GIRARD-PERREGAUX Laureato Three Gold Bridges

Last updated: 20 พ.ย. 2568  |  289 จำนวนผู้เข้าชม  | 

GIRARD-PERREGAUX Laureato Three Gold Bridges

ในปี 1867 Girard-Perregaux ได้เผยโฉม Three Bridges นวัตกรรมที่ก้าวข้ามข้อจำกัด ด้วยการเผยให้เห็นความงามของกลไกภายใน จนกลายเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ด้านการออกแบบที่ยาวนานที่สุดแห่งโลกนาฬิกา ต่อมาในปี 1975 ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Laureato นาฬิการุ่นแรกที่มาพร้อมสายบูรณาการ ซึ่งออกแบบพัฒนาและผลิตภายในโรงงานทั้งหมด ผลงานไอคอนทรงแปดเหลี่ยมที่เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีในปีนี้ และวันนี้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตมาบรรจบกันใน Laureato Three Gold Bridges ผลงานชิ้นเอกที่ผสานสองตานานให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งสองอัตลักษณ์เหนือกาลเวลาได้หวนกลับมาอีกครั้ง

LAUREATO THREE GOLD BRIDGES HIGHLIGHTS
ตำนาน Three Bridges และ Laureato หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ถ่ายทอดสมดุลที่ทรงพลังระหว่างมรดกอันทรงคุณค่าและความทันสมัย

ภายหลังการเปิดตัว Laureato FIFTY รุ่นพิเศษ ฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของ Laureato นาฬิกา Laureato Three Gold Bridges — ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน — ได้เปิดฉากบทที่สองของการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญ

นาฬิการุ่นใหม่มาพร้อมขนาด 41 มม. เผยดีไซน์ Laureato โฉมใหม่ ที่ได้รับการขัดแต่งในทุกองค์ประกอบ เพื่อมอบสมดุลแห่งสุนทรียภาพและความสบายเวลาสวมใส่

หัวใจสำคัญของนาฬิกา คือกลไกทูร์บิญองที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ คาลิเบอร์อินเฮาส์รุ่นใหม่ GP9620 ซึ่งออกแบบ พัฒนา และรังสรรค์ขึ้นทั้งหมดภายในโรงงานของแบรนด์เอง

คาลิเบอร์รุ่นใหม่ได้ประทับลายเซ็นโดยปรมาจารย์ช่างทำนาฬิกาผู้ดูแลการประกอบทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ การันตีมาตรฐานงานตกแต่งระดับสูง โดดเด่นด้วยพื้นผิวแบบซันบลาสต์ ขัดซาตินวงกลมและขนแปรงขนาน เหลี่ยมมุมขัดเงาด้วยมือมากถึง 418 จุด โดยในจำนวนนี้มีมากถึง 362 จุดที่เป็นเหลี่ยมมุมด้านใน

ตลอดระยะเวลำกว่ำ 234 ปีที่ผ่ำนมำ Girard-Perregaux ได้ขับเคลื่อนประวัติศำสตร์งำนออกแบบในโลกนำฬิกำ ตั้งแต่ยุคที่คำว่ำ “ดีไซน์” ยังไม่ปรำกฏในพจนำนุกรมของศำสตร์แห่งนำฬิกำ ทำงแบรนด์ก็ได้เป็นผู้กำหนดนิยำมนั้นแล้ว โดยในปี 1867 ทำง Constant Girard ได้ปฏิวัติควำมงำมเชิงสุนทรียะด้วยกำรเปลี่ยนที่จะปกปิดควำมงดงำมไว้หลังหน้ำปัด พิสูจน์ว่ำทุกองค์ประกอบทำงเทคนิคสำมำรถถ่ำยทอดอำรมณ์ เขำได้รังสรรค์ลำย Three Bridges ปลำยศรอันเป็นเอกลักษณ์ องค์ประกอบล้ำยุคที่หลอมรวมรูปทรงและฟังก์ชั่นให้เป็นหนึ่งเดียว

