Last updated: 17 ต.ค. 2568 | 263 จำนวนผู้เข้าชม |
ตัวเลือกในรุ่นย่อยที่หลากหลาย มาพร้อมหน้าปัดเฉดสีใหม่ในโทนฤดูใบไม้ร่วงที่งดงาม รายละเอียดด้านสุนทรียะที่ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียด พร้อมกลไกการทำงานที่ได้รับการขัดแต่งด้วยมืออย่างประณีต คอลเลคชั่น Villeret (วิลเลอเรต์) ได้ตอกย้ำมรดกอันทรงคุณค่าสองประการของแบรนด์ นั่นคือ ความเป็นเลิศทางกลไก และความบริสุทธิ์ของงานดีไซน์ ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ Blancpain (บลองแปง) อย่างแท้จริง
ไฮไลต์สำคัญ
· วันนี้ เรือนเวลาระดับไอคอนทั้งสามรุ่นถูกนำเสนอใน 16 references ใหม่ ในสองขนาดตัวเรือน (40 มม. และ 33.20 มม.) ในวัสดุเรดโกลด์ 18K หรือสเตนเลสสตีล:
· รุ่นอัตโนมัติแบบสามเข็มพร้อมวันที่ (40 มม.)
· รุ่น complete calendar (ปฏิทินแบบสมบูรณ์) พร้อมฟังก์ชั่นการแสดงข้างขึ้นข้างแรม หรือ moon phase (40 มม.)
· รุ่นปฏิทินพร้อมฟังก์ชั่น moon phase (33.2 มม.)
· หน้าปัด: เปิดตัวหน้าปัดสองเฉดสีใหม่ ได้แก่ สี opaline (โอพาลีน) แบบ grained และสีน้ำตาลทอง
· หลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกา: ตัวเลขบอกเวลาอักษรโรมันในวัสดุทองคำ 18K พื้นผิวขัดลายซาติน พร้อมขอบขัดเงา เข็มบอกเวลาทรงเรียวแต้มด้วยสารเรืองแสง
· moon phase ที่มีชีวิตชีวา: แผ่นเซรามิกประดับด้วยพระจันทร์ซึ่งทำจากทองคำ 18K ขัดลายซาตินทรงโดม ใบหน้าของพระจันทร์ที่มีลักษณะเฉพาะ ถูกจัดวางในช่องเปิดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มมิติและความโดดเด่น
· โรเตอร์รุ่นใหม่: ดีไซน์แบบโปร่งในวัสดุทองคำขัดลายซาตินพร้อมขอบขัดเงา เผยให้เห็นความงดงามของกลไกภายใน และสะท้อนถึงความประณีตแห่งงานตกแต่งชั้นสูง
· ความเป็นเลิศทางกลไก: ขับเคลื่อนด้วยกลไกการทำงานแบบอัตโนมัติที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานตามขนบของ Haute Horlogerie (Côtes de Genève, beveling) มาพร้อมโรเตอร์ทองคำแบบโปร่งขัดลายซาตินและขัดเงาบริเวณขอบนอก ในรุ่น complete calendar มีการติดตั้ง under-lug correctors หรือคันโยกขนาดเล็กใต้ขาตัวเรือนที่ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถตั้งค่าปฏิทินได้ทุกเวลาตามต้องการ โดยเป็นระบบที่ Blancpain ได้จดสิทธิบัตรเฉพาะไว้ และในตอนนี้ทุกกลไกมีการรับประกันเป็นระยะเวลา 5 ปี
· ตัวเรือน (Ref. 6654N): ได้รับการปรับโฉมอย่างละเมียดละไม ทั้งสัดส่วนที่สมดุลยิ่งขึ้น ขอบตัวเรือนที่บางลง ตัวเรือนที่มีน้ำหนักเบาและบางกว่าเดิม เม็ดมะยมขนาดใหญ่ขึ้น และขานาฬิกาที่ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อเพิ่มความสง่างาม ความสบาย และความกระชับเมื่อสวมใส่
· สายนาฬิกา: มาพร้อมระบบเปลี่ยนสายที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วด้วยตนเอง ใน 4 เฉดสีใหม่ (สีน้ำตาล สีน้ำเงินอมเทา สีน้ำผึ้ง และสีเบจนูบักกำมะหยี่) พร้อมพื้นผิวแบบ barolo นุ่มมือที่จะค่อย ๆ พัฒนาเป็น patina ตามกาลเวลา
