TRILOBE Trente-Deux Collection

เจ็ดปีหลังจากการก่อตั้ง เราภูมิใจนำเสนอคอลเล็กชั่น Trente-Deux ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางแนวคิด ถ่ายทอดผ่านกลไกอันล้ำสมัยที่ถูกคิดค้น ออกแบบ พัฒนาขัดแต่งขึ้นรูป ตกแต่ง รวมถึงประกอบทุกชิ้นส่วนอย่างประณีตในกรุงปารีส ภายในโรงงานแห่งใหม่ของ Trilobe

32 คือสิ่งที่มีความหมายมากกว่าตัวเลข เพราะเป็นที่ตั้งของสตูดิโอออกแบบและเวิร์กช็อปในกรุงปารีส อีกทั้งยังเป็นชื่อรหัสสำหรับคอลเล็กชั่นล่าสุดที่ถูกเรียกตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีของการพัฒนาถือเป็นแรงบันดาลใจที่หล่อหลอมทุกขั้นตอนของกระบวนการสร้างสรรค์

วันนี้ คอลเล็กชั่นนี้กลายเป็นบทถัดไปของแนวคิดอิสระ สะท้อนความมุ่งมั่นในการนำเสนอสิ่งใหม่ที่ดูแตกต่าง ณ กรุงปารีส ด้วยความเป็นเลิศ ความคิดสร้างสรรค์ และความหลงใหล

ผลงานรุุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวกลไก Manufacture รุ่นแรก คอลเล็กชั่น Trente-Deux ถ่ายทอดมรดกอันทรงคุณค่าของผลงานเริ่มแรกของ Trilobe พร้อมยังคงยึดมั่นในรากฐานของแบรนด์ การแสดงเวลาที่ไม่อยู่ตรงกลางผสานกับโครงสร้างใหม่ของหน้าปัด Nuit Fantastique และสายโลหะแบบบูรณาการ เผยโฉมสุนทรียะแห่งนาฬิกาในมิติใหม่

ถูกคิดค้น ออกแบบ พัฒนา สร้างต้นแบบขัดแต่ง ตกแต่งชิ้นส่วนและประกอบภายในโรงงาน โดย X-Nihilo เป็นกลไกรุ่นแรกของ Trilobe ที่ผลิตภายในโรงงานของตนเอง

โครงสร้างอันโดดเด่นได้รับการออกแบบให้หมุนรอบเกาะกลาง เปิดพื้นที่ว่างเพื่อเผยให้เห็นบาลานซ์วีลขนาดใหญ่ที่สะดุดตาเป็นพิเศษ กลไก X-Nihilo มีกำลังลานสำรอง 42 ชั่วโมง ผสมผสานระหว่างความเป็นเลิศทางเทคนิคเข้ากับความงดงามเฉพาะตัว

ตัวเรือนและสายถูกออกแบบเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลงตัว สายโค้งรับข้อมืออย่างสมบูรณ์แบบ แต่ละข้อต่อสายขัดด้านซาตินมีมุมเอียงค่อย ๆ แคบลง ตัวเชื่อมสายขัดเงาราวกระจก สะท้อนรูปทรงของ Trilobe สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเล่นกับแสงสร้างเหลือบเงาอย่างสวยงาม

ในเชิงโครงสร้าง สายประกอบด้วยข้อสายและข้อเชื่อมสลับกันในรูปแบบเรียบง่ายแต่ประณีต และปรับขนาดได้อย่างง่ายดายด้วยโครงสร้างที่ยืดหยุ่น ข้อเชื่อมมีความแตกต่างระหว่างด้านที่มองเห็นกับด้านภายใน ด้านนอกตกแต่งอย่างประณีต ส่วนด้านในทำหน้าที่เชิงฟังก์ชั่น ทำให้สายมีความแข็งแกร่งทนทานเป็นพิเศษ

สายมาพร้อมกับตัวล็อคสายแบบบานพับสองชั้นสลักโลโก้ Trilobe อย่างชัดเจน โดยไม่มีปุ่มกดที่มองเห็นได้ ทำให้ดูเรียบหรูและใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยกลไกสปริง

ตัวเรือนประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ผ่านการตกแต่งแยกกันถึงเจ็ดชิ้น เผยให้เห็นโครงร่างรูปทรงประติมากรรม มีสามชั้นขอบเอียง พร้อมบ่าข้างด้านไม่สมมาตร และตัวเรือนกลางที่ทำมุมเฉียง ขอบหน้าปัดมาพร้อมดีไซน์ที่ดูมีเอกลักษณ์ เป็นลอนคลื่น สันข้างขัดเงาวาววับสลับกับการเซาะร่องขัดด้าน ช่วยเสริมการเล่นแสงและสร้างความแตกต่างของพื้นผิวให้ดูมีมิติ รูปทรงยังแฝงลายเซ็น Trilobe อย่างชัดเจน โครงสร้างใหม่ล่าสุด สะท้อนการออกแบบของเม็ดมะยม ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นพิเศษสำหรับคอลเล็กชั่นนี้โดยเฉพาะ

คอลเล็กชั่น Trente-Deux ยังคงรักษาการแสดงเวลาที่ไม่อยู่ตรงกลางซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Trilobe พร้อมกับนำเสนอหน้าปัดดีไซน์ใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างสมบูรณ์ วงแหวนรอบหน้าปัดที่ขัดซาตินและขัดเงาสลับกัน สะท้อนผิวสัมผัสของสายโลหะและเป็นจุดศูนย์กลางขององค์ประกอบ ความบางเฉียบควบคู่กับเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้ความแม่นยำสูงสุดในกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้ความเรียบสมบูรณ์แบบโดยไม่บิดงอ

ทุกองค์ประกอบช่วยเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างของกลไกได้อย่างชัดเจน:  มีการจัดทั้งแบบเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบบนสะพานจักรกลและแผ่นฐาน สกรูและบูชได้รับการขัดเงาดำเพื่อให้งานตกแต่งที่ประณีต สกรูและอัญมณีถูกทำให้โดดเด่นด้วยขอบเว้าขัดเงาด้วยเพชร

บนพื้นผิว สะพานกลไกสะท้อนลวดลายขัดด้านแบบเดียวกับสายนาฬิกา ขณะที่เฟืองชุบโรเดียมแสดงลวดลายขัดวงกลมสอดคล้องกับการทำงานของกลไก โรเตอร์ผสมผสานระหว่างลวดลายซันเบิสต์กับพื้นผิวเกรน ช่วยเน้นทั้งโครงสร้างและความเบาของกลไกได้เป็นอย่างดี

สะท้อนเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ พื้นผิวเผยมิติของแสงและเงาได้อย่างสวยงามเมื่อผสานกับการเคลือบทอง 5N ให้อุณหภูมิของสีที่ดูอบอุ่น ซึ่งจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเฉดสีตามกาลเวลา

โรเตอร์แบบโอเพ่นเวิร์คทำจากทังสเตนเผยให้เห็นบาลานซ์วีล ซึ่งยึดไว้ด้วยสะพานกลไกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแห่งการทำนาฬิกาดั้งเดิม บาลานซ์วีลที่ออกแบบเฉพาะรุ่นนี้ติดตั้งสกรูปรับเทียบเวลาเชิงโครโนมิเตอร์จำนวนสี่ตัว เพื่อให้สามารถปรับตั้งเวลาได้อย่างแม่นยำ มอบความเสถียรและเที่ยงตรงในการใช้งานระยะยาว

เกิดจากแนวคิดการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ โรเตอร์จึงมาพร้อมระบบหมุดนิรภัยที่ช่วยปกป้องกลไกจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง รักษาความสมบูรณ์ของทั้งสะพานกลไกและชิ้นส่วนประกอบภายใน

ฝาหลังแซฟไฟร์เผยให้เห็นกลไกภายในดูราวกับลอยอยู่ในอากาศ ผนังตัวเรือนด้านในขัดเงาราวกระจก สะท้อนภาพกลไกให้เกิดมิติความลึกดูน่าทึ่ง สลักคำว่า “Paris – France” บนสะพานกลไก ใช้แบบอักษรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากป้ายถนนสไตล์ปารีเซียงในยุควินเทจ

หน้าปัดซึ่งมีให้เลือกทั้งสีเทาและสีน้ำเงิน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.5 มิลลิเมตร  โดดเด่นด้วยการเล่นพื้นผิวอันประณีต:
พื้นผิวซันเรย์แบบด้าน แผ่นดิสก์บอกชั่วโมงและนาทีตกแต่งด้วยลายเกรน และวงล้อวินาทีที่ผสานเทคนิคการตกแต่งแบบ Azurage เข้ากับลายกิโยเช่ Clous de Paris

Head Office contact
cercle@trilobe.com +33 1 40 54 75 98 www.trilobe.com