Last updated: 17 ส.ค. 2561 | 1573 จำนวนผู้เข้าชม |
ในปี 2005 Longines เปิดตัว The Longines Master Collection เพื่อตอบโจทย์ความต้องการนาฬิกาเรียบหรูสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันที่เหมาะสมลงตัวกับข้อมือผู้ชายและผู้หญิง โดยนอกจากสามารถสวมใส่ออกงานราตรีหรูหรายามค่ำคืนได้แล้ว ยังสามารถสวมใส่ในวันทำงานและวันหยุดที่เข้ากับชุดทำงานหรือชุดลำลองทุกรูปแบบอีกด้วย นับแต่นั้นเป็นต้นมา คอลเลกชั่นดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ซึ่งทำยอดขายสูงสุดเมื่อเทียบกับคอลเลกชั่นอื่นๆ ภายในแบรนด์ ตอกย้ำถึงสัญลักษณ์แห่งการผลิตนาฬิกาคุณภาพดีเยี่ยมเชื่อถือได้ของแบรนด์ที่มีมายาวนานกว่า 150 ปี
ในปี 2018 แบรนด์ปรับปรุงพัฒนา The Longines Master Collection ให้มีความสดใหม่ทันสมัยตอบรับกับกระแสนิยมในยุคปัจจุบัน ซึ่งเพิ่มตัวเรือนขนาดต่างๆ และขัดเกลาองค์ประกอบของดีไซน์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยไม่บั่นทอนความคลาสสิกไร้กาลเวลาของแบรนด์ลงแม้แต่น้อย ล่าสุดแบรนด์เผยโฉมนาฬิกาแห่งคอลเลคชั่น The Longines Master Collection รุ่นหน้าปัดเฉดสีใหม่อย่างน้ำเงินเข้มอันโดดเด่นเพื่อเป็นทางเลือกสำคัญของผู้หลงใหลที่ชื่นชอบสีน้ำเงินเป็นพิเศษ
The Longines Master Collection มาพร้อมด้วยนาฬิกาเรียบหรูตัวเรือนสตีลขัดเงาที่มีขนาดให้เลือกระหว่าง 42.0 มิลลิเมตรและ 29.0 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 30 เมตรที่สามารถกันคราบเหงื่อและน้ำกระเซ็นจากการสวมใส่ปกติ ผนึกคริสตัลแซฟไฟร์ที่กันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องกังวลเรื่องริ้วรอยที่เกิดจากการเสียดสีเวลาสวมใสใช้งาน โดดเด่นด้วยหน้าปัดปัดด้านแบบซันเบิร์สสีน้ำเงินเข้มที่มีชุดเข็มกลางทรงใบไม้สีเงินขัดเงา แสดงผลวันที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ติดตั้งหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยม สำหรับรุ่นตัวเรือนขนาด 29.0 มิลลิเมตรมีหน้าปัดสีเดียวกันที่ประดับเพชรน้ำงามระดับ Top Wesselton VS 12 เม็ดน้ำหนักรวม 0.034K เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้หญิง
ภายในตัวเรือนขนาด 42.0 มิลลิเมตรติดตั้งกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ L619/888 ทำงานที่ความถี่ 25,200 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานนาน 64 ชั่วโมง ส่วนรุ่นตัวเรือนขนาด 29.0 มิลลิเมตรขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ L595/592 ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานนาน 40 ชั่วโมง ทั้งหมดเป็นกลไกสวิสที่มีคุณภาพและความเที่ยงตรงเชื่อถือได้
The Longines Master Collection ประกอบเข้าสายสตีลและสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มแล้วแต่รุ่น ซึ่งไม่เพียงแค่สวยหรูเข้ากับชุดทำงานหรือชุดลำลอง แต่ยังมีความทนทานที่รองรับการสวมใส่ใช้งานหนักๆ อีกด้วย ทั้งนี้นาฬิการุ่นล่าสุดจากคอลเลกชั่นดังกล่าวยังคงสะท้อนความเรียบหรูแห่งแบรนด์ที่มีมายาวนานอยู่เช่นเคย
9 พ.ย. 2563
23 ก.พ. 2565