั้นครูจากอิตาลี MARCO BICEGO คือตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของปรัชญานี้ ทุกชิ้นงานมีชีวิต มีเรื่องราว และเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ที่สวมใส่ได้ในทุกวัน เราภูมิใจที่ได้เป็นสะพานให้ชาวไทยได้สัมผัสกับความงามที่แท้จริงและยั่งยืนเช่นนี้”
ฟรานเชสโก้ ฟูเซลโล ผู้จัดการฝ่ายขาย แบรนด์ MARCO BICEGO ได้กล่าวถึงจิตวิญญาณของแบรนด์ที่สืบทอดมาตลอด 25 ปี “MARCO BICEGO ก่อตั้งขึ้นบนรากฐานของครอบครัวช่างทองในเมืองทริสซิโน ใกล้กับวิเชนซา ซึ่งเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมจิวเวลรีอิตาลี แรงบันดาลใจของเรามาจากสิ่งรอบตัวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงออร์แกนิกของธรรมชาติ แสงสีจากดินแดนอันไกลโพ้น หรือแม้แต่ความไม่สมบูรณ์แบบทว่างดงาม เรายังคงใช้เทคนิคโบราณอย่างการแกะสลักด้วยมือที่เรียกว่า ‘Bulino’ เพื่อสร้างพื้นผิวแบบซาตินอันนุ่มนวล และเทคนิคการบิดเกลียวทอง ‘Coil Technique’ อันเป็นสิทธิบัตรของเรา คอลเลกชัน ‘25 Best’ จึงเปรียบเสมือนไดอารี่การเดินทางตลอด 25 ปี โดยรวบรวมบทที่ดีที่สุดเอาไว้ให้ทุกคนได้ชื่นชมและเป็นเจ้าของ”
คอลเลกชัน ‘25 Best’ จาก MARCO BICEGO คือบทสรุปแห่งความสำเร็จที่ร้อยเรียงผลงานชิ้นเอกซึ่งเป็นที่รักของผู้หญิงทั่วโลกไว้ด้วยกัน เปรียบดั่งการเดินทางผ่านจินตนาการสู่ดินแดนต่างๆ ที่ซึ่งธรรมชาติและความงามถือกำเนิดขึ้น แต่ละคอลเลกชันบอกเล่าเรื่องราวเปี่ยมเสน่ห์ผ่านหัตถศิลป์ชั้นสูง ผ่านผลงานระดับเบสต์เซลเลอร์ทั้งหมด 25 ไอเทมที่คัดสรรจากคอลเลกชันดังทั้ง 8 ตั้งแต่ Marrakech, Masai, Jaipur, Jaipur Colour, Paradise, Lunaria, Africa และ Siviglia
Marrakech จิตวิญญาณแรกเริ่มและเป็นคอลเลกชันแจ้งเกิดอันยิ่งใหญ่ของแบรนด์ แรงบันดาลใจจากเนินทรายแห่งทะเลทรายซาฮาราถูกนำมาตีความผ่านเทคนิคการบิดเกลียวทองคำอันเป็นเอกสิทธิ์ ก่อเกิดเป็นเส้นสายที่เย้ายวนและพลิ้วไหวสะท้อนแสงอย่างงดงาม ทั้ง กำไลทองคำ (Yellow gold bangle) และ สร้อยคอยาว (Long necklace) ที่มอบความรู้สึกหรูหราทว่าร่วมสมัย ไปจนถึง ต่างหูห่วงทองคำบิดเกลียวขนาดกลาง (18K yellow gold twisted irregular hoop earrings, medium) ที่สวมใส่ง่ายในทุกวัน พร้อมเพิ่มความเลอค่าด้วยประกายเพชรใน สร้อยคอทองคำ 3 เกลียวพร้อมบาร์เพชร (18K yellow gold three-strand coil necklace with diamond bar) และ แหวนทองคำ 5 เกลียวประดับเพชร (18K yellow gold five-strand coil ring with diamonds) อันเป็นที่สุดแห่งความสมบูรณ์แบบ
Masai บทบันทึกการเดินทางที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องประดับของชนเผ่ามาไซในทวีปแอฟริกา สู่การนำเส้นทองคำ 18 กะรัต มาเรียงขนานกันอย่างประณีตราวกับเส้นใยผ้า สลับกับประกายเพชรบริลเลียนต์คัตที่จัดวางอย่างลงตัว เกิดเป็นดีไซน์ร่วมสมัย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความอ่อนโยนในคราเดียวกัน ตั้งแต่ ต่างหูทองคำประดับเพชร (18K yellow gold coil and diamond huggie earrings) ที่เรียบง่าย ไปจนถึง สร้อยข้อมือทองคำประดับเพชรแบบพาเว่ (Double strand diamond pavé bracelet) และ กำไลทองคำประดับเพชรแบบพาเว่ (18K yellow gold coil and diamond pavé thin bangle bracelet) และ แหวนทองคำดีไซน์แบบห่วงประดับเพชรแบบพาเว่ (18K yellow gold 4-strand coil ring with diamond 2 pavé bands) ที่มอบความหรูหราในทุกการเคลื่อนไหว และสมบูรณ์แบบที่สุดด้วย สร้อยคอเทนนิสทองคำประดับเพชรแบบหลายสาย (Multi-strand diamond tennis necklace) ที่เปล่งประกายเจิดจรัส
Jaipur ความงดงามอันเจิดจรัสของผลงานจิวเวลรีอันโดดเด่นที่รังสรรค์ขึ้นด้วยทองคำ ผสานความประณีตแบบอิตาเลียนเข้ากับแรงบันดาลใจจากเมืองหลวงแห่งจิวเวลรีของอินเดียผ่านรูปแบบอันวิจิตร สะท้อนความสง่างามเหนือระดับและเสน่ห์ล้ำลึกที่ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งมรดกราชวงศ์ราชสถานได้อย่างน่าหลงใหล ผ่านความงามของทองคำล้วนในสร้อยข้อมือห่วงโซ่ทองคำ (Yellow gold link bracelet) และ ต่างหูห่วงโซ่ทองคำ (Gold stud earrings with links) สะท้อนถึงงานฝีมืออันไร้ที่ติ