เรือนเวลาสามรุ่น รวมทั้งหมด 16 references
คอลเลคชั่นปี 2025 นำเสนอเรือนเวลาในสามรุ่น ที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์และเทคนิคได้อย่างสมบูรณ์แบบ:
· รุ่นอัตโนมัติแบบสามเข็มพร้อมวันที่ (ขนาด 40 มม.) มีให้เลือกสองเฉดสีหน้าปัดและวัสดุ 4 references
· รุ่น complete calendar พร้อมฟังก์ชั่น moon phase (ขนาด 40 มม.) มีให้เลือกสองเฉดสีหน้าปัดและวัสดุ 4 references
· รุ่นปฏิทินพร้อมฟังก์ชั่น moon phase (ขนาด 33.20 มม.) มีให้เลือกสองเฉดสีหน้าปัดและวัสดุ รวมถึงอีก 4 รูปแบบที่มีการประดับขอบตัวเรือนด้วยเพชร รวม 8 references
รวมแล้วมีทั้งหมด 16 references ในวัสดุสเตนเลสสตีล หรือ เรดโกลด์ 18K
จุดกำเนิด
คอลเลคชั่น Villeret ของ Blancpain เริ่มต้นขึ้นเมื่อใด คำตอบนั้นไม่ง่ายนัก แม้ชื่อ “Villeret” จะถูกนำมาใช้เรียกไลน์นาฬิกาคลาสสิกที่สุดของเมซงอย่างเป็นทางการในปี 2003 แต่จิตวิญญาณ สไตล์ และดีเอ็นเอของคอลเลคชั่นนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นก่อนหน้านั้นกว่าสองทศวรรษ
Blancpain ได้เปิดตัวผลงานสร้างสรรค์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคในปี 1983 ซึ่งคือ นาฬิกา complete calendar ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น moon phase ขนาดเล็กที่สุดในขณะนั้น (Calibre 6395, เส้นผ่านศูนย์กลาง 21 มม.) ด้วยดีไซน์ขอบตัวเรือนแบบสองชั้น และรูปลักษณ์ที่เรียบหรูอย่างมีระดับ เรือนเวลานี้ได้แสดงออกถึงงานออกแบบที่ยังคงเป็นหัวใจของ Villeret มาจนถึงทุกวันนี้
แต่มากกว่าการเป็นเพียงนาฬิการุ่นหนึ่ง มันคือสัญลักษณ์แห่งวิสัยทัศน์ — เรือนเวลาที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในวงการนาฬิกากลไกสวิสในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญความสั่นคลอนจากกระแสนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ที่ถาโถมเข้ามา Blancpain ได้พิสูจน์ว่า นาฬิกากลไกนั้นโดดเด่นด้วยความซับซ้อนของงานฝีมือ ที่ผสานศิลปะ ความงาม ประเพณี และนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นาฬิกา moon phase ที่กำเนิดขึ้นในปี 1983 จึงเป็นตัวแทนแห่งความแตกต่างนี้ และเปิดทางสู่การฟื้นคืนชีพของศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาอย่างแท้จริง ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจและความชำนาญเชิงศิลป์อย่างลึกซึ้ง
“เรือนเวลานี้เป็นมากกว่าการแสดงความเคารพต่อประเพณีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา” Marc A. Hayek ประธานและซีอีโอของ Blancpain กล่าว “แต่มันยังเปิดมุมมองใหม่ ๆ และจุดประกายความสนใจในศิลปะแห่งนาฬิกากลไกขึ้นอีกครั้ง”
ฟังก์ชั่น moon phase เอกลักษณ์ของ Blancpain
