BOUCHERON Contemplation

Boucheron เมซงเครื่องประดับชั้นสูงจากฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1858 จัดงาน “บ้านบูเชอรง” ดินเนอร์ไฮจิเวลรี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส คฤหาสน์ประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1830 ค่ำคืนนี้ถูกรังสรรค์ให้เป็นประสบการณ์อันใกล้ชิด เปิดโอกาสให้แขกได้สัมผัสโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเมซง ที่ซึ่งงานหัตถศิลป์ชั้นสูงของฝรั่งเศสและความละเมียดละไมแบบไทยผสานกันอย่างงดงาม

การเดินทางเริ่มต้นขึ้น ณ  Le Jardin d’Hiver โดยแขกผู้มีเกียรติได้รับการต้อนรับในพื้นที่รับรองกลางแจ้งอันร่มรื่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนฤดูหนาวแบบฝรั่งเศสที่ถูกเติมแต่งด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างประณีต เมื่อแสงอาทิตย์ลาลับเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา ท่วงทำนองเครื่องดนตรีไทยเริ่มบรรเลงขึ้นคลอไปกับช่วงเวลานั้น ราวกับเป็นบทนำสู่ค่ำคืนที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อย่างเข้าสู่เวลาพลบค่ำ ประตูเปิดออกเผยให้เห็น ‘บ้านบูเชอรง’ ภายในอาคารที่ถูกแปลงโฉมด้วยเถาไอวี่ กล้วยไม้ และโทนสีเขียวเข้มที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเมซง แสงไฟสีอ่อนละมุน รายละเอียดอันพิถีพิถัน และพื้นผิวธรรมชาติหลอมรวมกันเป็นบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ถ่ายทอดความร่วมสมัยของ Boucheron ควบคู่ไปกับความอ่อนโยนแบบไทยอย่างลงตัว

เมื่อแขกก้าวเข้าสู่บ้านบูเชอรง การเดินทางได้พามาสู่พื้นที่ด้านบน ที่เผยอีกมิติหนึ่งของค่ำคืนนี้ พร้อมสามผลงานไอคอนิกที่รอต้อนรับในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น Boucheron ถ่ายทอดหัวใจแห่งงานสร้างสรรค์ผ่านประสบการณ์ที่เปิดโอกาสให้แขกได้ชื่นชมผลงานเด่นเหล่านี้ก่อนที่โชว์จะเริ่มต้นขึ้น

ผลงานทั้งสามชิ้นเริ่มต้นด้วยผลงานจากคอลเลกชั่นไฮจิเวลรี่ Contemplation ที่ถ่ายทอดช่วงเวลาละเอียดอ่อนราวถูกหยุดนิ่ง ผ่านมุมมองการสร้างสรรค์อันลึกซึ้งของแคลร์ ชัวส์เน่ (Claire Choisne) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของเมซง ต่อด้วยผลงาน Vendôme Liseré ที่สะท้อนแรงบันดาลใจจากจัตุรัสว็องโดมและรากฐานแบบปารีเซียงของเมซง ด้วยเส้นสายอาร์ตเดโคและเพชรเหลี่ยมเอเมอรัลด์อันโดดเด่น ปิดท้ายด้วย Wladimir จากคอลเลกชั่น Animaux de Collection แมวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมซงที่ถูกตีความใหม่ในรูปแบบทองแกะสลักและอัญมณีสว่างใส สะท้อนความต่อเนื่องจากผลงานในอดีตควบคู่ไปกับแนวคิดการสร้างสรรค์ร่วมสมัยของ Boucheron

ภายในบริเวณรับรองของบ้านบูเชอรง ได้นำเสนอโชว์สุดพิเศษที่เปิดโอกาสให้แขกได้สัมผัสผลงานอันโดดเด่นของเมซงอย่างใกล้ชิด โดยเริ่มต้นด้วยคอลเลกชั่น Quatre ซึ่งเปิดตัวในปี 2004 และได้กลายเป็นไอคอนร่วมสมัยด้วยเส้นสายกราฟิกอันเป็นเอกลักษณ์ การนำเสนอเดินต่อด้วย Like a Queen จากคอลเลกชันไฮจิเวลรี่ Histoire de Style 2023 พร้อมผลงานจาก Nature Triomphante โดยไฮไลต์คือแหวนอะควาเมรีนที่ได้แรงบันดาลใจจากเข็มกลัดคู่ที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงได้รับในปี 1937 จับคู่กับสร้อยคอและต่างหู Question Mark จาก Plume de Paon ถ่ายทอดบทสนทนาระหว่าง Boucheron และธรรมชาติที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน เรื่องราวได้รับการต่อยอดด้วยกำไล Plume de Paon แบบปรับรูปแบบการสวมใส่ได้จาก Nature Triomphante ก่อนเข้าสู่ผลงานจาก Animaux de Collection ได้แก่ กำไลและแหวนจาก Cheval de l’Opéra และต่างหูจากคอลเลกชัน Serpent Bohème ซึ่งสะท้อนความสมจริงอันมีเอกลักษณ์และความประณีตเชิงประติมากรรมที่เป็นหัวใจของงานสร้างสรรค์โดยเมซง

