Last updated: 21 ต.ค. 2568 | 48 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับการบินที่เวลาและแสงคือสิ่งสำคัญที่สุด ความแม่นยำคือหัวใจของการรอดชีวิตและความสำเร็จของภารกิจ Bell & Ross แบรนด์นาฬิกาที่สืบทอดจิตวิญญาณแห่ง “เครื่องมือบนข้อมือ” ได้เปิดบทใหม่แห่งความล้ำสมัยด้วย BR-X3 Night Vision นาฬิการุ่นที่สองในตระกูล BR-X3 ซึ่งยกระดับจากรุ่น BR-03 อันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของดีไซน์และเทคโนโลยี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เครื่องมือสำหรับภารกิจกลางคืน” BR-X3 Night Vision ได้แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยี Head-Up Display (HUD) ระบบฉายภาพบนกระจกหน้าของเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ที่ช่วยให้นักบินสามารถมองเห็นข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากท้องฟ้า Bell & Ross นำหลักการนี้มาใช้ในโลกของนาฬิกา ด้วยการออกแบบที่เน้น “การมองเห็นในความมืด” อย่างมีประสิทธิภาพและความงาม
ดีไซน์ล้ำยุคที่เปล่งประกายในความมืด
BR-X3 Night Vision คือนาฬิกาที่ผสมผสานความล้ำสมัยและความแข็งแกร่งอย่างสมบูรณ์ ตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตรถูกออกแบบด้วยโครงสร้างแบบ multi-component sandwich ซึ่งใช้วัสดุหลากชนิดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและน้ำหนักเบา แผ่นเพลตสองชั้นของตัวเรือนทำจากวัสดุ LUM-CAMO คอมโพสิตชั้นสูงที่ผสานคาร์บอนไฟเบอร์เข้ากับเรซิน SLN ที่มีคุณสมบัติเรืองแสงในความมืด โครงสร้างนี้ให้พื้นผิวลวดลายล้ำสมัยราวกับ “พรางตัวแบบเทคโนโลยี” และยึดด้วยสกรูสี่ตัวภายในกระบอกป้องกันสีเขียวเรืองแสง ซึ่งไม่เพียงเสริมความแข็งแรงแต่ยังเพิ่มความโดดเด่นด้านสุนทรียะ ชั้นกลางของตัวเรือนทำจากไทเทเนียมเคลือบดำด้วยเทคนิค PVD ให้ทั้งความเบาและทนทานสูงสุด พร้อมต้านทานการกัดกร่อน การออกแบบโดยรวมให้ความรู้สึกดิบ แข็งแรง และในขณะเดียวกันก็หรูหราแบบ “อุตสาหกรรมศิลป์” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bell & Ross
การตีความแสงเรืองให้กลายเป็นงานศิลป์เชิงกราฟิก
เมื่อแสงมืดลง นาฬิกา BR-X3 Night Vision จะเผยโฉมที่แท้จริงของมัน โลกแห่งการเรืองแสงสีเขียวที่ชวนให้นึกถึงห้องนักบินของเครื่องบินรบยามรัตติกาล สีเขียวที่ใช้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือสีเดียวกับแสงจากระบบ HUD หรือ Head-Up Display ซึ่งเป็นระบบแสดงข้อมูลลอยบนกระจกหน้าของนักบิน ที่นักบินใช้ในการปฏิบัติภารกิจกลางคืน สีนี้ช่วยให้สายตามนุษย์มองเห็นได้ดีที่สุดในความมืด และยังเป็นสีที่สื่อถึงความเที่ยงตรงและความมั่นใจของโลกการบิน
หน้าปัดแบบสเกเลตันของ BR-X3 Night Vision สะท้อนทั้งความซับซ้อนและความล้ำยุค โครงสร้างรูปตัว “X” กลางหน้าปัดขับแสงด้วย Super-LumiNova สีเขียวที่เรืองแสงยาวนานแม้ในสภาพแสงต่ำที่สุด หน้าปัดหลายชั้นเผยให้เห็นกลไกอัตโนมัติภายในผ่านกระจกแซฟไฟร์สีควันที่ให้เฉดสีเทาเข้มแบบเทคโนโลยี ขอบช่องพลังงานสำรอง 70 ชั่วโมงและช่องวันที่ขนาดใหญ่ถูกตัดขอบด้วยเส้นสีเขียวเรืองแสงอย่างพิถีพิถัน ทุกตัวเลข ดัชนี และเข็มชี้เวลาต่างเคลือบด้วยสารเรืองแสง เพื่อให้การอ่านเวลาทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเพ่งมอง ยามค่ำคืน หน้าปัดของ BR-X3 Night Vision จึงเปล่งประกายราวกับแผงควบคุมของเครื่องบินรบ แสงสีเขียวไหลรินเหนือพื้นผิวกระจกใสราวกับโลกในอีกมิติหนึ่ง ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความแม่นยำทางวิทยาศาสตร์และศิลปะแห่งการมองเห็นในความมืด