ต่างจากนาฬิกาสเกเลตันในยุคนั้นที่ใช้กลไกดัดแปลง โครงสร้างของ Three Bridges ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ตั้งแต่ต้น โครงสร้างกลำยเป็นศิลปะ เผยความงดงามที่ผู้อื่นเลือกซ่อน เมื่อกาลเวลาผ่านไป ดีไซน์อาจเปลี่ยนไป แต่จิตวิญญาณของ Constant Girard ยังคงอยู่ วันนี้หนึ่งในซิกเนเจอร์เก่าแก่ที่สุดของวงการนาฬิกา ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบร่วมสมัย พร้อมเฉลิมฉลองไอคอนสำคัญอีกครั้ง: Laureato

Laureato เปิดตัวครั้งแรกในปี 1975 และยังคงเป็นผลงานสร้างสรรค์จากแบรนด์ การเล่นกับรูปทรงเรขาคณิตที่ลงตัว ขอบหน้าปัดทรงแปดเหลี่ยม วงแหวนทรงกลม และตัวเรือนทรงตอนโนมอบเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สมบูรณ์แบบ

ปัจจุบัน Girard-Perregaux ได้นำสองสัญลักษณ์อันทรงพลังที่สุดมารวมไว้ในผลงานชิ้นเอก Laureato Three Gold Bridges จุดที่ตำนานสองเรื่องบรรจบกันกลายเป็นไอคอนเหนือกาลเวลา

โครงสร้างของ Three Bridges ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ตั้งแต่ต้น

TECHNICAL MASTERY / ENGINEERING IN MOTION
ปรัชญาของ Girard-Perregaux มอบทั้งความโปร่งใสเวลามองเห็นและความสมดุลเชิงกลไก ความแข็งแกร่งและสมมาตร คาลิเบอร์ GP9620 ซึ่งออกแบบ พัฒนา และรังสรรค์ขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์เอง เฉพาะสำหรับ Laureato Three Gold Bridges นำเสนอสะพานจักรไวท์โกล์ดสามชิ้นแบบโอเพ่นเวิร์คที่เป็นแกนกลาง สะท้อนความงามและการทำงาน สะพานบนยึดบาร์เรลล์ซึ่งมีไมโครโรเตอร์แพลทินัมวางใต้สะพานนั้น สะพานกลางรองรับชุดเฟืองและกลไกเคลื่อนที่ ส่วนสะพานล่างยึดทูร์บิญอง การจัดเรียงบำร์เรลล์ ชุดเฟือง และทูร์บิญองบนแกนเดียวกันถือเป็นความสำเร็จทางเทคนิคที่ทั้งสมเหตุสมผลและดูลงตัว การออกแบบกลับด้านนี้ นำชิ้นส่วนที่มักซ่อนอยู่ด้านหลังมาไว้ด้านหน้า เปลี่ยนคาลิเบอร์ให้กลายเป็นประติมากรรมกลไก

ฐานขององค์ประกอบนี้คือทูร์บิญอง ฟังก์ชั่นที่ฝังอยู่ในเอกลักษณ์ของ Girard-Perregaux มาตั้งแต่การสร้างสรรค์เชิงในยุคเริ่มต้นของ Constant Girard

ในศตวรรษที่ 19 กรงทูร์บิญองรูปทรงไลร์ทำจากไทเทเนียม ผสมผสานน้ำหนักเบาและความแข็งแกร่งเพื่อต้านแรงโน้มถ่วงและรักษาความแม่นยำในการจับเวลา ขณะที่เข็มวินาทีเล็กช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นและจังหวะ ทุกองค์ประกอบของคาลิเบอร์ GP9620 ถูกออกแบบให้ดูกลมกลืน ชุดเฟือง สะพาน และกรงทูร์บิญองสร้างรูปทรงเรขาคณิตที่สมดุล รับประกันทั้งความงามที่มองเห็นและประสิทธิภาพกลไกระดับสูง ไมโครโรเตอร์แพลทินัมที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังบำร์เรลช่วยให้นาฬิกาขึ้นลานอัตโนมัติโดยไม่รบกวนความโปร่งใสของดีไซน์ แปลงการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของข้อมือผู้สวมใส่ให้กลายเป็นพลังงานสำรอง กลไกนี้ดูลงตัวทั้งด้านรูปทรงและการทำงาน มอบพลังงาน