การนำเสนอดำเนินมาถึงช่วงไฮไลต์ด้วย Power of Couture จากคอลเลกชั่นไฮจิเวลรี Carte Blanche 2024 ที่ซึ่ง Boucheron ผลักดันขีดจำกัดของงานหัตถศิลป์ไปสู่ระดับโอตกูตูร์อย่างแท้จริง เทียร่า แหวน กระดุม และต่างหูถูกนำเสนอในรูปแบบประติมากรรมที่รังสรรค์จากร็อกคริสตัลและเพชร สะท้อนแสงอย่างงดงามด้วยเทคนิคอันแม่นยำและน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ ขณะที่ Les Épaulettes ได้สร้างความประทับใจด้วยโครงสร้างทางเทคนิคอันซับซ้อนที่พาดทิ้งตัวดุจผืนผ้า และสามารถดัดแปลงเป็นกำไลข้อมือได้อย่างง่ายดาย พลิกมุมมองของไฮจิเวลรีไปอีกขั้น ค่ำคืนนี้ปิดฉากอย่างงดงามด้วยสร้อยคอ Mauve จากคอลเลกชั่น Signature ที่รังสรรค์จากไวท์โกลด์ แพลทินัม และมรกตทรงหยดน้ำ พร้อมแหวน Solitaire 26 Vendôme จากคอลเลกชั่น Architecture ซึ่งเป็นบทสรุปที่สื่อถึงความงดงามของรูปทรงเรขาคณิตและเสน่ห์แบบอาร์ตเดโคของจัตุรัสวงโดมได้อย่างชัดเจน

ในค่ำคืนที่จัดขึ้น ณ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส “บ้านบูเชอรง” ได้เผยเอกลักษณ์และความเชี่ยวชาญของเมซงอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ Boucheron ในการยกระดับศิลปะเครื่องประดับ และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ความคิดริเริ่ม และอิสระทางการออกแบบซึ่งนิยามตัวตนของเมซงอย่างแท้จริง

Contemplation High Jewelry Collection (2020)
สร้อยคอและแหวนจากคอลเลกชั่นไฮจิเวลรี่ Contemplation ถ่ายทอดความงดงามของช่วงเวลาที่ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา ราวกับถูกหยุดไว้และถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาของความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกินคำบรรยาย ในคอลเลกชั่นนี้ แคลร์ ชัวส์เน่ ได้นำเสนอผลงานที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว อ่อนโยน และชวนให้ค้นหา เรื่องราวที่ถูกบอกเล่าผ่านงานจิวเวลรี่ผ่านมุมมองการออกแบบของเธอ Boucheron ถูกถ่ายทอดอย่างงดงามดุจเส้นขอบฟ้าที่ท้องฟ้าและผืนดินมาบรรจบกัน เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้หยุดมอง ทำความรู้จัก และสัมผัสรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในทุกองศาของผลงาน

Power of Couture, Carte Blanche 2024 High Jewelry Collection
Power of Couture จากคอลเลกชั่นไฮจิเวลรี่ Carte Blanche เมซง Boucheron ถ่ายทอดเสน่ห์ของงานหัตถศิลป์แบบกูตูร์ผ่านผลงานที่ผสมผสานความประณีตเข้ากับความพลิ้วไหวของผืนผ้า เทียร่า แหวน กระดุม และต่างหูถูกตีความใหม่ในสไตล์ร่วมสมัย สะท้อนเครื่องประดับเชิงพิธีการในมุมมองที่สดใหม่และสง่างาม