กลไกระดับสูงที่พร้อมทะยานเหนือขอบฟ้า
หัวใจของ BR-X3 Night Vision คือกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ BR-CAL.323 ที่พัฒนาโดย Kenissi Manufacture โรงงานผู้ผลิตกลไกระดับสูงของสวิตเซอร์แลนด์ กลไกนี้ได้รับการรับรองจากสถาบัน COSC (Swiss Official Chronometer Testing Institute) ที่มอบความเที่ยงตรงระดับสูงสุดในมาตรฐานสวิส พร้อมกับพลังงานสำรองยาวนานถึง 70 ชั่วโมง และสามารถชมการทำงานของกลไกได้ผ่านฝาหลังแบบใสจากกระจกแซฟไฟร์เคลือบโทนสีเขียวเรืองแสงเช่นเดียวกับด้านหน้า เผยให้เห็นโรเตอร์น้ำหนักเหวี่ยงที่ตกแต่งอย่างงดงามเฉพาะของซีรีส์ BR-X3 เป็นความสมดุลระหว่างความแม่นยำและความงดงามเชิงวิศวกรรม
ไตรภาคแห่งนาฬิกาเครื่องมือสุดล้ำยุค
BR-X3 Night Vision คือบทสุดท้ายในไตรภาคแห่งความล้ำสมัยของตระกูล BR-X3 ที่เริ่มต้นด้วย BR-X3 Black Titanium นาฬิกาไทเทเนียมที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินล่องหน (Stealth Aircraft) และต่อด้วย BR-X3 Blue Steel รุ่นที่ตีความความทันสมัยด้วยเฉดฟ้าเงินอ่อนซึ่งสะท้อนชุดนักบินอวกาศ และหากรุ่น Black Titanium คือ “การบินเหนือโลก” และรุ่น Blue Steel คือ “การเดินทางสู่อวกาศ” Night Vision ก็คือ “การทะยานสู่ความมืด” การสำรวจอีกมิติของแสงและเงา รหัส “X” ในชื่อรุ่นไม่ใช่เพียงเครื่องหมายของนวัตกรรม แต่ยังหมายถึง “Experimental Project” โครงการที่ผลักดันขอบเขตของแนวคิด BR-03 ไปให้ถึงที่สุด ทั้งด้านวัสดุศาสตร์ สมรรถนะ และความกล้าในการออกแบบกราฟิก ในแง่เทคนิค BR-X3 คือการพัฒนาเครื่องบอกเวลาในรูปแบบ “Instrument Watch” สู่จุดสูงสุด ทั้งในแง่ของความแม่นยำและการสื่อสารทางสายตา นาฬิกาในซีรีส์นี้เป็นเหมือนการแปล “เครื่องมือการบินมืออาชีพ” มาอยู่บนข้อมืออย่างสมบูรณ์แบบ
เกี่ยวกับ BELL & ROSS
เรื่องราวของ Bell & Ross เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 จากมิตรภาพของสองชายหนุ่มผู้หลงใหลในศาสตร์แห่งเวลาและอากาศยาน Carlos-A. Rosillo และ Bruno Belamich ทั้งคู่รวมกันก่อตั้งแบรนด์ที่ผสมผสานความแม่นยำแบบสวิสกับจิตวิญญาณแห่งการออกแบบแบบฝรั่งเศส ปี 2005 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ Bell & Ross เปิดตัวนาฬิกา BR 01 ที่ปฏิวัติวงการด้วยดีไซน์ “วงกลมในสี่เหลี่ยม” ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแผงหน้าปัดเครื่องบิน ดีไซน์นี้กลายเป็นเอกลักษณ์ถาวรของแบรนด์และวางรากฐานให้กับทุกคอลเลกชันถัดมา ไม่ว่าจะเป็น BR 03 สำหรับมืออาชีพ, BR 05 สำหรับชีวิตเมือง หรือ BR-XS Manufacture Line สำหรับนักสะสมผู้หลงใหลในเทคโนโลยีขั้นสูง
ปรัชญา “From the cockpit to the wrist” ยังคงเป็นหัวใจของ Bell & Ross การนำเทคโนโลยีและความแม่นยำจากห้องนักบินมาสู่ข้อมือของผู้คนที่หลงใหลในความเที่ยงตรง ปัจจุบันแบรนด์มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 แห่งใน 80 ประเทศทั่วโลก พร้อมบูติกเฉพาะแบรนด์ 25 แห่ง และยังร่วมมือกับพันธมิตรระดับสูง เช่น La Patrouille de France และ Rafale Solo Display เพื่อยืนยันรากฐานในความสัมพันธ์กับวงการการบินอย่างแน่นแฟ้น
21 ต.ค. 2568
20 ต.ค. 2568
21 ต.ค. 2568
21 ต.ค. 2568