สำรองอย่างน้อย 55 ชั่วโมง เข็มทรงบาตองเคลือบสารเรืองแสงจึงสามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนแม้ในพื้นที่แสงน้อย โดยมีสเกลนาทีที่ยึดไว้บนด้านในของตัวเรือน ช่วยเพิ่มความชัดเจนในการอ่านเวลาโดยไม่รบกวนความงามของโครงสร้างสเกเลตัน

ไมโครโรเตอร์แพลทินัมที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังบาร์เรลช่วยให้นาฬิกา
ขึ้นลานอัตโนมัติโดยไม่รบกวนความโปร่งใสของดีไซน์

AESTHETIC REFINEMENT / BEAUTY THAT STOPS TIME
ในทุกผลงาน Girard-Perregaux ถ่ายทอดเทคนิคให้กลายเป็นอารมณ์ และ Laureato Three Gold Bridges ก็เช่นเดียวกัน หากโครงสร้างของกลไกเป็นผู้กำหนดการทำงาน งานตกแต่งคือผู้กำหนดจิตวิญญาณ กลไกนี้เผยให้เห็นมุมขัดเงาด้วยมือ 418 จุด รวมถึงมุมด้านในถึง 362 จุด ซึ่งนับเป็นความสำเร็จเชิงเทคนิคและศิลปะอันน่าทึ่ง มุมด้านในแต่ละจุด ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่ขัดยากที่สุด สะท้อนและหักเหแสงในหลากหลายมุมทำให้กลไกดูราวกับมีชีวิตที่เปล่งประกาย ส่วนปลายทรงลูกศรของทั้งหกสะพานคือจุดสูงสุดของความเชี่ยวชาญ ขอบคมกริบขัดเงาดุจกระจกต้องอาศัยเวลายาวนานในกำรขัดแต่งด้วยมือ ถ่ายทอดทักษะกว่า 200 ปีของแบรนด์ออกมาอย่างบรรจงด้วยสันขัดเงาใหม่ตัดกับพื้นผิวซาตินลายวงกลม เกิดมิติของรูปทรงที่เชื่อมแปดเหลี่ยมและวงกลมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนซึ่งเป็นหัวใจของ Laureato

โดยรูปทรงเรขาคณิตของ Laureato และโครงสร้างของ Three Bridges กล่าวโดยภาษาร่วมกัน คือ ความแม่นยา สัดส่วน และความงดงามเหนือกาลเวลา

ตัวเรือนโฉมใหม่เผยเส้นสายคมชัด มุมลาดลึก และเหลี่ยมขัดเงาที่กว้างขึ้น รับแสงจากทุกองศา สายสเตนเลสสตีลแบบอินทิเกรตไหลลื่นไร้รอยต่อ ลิงก์ทรงโดมเพิ่มมิติและจังหวะการเคลื่อนไหว บานพับสามชั้นพร้อมปุ่มกดทรงแปดเหลี่ยมมอบทั้งความสบายและสมดุลทางสายตำ พร้อมระบบปรับความยาวแบบไม่ต้องใช้เครื่องมือ ขยายได้สูงสุด 4 มม. รายละเอียดเล็กแต่ชาญฉลาด ที่ทำให้การสวมใส่ง่ายยิ่งขึ้น

โดยรูปทรงเรขาคณิตของ Laureato และโครงสร้างของ Three Bridges กล่าวโดยภาษาร่วมกัน คือ ความแม่นยำ สัดส่วน และความงดงามเหนือกาลเวลา หล่อหลอมจากเอกลักษณ์ โดย Laureato Three Gold Bridges ก้าวผ่านกาลเวลา ถ่ายทอดความสมดุล มรดก และนวัตกรรมอย่างกลมกลืนสมบูรณ์แบบ