ด้วยความหลากหลายและเข้มข้นของรายละเอียด ฟังก์ชั่น moon phase ของ Blancpain จึงมีบทบาทพิเศษในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา ความซับซ้อนที่ผสานทั้งความโรแมนติกและเทคนิคเชิงช่างนี้ มีส่วนสำคัญต่อการฟื้นคืนชีพของเมซง และในภาพรวมยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดยุคฟื้นฟูของวงการนาฬิกาสวิสอีกด้วย ปัจจุบันฟังก์ชั่น moon phase ได้กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ Blancpain
ตามธรรมเนียมดั้งเดิม พระจันทร์จะถูกถ่ายทอดพร้อมใบหน้าเสมอ ไม่ใช่เพียงเพื่อความงามเชิงศิลป์ แต่ยังสะท้อนถึงสัญลักษณ์ วรรณกรรม และความเชื่อพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ ซึ่งมักมองว่าดวงจันทร์คือการจำลองความเป็นมนุษย์ และเป็นสหายที่ร่วมเดินทางไปกับกาลเวลา ด้วยการตีความมรดกนี้ขึ้นใหม่ ช่างนาฬิกาชั้นครูของ Blancpain ได้หล่อหลอมมิติแห่งความโรแมนติกลงในผลงานของพวกเขา โดยผสานความเที่ยงตรงของกลไกเข้ากับจินตนาการเหนือธรรมชาติได้อย่างงดงาม
ความต่อเนื่อง
จากความเรียบง่ายของนาฬิกาแบบสามเข็ม ไปจนถึงความซับซ้อนของ minute repeater, tourbillon, carrousel, perpetual calendar, traditional Chinese calendar และ equation of time — คอลเลคชั่น Villeret ได้รวบรวมและถ่ายทอดความซับซ้อนแห่งนาฬิกากลไกชั้นสูงไว้อย่างครบถ้วน เมื่อเวลาผ่านไป คอลเลคชั่นนี้ได้เติมเต็มผ่านผลงานที่เฉลิมฉลองศาสตร์และศิลป์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาอันทรงคุณค่าอย่างมีชั้นเชิง
ด้วยความบริสุทธิ์ควบคู่ไปกับความสง่างาม Villeret ยังคงเปล่งประกายเหนือกาลเวลา และสะท้อนถึงคุณค่าดั้งเดิมแห่งนาฬิกาสวิสได้อย่างลึกซึ้ง ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา Blancpain มุ่งมั่นที่จะตีความเส้นสายของคอลเลคชั่นนี้ใหม่อย่างละเมียดละไม คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Villeret ขณะเดียวกันก็ผสมผสานกลิ่นอายแห่งความร่วมสมัยเข้าไปได้อย่างสมดุล และสัญลักษณ์แห่งความเป็นนิรันดร์นี้ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงทุกวันนี้
นิยามบทใหม่
ในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ คอลเลคชั่น Villeret ได้สร้างสรรค์ตัวเองขึ้นใหม่ผ่านรายละเอียดที่ละเมียดละไม ตั้งแต่หน้าปัดซันเบิร์สสีน้ำตาลทอง ไปจนถึง หน้าปัด opaline ที่เติมแต่งด้วยแอคเซนต์สีทอง สายนาฬิกาในเฉดสีเบจหรือน้ำเงินอมเทาที่สามารถเปลี่ยนได้ตามโอกาสและความต้องการ: วิวัฒนาการถูกถ่ายทอดทั้งในด้านสีสันและวัสดุ
ควบคู่ไปกับรายละเอียดเหล่านี้ ยังมีการปรับปรุงเชิงลึกอีกหลายประการ:
· เข็มนาฬิกาดีไซน์ใหม่: มาพร้อมแถบเคลือบสารเรืองแสง เพิ่มความร่วมสมัยและความสามารถในการอ่านค่าเวลาในที่มืดให้ดียิ่งขึ้น
