TAKUMI KISHINO

Last updated: 21 ต.ค. 2568  |  35 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TAKUMI KISHINO

เพื่อให้เป็น “เครื่องมือชิ้นสุดท้ายที่คุณสามารถไว้วางใจได้” และการเป็น “เครื่องรางสำหรับนักผจญภัยผู้รักความท้าทาย” Seiko ได้สร้างสรรค์ Seiko Prospex นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของตนเองและเป็นนาฬิกาดำน้ำสัญชาติญี่ปุ่นเรือนแรกขึ้นเมื่อปี 1965 ตลอดระยะเวลากว่า 6 ทศวรรษ นาฬิกาดำน้ำดังกล่าวได้รับการพัฒนาและมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เสมือนเป็นคลื่นลูกใหม่ที่พัดเข้าสู่ฝั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีนาฬิกาดำน้ำ Seiko Prospex คุณ Takumi Kishino, Senior Manager, Design Director Product Design Department แห่ง Seiko ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษ 3 เรือนสำหรับการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญ ได้สละเวลาแนะนำเรื่องราวเชิงลึกและแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์นาฬิกาพิเศษทุกเรือนด้วยตนเอง

เมื่อเราถามถึงวิวัฒนาการการผลิตนาฬิกาดำน้ำของ Seiko ที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คุณ Kishino กล่าวด้วยอารมณ์ขันว่า “อาจจะยาวสักนิดหนึ่งพอไหวไหมครับ” ก่อนที่จะอธิบายต่อว่า “ผลิตภัณฑ์นาฬิกา Seiko Prospex มีจุดมุ่งหมายการออกแบบเพื่อให้มีฟังก์ชันสำหรับการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการเล่นกีฬาอย่างมืออาชีพและกิจกรรมสมบุกสมบันต่างๆ หลังจากที่เปิดตัวในปี 1965 เราก็ได้พัฒนาเพื่อให้มีนาฬิกาที่มีความพิเศษเฉพาะทางมาตลอด สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของนาฬิกาดำน้ำที่ต้องรับมือกับสภาวะทรหดต่างๆได้ดี ก็ได้รับการพัฒนาจนเกือบสมบูรณ์แล้วในช่วงปี 1970 เช่นรุ่นปี 1975 ที่รองรับความลึกได้ถึง 600 เมตร นอกจากนี้ก็มีความทนทานต่อการผุกร่อนและรอยขีดข่วน และในช่วงเวลาใกล้ๆ กันนี้ Seiko ก็เป็นผู้ที่พัฒนานาฬิกาควอตซ์เป็นเจ้าแรกของโลกทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นมาตรฐานสากล อีกทั้งยังทำให้มีการสร้างสรรค์นาฬิกาดำน้ำที่มีลักษณะตัวเรือนบางและทำงานด้วยกลไกควอตซ์มากขึ้น Seiko ยังพัฒนานาฬิกาดำน้ำเพื่อรองรับกับกระแสความนิยมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทำให้มีนาฬิกาที่รองรับทั้งการดำน้ำระดับมืออาชีพไปจนถึงการดำน้ำเพื่อความสนุก เช่น Seiko Monster ที่มีความกล้าบ้าบิ่นและใช้งานง่าย ทั้งนี้จากผลกระทบจากอุปกรณ์ dive computer ทำให้ปัจจุบันฟังก์ชันจากนาฬิกาดำน้ำได้ลดความสำคัญลง นาฬิกาดำน้ำจึงได้เปลี่ยนจากเครื่องมือมาเป็นสิ่งที่สะท้อนสไตล์หรือบุคลิกของผู้คนแทน โดยเน้นไปที่ไลน์อัพของ Heritage Design ที่เริ่มวางจำหน่ายในปี 2020 โดยเป็นการนำเสนอแนวคิดการย้อนสู่ต้นกำเนิดเพื่อพัฒนาให้เป็นนาฬิกาดำน้ำอย่างที่ควรจะเป็นและสร้างคุณค่าใหม่ๆ ขึ้น โดยเน้นทั้งในเรื่องของฟังก์ชันที่มีประสิทธิภาพและการสร้างความรู้สึกผูกพันกับผู้สวมใส่เหมือนคู่หูที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา” 