Laureato Three Gold Bridges ฉีกกรอบขนบธรรมเนียมดั้งเดิมด้วยการออกแบบไร้หน้าปัด เผยโครงสร้างกลไกทั้งเรือน อินเด็กซ์ไวท์โกลด์แบบลอยตัวเหนือกลไก เรืองแสงสีฟ้ำในพื้นที่แสงน้อย เพิ่มความโมเดิร์นให้ทั้งการอ่านเวลาและเสน่ห์ของนาฬิกา ที่ด้านล่างแผ่นไวท์โกลด์ปลายลูกศรสลักอักษรย่อของช่างนาฬิกาผู้ประกอบและขัดแต่งผลงานนี้ คือถ้อยคำเคารพต่อความเชี่ยวชำญของศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา

ความกลมกลืนทางสายตาไหลลื่นจากตัวเรือนสู่สายนาฬิกา ไวท์โกลด์และสเตนเลสสตีลสร้างแสงกระทบอันประณีต แต่ละพื้นผิวออกแบบให้สะท้อนและเล่นระดับแสงอย่างแม่นยำ ตัวเรือนขนาด 41 มม. หนาเพียง 10.85 มม. (11.25 มม. สำหรับรุ่นประดับเพชร) ผสานความโดดเด่นและความงดงามอย่างลงตัวบนข้อมือ ตอกย้ำความชำนาญของ Girard-Perregaux แม้ในนาฬิกาทูร์บิญอง ขอบตัวเรือนแปดเหลี่ยมทองคำขาวโดดเด่น

WHEN DIAMONDS TAKE THE STAGE
ความงดงามราวอัญมณีของ Laureato Three Gold Bridges ปรากฏชัดเจน สำหรับผู้ชื่นชอบความโดดเด่นสูงสุด Girard-Perregaux นำเสนอเวอร์ชันประดับเพชรทรงบาแกตต์ 32 เม็ด (~3.2 กะรัต) โดยช่างฝีมือผู้ฝังเพชรระดับปรมาจารย์ เพชรทุกเม็ดถูกจัดวางอย่างแม่นยำบนขอบตัวเรือนในตำแหน่งโดยเฉพาะ ออกแบบร่องรองรับความแตกต่างเล็กน้อยของเพชรแต่ละเม็ด เพื่อให้เพชรเรียงตัวตรงและสูงเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ

ความสูงของขอบตัวเรือนได้รับการปรับ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้เพชรแต่ละเม็ดและสร้างความกลมกลืนกับองค์ประกอบโดยรวม ขอบตัวเรือนแปดเหลี่ยมของ Laureato ถูกออกแบบให้ขยายเล็กน้อยไปยังมุมแต่ละมุม เพื่อรองรับขนาดเพชรที่แตกต่างกัน เพชรบาแกตต์เหล่านี้ถูกฝังด้วยเทคนิค invisible setting โดดเด่นทั้งด้านสัดส่วนและการเล่นแสง อีกครั้งที่แสงไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบของดีไซน์ แต่กลายเป็นการรังสรรค์อารมณ์ มิติ และประกายแสง เงาสะท้อนแต่ละครั้งจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างนาฬิกา ตอกย้ำความชำนาญในการจัดการแสงตั้งแต่กลไกไปจนถึงเครื่องประดับ

Laureato Three Gold Bridges ผลิตจำกัดเพียง 50 เรือน ส่วนรุ่นประดับเพชรไม่มีจำนวนจำกัด ทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกำยน 2025 โดยสามารถเลือกซื้อที่ตัวแทนจำหน่ายของ Girard-Perregaux ทั่วโลก