สำหรับคอลเลกชั่นนี้ แคลร์ ชัวส์เน่ ได้นำแรงบันดาลใจจากรากฐานความเป็นกูตูร์ของเฟรเดอริก บูเชอรง และเสน่ห์ของเครื่องแต่งกายพิธีการมาถ่ายทอดใหม่ ผ่านการใช้ร็อกคริสตัลและเพชรอย่างชาญฉลาด ทำให้ชิ้นงานแบบดั้งเดิมถูกตีความใหม่ให้ร่วมสมัยและมีมิติมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในผลงานเด่นคือ Les Épaulettes ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแถบผ้าบริเวณไหล่ซึ่งช่วยกำหนดรูปทรงของชุด ทีมออกแบบของเมซงได้รับโจทย์ให้สร้างเอปอลเลตที่สามารถปรับเป็นกำไลได้ด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คือการแสดงออกถึงงานฝีมืออันประณีต: ทองคำขาวถูกขึ้นรูปอย่างแม่นยำ ประดับเพชรแบบปิดหนามเตยในแต่ละส่วน เกิดความอ่อนตัวจากโครงสร้างแบบข้อต่อ และปิดท้ายด้วยตะขอที่ช่วยให้ชิ้นงานแปลงเป็นกำไลข้อมือได้อย่างสง่างาม

Like a Queen, Histoire de Style 2023 High Jewelry Collection and Plume de Paon from Nature Triomphante Collection
แหวนในชุด Like a Queen จากคอลเลกชั่นไฮจิเวลรี่ Histoire de Style ได้รับแรงบันดาลใจจากสตรีผู้มีสไตล์เหนือกาลเวลา โดยหยิบเข็มกลัดดับเบิลคลิปที่ Boucheron มอบแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ II ในปี 1937 มาตีความใหม่ในรูปแบบที่ร่วมสมัยยิ่งขึ้น เมื่อพระองค์ทรงมีพระชนมายุครบ 18 พรรษาในปี 1944 พระองค์ทรงได้รับเข็มกลัดอะควาเมรีนและเพชรเป็นของขวัญ และทรงสวมใส่อยู่เสมอในหลายวาระสำคัญ ต่อมาในปี 2020 แคลร์ ชัวส์เน่ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ได้นำผลงานอาร์ตเดโคชิ้นนี้มาต่อยอดเป็นคอลเลกชั่นไฮจิเวลรี่ร่วมสมัยจำนวน 18 ชิ้น ที่คงไว้ซึ่งเสน่ห์ของต้นแบบ พร้อมเพิ่มเติมมิติใหม่ให้ผลงานมีความร่วมสมัยยิ่งขึ้น

แหวนชิ้นนี้ถูกสวมคู่กับสร้อยคอ Question Mark และต่างหู Plume de Paon จากคอลเลกชั่น Nature Triomphante ผลงานเหล่านี้ถ่ายทอดเสน่ห์ที่เมซงมีต่อโลกแห่งธรรมชาติ ผ่านลวดลายขนขนนกยูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Boucheron ที่ดูพลิ้วไหวและสมจริง นับตั้งแต่การก่อตั้งเมซงในปี 1858 เฟรเดอริก บูเชอรงได้นำความงดงามและความเป็นอิสระของธรรมชาติมาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งยังคงต่อยอดและปรากฏอยู่ในผลงานร่วมสมัยของเมซงมาจนถึงปัจจุบัน

Plume de Paon from Nature Triomphante Collection
ต่างหูแบบคลิปและกำไลที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเข็มกลัดได้ ทั้งหมดจาก Plume de Paon ในคอลเลกชั่น Nature Triomphante ถ่ายทอดความหลงใหลของเฟรเดอริก บูเชอรงที่มีต่อความงดงามของธรรมชาติได้อย่างชัดเจน งานออกแบบของเขามักสะท้อนจิตวิญญาณอันเป็นอิสระ ดุจผืนป่าที่ไม่อาจถูกจำกัดกรอบ นับตั้งแต่ปี 1858 ธรรมชาติยังคงเป็นแรงบันดาลใจอันไม่รู้จบของเมซง Boucheron และผลิบานอยู่ในทุกคอลเลกชั่นมาจนถึงปัจจุบัน