สำหรับนาฬิการุ่นพิเศษที่ได้เปิดตัวสำหรับโอกาสครบรอบ 60 ปีของ Seiko Prospex คุณ Kishino ได้เล่าถึงเรื่องราวของแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์คอลเลกชันพิเศษอันมีรายละเอียดที่น่าสนใจแฝงอยู่มากมาย “นาฬิการุ่นพิเศษ 2 รุ่นแรก ได้แก่ Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s 60th Anniversary Limited Edition และ Seiko Prospex 1968 Heritage Diver’s GMT 60th Anniversary Limited Edition มาในธีม “The Great Wave” โดยได้มีการนำเอา “Wave Mark” สัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ที่ฝาหลังนาฬิกา Prospex มาเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ ซึ่งสัญลักษณ์ดังกล่าวนั้นคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1962 เพื่อนำมาใช้ในนาฬิการะดับลักชัวรี่ที่มีความสามารถในการกันน้ำได้สูง โดยได้มีการนำเอาสัญลักษณ์ Wave Mark มาใช้กับนาฬิกาดำน้ำเป็นครั้งแรกในนาฬิการุ่นปี 1975 แต่ทีมงานยึดเอา Wave Mark ดั้งเดิมเป็นพื้นฐานในการออกแบบนาฬิการุ่นพิเศษ อีกทั้งเมื่อพูดถึงคลื่น ทำให้เรานึกถึงความต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จุดนี้ก็เป็นอีกแนวคิดที่เป็นแรงบันดาลใจการออกแบบด้วย”

“ที่มาของ wave mark ว่ากันว่ามาจากงานศิลปะที่มีชื่อว่า The Great Wave of Kanakawa ของศิลปินญี่ปุ่นนามว่า Katsushika Hokusai ทั้งนี้เนื่องด้วยภาพศิลปะดังกล่าวเป็นภาพพิมพ์ 2 มิติซึ่งมีข้อจำกัดในการสร้างมิติความลึกและความต่อเนื่อง จึงได้มีการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมและได้พบกับงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งของศิลปินนักแกะสลักไม้ชื่อว่า Ihachi ผู้แกะสลักช่องลมไม้ฉะลุที่มีมิติอันสวยงาม ทั้งสองงานศิลปะจึงเป็นต้นแบบแรงบันดาลใจของคลื่นในแบบฉบับญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี”


นาฬิกาสองรุ่นแรกนี้มีความแตกต่างกันที่เทคนิคการตกแต่งพื้นหน้าปัดที่มีความสวยงามลึกซึ้งในแนวทางของตนเอง “สำหรับนาฬิกา Prospex 1965 Heritage Diver’s 60th Anniversary Limited Edition จะมีหน้าปัดที่ผลิตด้วยเทคนิคการชุมผิวด้วยเงินเพียงอย่างเดียว เพื่อแสดงออกถึงคลื่นที่พัดกระหน่ำที่สะท้อนจากการตกกระทบของแสงและเงาบนพื้นผิวหน้าปัด ขณะที่รุ่น Prospex 1968 Heritage Diver’s GMT 60th Anniversary Limited Edition มีหน้าปัดลายคลื่นในเฉดสีน้ำเงิน ซึ่งเมื่อมองในมุมมองที่แตกต่างก็จะได้เฉดสีน้ำเงินที่มีความอ่อนเข้มแตกต่างกันไป เป็นการสะท้อนความรู้สึกถึงความลึกของคลื่นและสีสันที่มีความสวยงามแตกต่างกัน”


ส่วนนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นให้เป็นเรือนเวลาระดับพรีเมียมสำหรับมืออาชีพและนักสะสมโดยเฉพาะอย่าง Seiko Prospex Marinemaster Professional Diver’s 60th Anniversary Limited Edition “Marinemaster เป็นเสมือนตัวแทนของการเป็นนาฬิกาดำน้ำอันสมบูรณ์แบบของ Seiko และสำหรับในรุ่นพิเศษนี้มีสิ่งที่โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็นเลยคือชิ้นส่วนที่เป็นสีดำบริเวณหูสายทั้งด้านบนและล่าง ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อยึดตัวเรือน ขอบตัวเรือน และสายนาฬิกาให้แน่นหนา และเพิ่มความทนทานต่อแรงกัดดันได้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญสำหรับรุ่นนี้คือหน้าปัดที่ทีมงานตั้งใจออกแบบให้มีความรู้สึกถึงทะเลลึก เมื่อมองดูจะเห็นเป็นเงาของคลื่นที่อยู่ใต้ตัวอักษรบนหน้าปัด โดยเกิดขึ้นจากเทคนิค clear layer ที่เคลือบไว้ด้านบนพื้นหน้าปัดอีกทีทำให้ดูราวกับมีน้ำอยู่ในหน้าปัด โดยเกิดจากการตกกระทบของแสง 2 ชั้นด้วยกันคือชั้นของ clear layer และชั้นของลายคลื่นน้ำจึงเกิดมิติที่มีความซับซ้อนแต่ทว่าสวยงาม”

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

JULIEN TORNARE

21 ต.ค. 2568

NICHOLAS BIEBUYCK

21 ต.ค. 2568

MR. NICOLAS BEAU

21 ต.ค. 2568

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้