ข้อมูลเกี่ยวกับ Girard-Perregaux
โรงงานที่เชี่ยวชาญทั้งด้านงานออกแบบและการผลิตกลไก นับตั้งแต่ปี 1791 ด้วยกลไกมากกว่า 30 รุ่นในแค็ตตาล็อก สิทธิบัตรกว่า 80 ฉบับ และมรดกอันยาวนานกว่า 230 ปี Girard-Perregaux จึงเป็นมาสเตอร์แห่งศิลปะนาฬิกาชั้นสูง

ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา Girard-Perregaux ก็โดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง ในปี 1791 แบรนด์ได้ริเริ่มแนวคิดโรงงานนาฬิกาที่รวมกระบวนการผลิตทั้งหมดไว้ในที่เดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่อุตสำหกรรมนาฬิกาที่ตามมา ผู้ก่อตั้งและผู้นำของแบรนด์ในแต่ละยุคสมัยต่างได้ยกระดับชื่อเสียงของแบรนด์ด้วยวิสัยทัศน์และจิตวิญญาณที่กว้างไกลและความคิดที่ก้าวหน้า

จิตวิญญาณนี้ได้นำไปสู่ความสำเร็จสำคัญหลายประการ ได้แก่ Three Bridges Tourbillon ในปี 1867 กลไกความถี่สูงในปี 1965 ที่มีความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง ความถี่มาตรฐานควอตซ์สากล (32,768 เฮิร์ต) ในปี 1971 และกลไก Constant Escapement ในปี 2013 ซึ่งได้รับรางวัล Aiguille d’Or จากงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève ความก้าวหน้าแต่ละครั้งล้วนเป็นผลมาจากทีมงานภายในที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหลในการผลักดันขีดจำกัด พร้อมกับเคารพในประเพณีและมาตรฐานดั้งเดิม

Girard-Perregaux ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบ ทุกองค์ประกอบ ทั้งรูปทรงโครงสร้าง และความงาม ล้วนได้รับการคิดค้น พัฒนา และสร้างสรรค์ ภายในโรงงานของตนเองอย่างครบถ้วน ทูร์บิยองที่มาพร้อมกับสะพานจักรทองคำสามส่วน ซึ่งได้รับรางวัลในการจัดแสดงใน Paris Universal Exhibition เมื่อ 1889 ถือ เป็นผลงานปฏิวัติวงการทั้งในด้านเทคนิคและรูปลักษณ์

ภายในโรงงานของตนเองอย่างครบถ้วน ทูร์บิยองที่มาพร้อมกับสะพานจักรทองคำสามส่วน ซึ่งได้รับรางวัลในการจัดแสดงใน Paris Universal Exhibition เมื่อ 1889 ถือ เป็นผลงานปฏิวัติวงการทั้งในด้านเทคนิคและรูปลักษณ์ ปรัชญานี้ได้รับการถ่ายทอดผ่านนาฬิกา Laureato ซึ่งเปิดตัวในปี 1975 และถูกออกแบบขึ้นทั้งหมดภายในโรงงาน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบที่ด้วยรูปทรงสมมาตรที่โดดเด่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากขอบหน้าปัดที่มี 14 เหลี่ยมของนาฬิกา Deep Diver ปี 1969 ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดผ่านนาฬิกา Laureato ที่เห็นในปัจจุบัน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลงาน Laureato ได้ผสานฟังก์ชั่นซับซ้อนใหม่ๆ และกลไกอัตโนมัติ พร้อมกับการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องโดยยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ได้อย่างชัดเจน

ในปัจจุบัน Girard-Perregaux ได้รับการยอมรับและชื่นชมอย่างกว้างขวางจากผู้รักและนักสะสมนาฬิกา ด้วยแนวทางโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในการรังสรรค์นาฬิกาชั้นสูง ชื่อเสียงของแบรนด์จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา ความประณีตและความงามที่เหนือกาลเวลา เป็นโรงงานผลิตนาฬิกาที่ยังคงยืนหยัดรักษามรดกอันยาวนานและทรงคุณค่าอย่างมั่นคง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้