· หลักชั่วโมงตัวเลขโรมันในวัสดุทองคำ 18K มีการขัดลายซาตินที่ผิวด้านบนและขัดเงาที่ขอบด้านข้าง ตัวเลข “12” แบบดั้งเดิมถูกแทนที่ด้วยสัญลักษณ์ “JB” ให้ภาพรวมที่คมชัดและมีมิติยิ่งขึ้น
· ตำแหน่งเวลา 3 นาฬิกา: ช่องวันที่ได้รับการขยายให้ใหญ่ขึ้นและมีสัดส่วนที่กลมกลืนลงตัวมากกว่าเดิม
· โรเตอร์แบบโปร่ง: ผลิตจากวัสดุเรดโกลด์หรือเยลโลว์โกลด์ ขอบที่ลบมุมและการตกแต่งอย่างประณีตเผยให้เห็นหัวใจของกลไกภายใน
· ความสบายในการสวมใส่ที่เหนือระดับ: ระบบสายนาฬิกาและตัวล็อกบานพับที่ถอดเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เสริมด้วยการตัดเย็บแบบ “saddle-cut” ที่อ่อนช้อยเป็นพิเศษและเย็บด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ผสมผสานความสบายเข้ากับที่สุดแห่งงานฝีมือได้อย่างลงตัว
สำหรับนาฬิกาทุกเรือนที่มาพร้อมระบบปฏิทินและฟังก์ชั่น moon phase:
· moon phase ที่มีชีวิตชีวา: หน้าต่างแสดงผลขนาดใหญ่ขึ้น แผ่นดิสก์เซรามิกประดับด้วยรูปพระจันทร์ทองคำทรงโดมพร้อมการขัดลายซาติน – เผยใบหน้าที่ดูราวกับมีชีวิต
· ความปลอดภัยของกลไก: ผู้สวมใส่สามารถปรับตั้งค่าปฏิทินได้ทุกเมื่อโดยไม่ทำให้กลไกภายในเสียหาย รุ่นตัวเรือนขนาด 33.20 มม. มาพร้อมปุ่มจิ้มปรับแบบดั้งเดิมบริเวณด้านข้างของตัวเรือน ส่วนรุ่นขนาด 40 มม. ติดตั้งระบบปุ่มปรับใต้ขาตัวเรือน ซึ่งจดสิทธิบัตรในปี 2005 โดยสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงนิ้วสัมผัส
สำหรับนาฬิกา complete calendar พร้อมฟังก์ชั่น moon phase ขนาด 40 มม.:
· ตัวเรือนออกแบบใหม่: ขอบตัวเรือนบางลง เม็ดมะยมขนาดใหญ่ขึ้น ตัวเรือนที่เพรียวบางลง และขาตัวเรือนที่ปรับดีไซน์ใหม่ — ให้ตัวเรือนเบาบางสง่างามโดยไม่สูญเสียความโดดเด่น
ตลอดเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา Villeret เป็นดั่งภาพสะท้อนแห่งจิตวิญญาณของหมู่บ้านที่เป็นชื่อของคอลเลคชั่น มันคือการสืบทอดวิสัยทัศน์ของช่างฝีมือและช่างทำนาฬิกาหลายรุ่นผู้ที่ทำให้ Blancpain กลายเป็นหนึ่งในมาตรฐานแห่งโลกนาฬิกาชั้นสูง (Haute Horlogerie) ปัจจุบัน Villeret ถ่ายทอดอุดมคติแห่งความบริสุทธิ์ ความสง่างาม และความหมายได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าเดิม ด้วยพลังจากกลไกอินเฮาส์รุ่นใหม่ล่าสุด และการตกแต่งที่คงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมของงานนาฬิกาชั้นสูงอย่างแท้จริง
“Villeret คือคอลเลคชั่นที่สะท้อนถึงแก่นที่แท้จริงของ Blancpain” Marc A. Hayek กล่าวสรุป “ดังนั้น ทุกการพัฒนาและปรับโฉมของคอลเลคชั่นนี้จึงต้องอาศัยความใส่ใจในทุกรายละเอียด มันเป็นทั้งการแสดงออกถึงขนบธรรมเนียมแห่งงานนาฬิกาของเรา และเป็นหลักฐานว่าความสง่างามเหนือกาลเวลาสามารถถูกตีความใหม่ได้เสมอด้วยความละเมียดละไม ไม่ว่าในโอกาสใด ผู้สวมใส่นาฬิกา Villeret ก็จะดูดีเสมอ ไม่มีคำว่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไป”
17 ต.ค. 2568
16 ต.ค. 2568
16 ต.ค. 2568
17 ต.ค. 2568