Jaipur Colour บทสดุดีถึง ‘เมืองสีชมพู’ แห่งราชสถาน ประเทศอินเดีย แหล่งเจียระไนอัญมณีเลื่องชื่อของโลก คอลเลกชันนี้โดดเด่นด้วยการนำเสนออัญมณีหลากสีสันที่ผ่านการเจียระไนเหลี่ยมมุมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โอบล้อมด้วยตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต รูปทรงอสมมาตร ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โดยมีชิ้นงานเด่นคือ สร้อยคอทองคำพร้อมอัญมณีหลากสี (Large gold necklace with multicoloured gemstones) เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และ ต่างหูทองคำประดับสกายโทแพซ (18K yellow gold stud earrings with sky topaz, small) งดงามเหนือกาลเวลา
Paradise บทเพลงแห่งความสุขที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันและบรรยากาศอันสดใสของชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถ่ายทอดผ่านการร้อยเรียงอัญมณีล้ำค่านานาชนิด ก่อเกิดเป็นมิติและสีสันที่ชวนให้นึกถึงวันหยุดพักผ่อนแสนวิเศษ โดยมี สร้อยคอยาวประดับอัญมณีหลากสี (Sautoir with multicolored gems) เป็นชิ้นไอคอนิกที่ทุกคนจดจำได้ พร้อมด้วย ต่างหูทองคำแบบหลายสายประดับอัญมณีหลากสี (Multi-strand gold earrings) และ สร้อยข้อมือโซ่ทองคำสองสายประดับโทแพซ (18K yellow gold mixed topaz double-strand bracelet) เติมเต็มความสดใสให้กับทุกลุค
Lunaria ความงดงามอันบอบบางที่ได้แรงบันดาลใจจากใบไม้ของต้นลูนาเรีย ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านแผ่นทอง 18 กะรัต ที่ถูกขึ้นรูปและแกะลายด้วยมืออย่างพิถีพิถันจนเกิดเป็นพื้นผิวซาตินเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เกิดการสะท้อนแสงที่นุ่มนวลและดูเป็นธรรมชาติ ความบางเบาและสง่างามนี้ปรากฏใน สร้อยคอโซ่ทองคำ (Gold light chain necklace) ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรายละเอียด และ กำไลข้อมือแบบคัฟขนาดกลาง (Cuff bracelet medium) โอบล้อมข้อมืออย่างนุ่มนวล พร้อมด้วย ต่างหูทองคำแบบแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ (Gold chandelier earrings, large) ดีไซน์ออร์แกนิกฟอร์ม, ต่างหูทองคำประดับเพชร (Diamond-studded earrings, medium) และ แหวนทองคำขนาดใหญ่ประดับเพชร (Diamond band ring, large) หรูหราอย่างน่าทึ่ง
Africa คอลเลกชันที่ปลุกมนต์ขลังของค่ำคืนที่เปี่ยมด้วยดวงดาวและเนินทรายให้กลับมีชีวิตชีวา ผ่านองค์ประกอบทรงกลมดูเต็มด้วยปริมาตรแต่กลับมีน้ำหนักเบาอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ละชิ้นถูกแกะสลักด้วยมือเพื่อสร้างพื้นผิวซาตินละเอียดอ่อน เกิดเป็นความงามบริสุทธิ์ใน ต่างหูทองคำทรงกลมออร์แกนิคขนาดใหญ่ (Gold stud earrings, large) และความหรูหราซับซ้อนใน สร้อยคอโซ่ทองคำพร้อมห่วงเกี่ยวประดับเพชร (18K yellow gold and diamond lariat necklace) ที่ทิ้งตัวอย่างงดงาม
Siviglia เรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นหินกรวดของเมืองเซบียาในแคว้นอันดาลูเซีย ประเทศสเปนสู่การร้อยเรียงข้อต่อทองคำ 18 กะรัต รูปทรงไม่สมมาตรที่แกะสลักด้วยมือทีละชิ้น ทำให้เกิดการตกกระทบของแสงที่แตกต่างกันในทุกมุมมอง เกิดเป็นประกายระยิบระยับอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมี สร้อยคอโซ่ทองคำยาวตกแต่งแผ่นทองคำทรงรี (Long necklace with yellow gold oval elements) เป็นตัวแทนของคอลเลกชันที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงความงามที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดอันสลับซับซ้อน
ร่วมเฉลิมฉลอง 25 ปีแห่งความงามอันเป็นตำนานและสัมผัสเรื่องราวแห่งหัตถศิลป์อิตาเลียนผ่านคอลเลกชัน 25 Best และผลงานยอดนิยมอื่นๆ จาก MARCO BICEGO ได้ที่ Scintilla Gioielli Boutique ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป หรือช็อปออนไลน์ได้ที่ www.scintillagioielli.com พร้อมอัปเดตเทรนด์จิวเวลรีล่าสุดได้ทางอินสตาแกรม @scintilla_gioielli และ Line OA @scintillabkk
#Scintillaclub #MarcoBicego #ItalianJewelry
15 ต.ค. 2568
10 ต.ค. 2568
15 ต.ค. 2568
15 ต.ค. 2568