The Signature Collections: Quatre Collection, Architecture collection, Animaux de Collection, and Serpent Bohème
คอลเลกชั่น Quatre เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 ได้นำลายเส้นกราฟิกอันเป็นเอกลักษณ์และความร่วมสมัยมาสู่โลกของ Boucheron จนกลายเป็นผลงานไอคอนิกที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับแรงบันดาลใจหลักทั้งสี่ของเมซงได้อย่างงดงาม และเปี่ยมไปด้วยลักษณะเฉพาะตัวและมิติที่หลากหลาย Quatre Classique ถ่ายทอดเสน่ห์ความงดงามไปควบคู่กับจิตวิญญาณอันล้ำสมัย ตัวเรือนรังสรรค์จากทองคำสีเหลือง ทองคำสีชมพู ทองคำขาว และ PVD สีน้ำตาล แถบทั้งสี่ที่ผสานกันอย่างลงตัวนี้ คือสัญลักษณ์แห่งความร่วมสมัย มรดกและความประณีตของเมซง Boucheron

สร้อยคอ Mauve จากคอลเลกชั่น Signature รังสรรค์จากทองคำขาว แพลทินัม และมรกตทรงหยดน้ำสีเขียว ส่วนแหวน Solitaire 26 Vendôme จากคอลเลกชั่น Architecture สะท้อนแนวคิดของเมซงที่เชื่อมโยงงานออกแบบกับสถาปัตยกรรมในแต่ละยุคสมัย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตและเส้นสายของศิลปะยุค Art Deco ถ่ายทอดออกมาเป็นดีไซน์ที่เรียบหรูและมีเอกลักษณ์ของเมซงอย่างชัดเจน

ต่างหู สร้อยคอ แหวน และกำไล Vendôme Lisere จากคอลเลกชั่น Architecture ได้รับแรงบันดาลใจจากผังของจัตุรัสปลาส ว็องโดม อันเป็นศูนย์กลางของเมซง สร้อยคอชิ้นนี้ถูกออกแบบให้สวมแนบไปกับผิว เพื่อเผยสไตล์อันโดดเด่นของผู้สวมใส่ มอทิฟทั้งสี่สิบเอ็ดลายในสไตล์ Art Deco โดดเด่นด้วยดีเทลเฉพาะของ Boucheron และเพชรเจียระไนทรงสี่เหลี่ยมมรกต ถ่ายทอดเส้นสายแบบกราฟิกที่ผสานเข้ากับเสน่ห์แบบปารีเซียง ซึ่งเป็นหัวใจของเมซงอย่างแท้จริง

กำไลและแหวนจาก Cheval de l’Opéra ในคอลเลกชัน Animaux de Collection ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากโลกของสัตว์ ผ่านมุมมองของผู้ก่อตั้งที่ใส่ใจรายละเอียดตามธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะถ่ายทอดออกมาอย่างประณีตในทุกองค์ประกอบ ส่วนต่างหูจากคอลเลกชัน Serpent Bohème หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Boucheron โดดเด่นด้วยมอทิฟหยดน้ำและงานทองแกะลายอันพิถีพิถัน ผสานเสน่ห์แบบโบฮีเมียนที่งดงามและเหนือกาลเวลา

นอกจากนี้ ในคอลเลกชั่น Animaux de Collection ยังมีเรื่องราวของ Wladimir (วลาดิเมียร์) แมวผู้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของ Boucheron จากบันทึกในคลังเอกสารของเมซง Wladimir ปรากฏอยู่ในผลงานของ Boucheron มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งในรูปแบบเข็มกลัดและชิ้นงานเชิงศิลป์ต่าง ๆ

ในปี 1978 เขาได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อปรากฏตัวในแคมเปญโฆษณาพร้อมสวมสร้อยคอไฮจิวเวลรี่ของ Boucheroln แคมเปญดังกล่าวได้เผยแพร่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 9 ปี จนถึงปี 1987 ทำให้ Wladimir กลายเป็นส่วนหนึ่งของเมซงและเป็นภาพจำที่อยู่ในใจผู้ชื่นชอบตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาในปี 2018 แคลร์ ชวส์น ได้รังสรรค์คอลเลกชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Wladimir พร้อมถ่ายทอดบุคลิกของเขาผ่านทักษะอันประณีตของช่างฝีมือแห่งเมซง ดวงตาของ Wladimir ถูกออกแบบให้ส่องประกายด้วยการซ้อนชั้นอัญมณี ซึ่งยังคงสอดคล้องกับภาพลักษณ์จากแคมเปญปี 1978 ที่เขาปรากฏพร้อมสร้อยคอประดับอัญมณีจากคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ของเมซง