Last updated: 24 เม.ย 2565 | 871 จำนวนผู้เข้าชม |
นาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมถือเป็นวัตถุที่เฉพาะเจาะจงซึ่งผู้ผลิตนาฬิกาส่วนใหญ่ไม่กล้ารับมือ เป็นรูปแบบที่แตกต่าง แปลกแยก และแหวกแนว ที่ไม่มีใครรู้จักวิธีการปรับแต่งมานานหลายทศวรรษ ที่ยังคงรอเราอยู่! Hublot ตัดสินใจจะทำและสำรวจพลังของมัน ด้วยการสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาที่ไม่เหมือนใครอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกันกับรุ่นอื่นๆ ของ Hublot, Square Bang Unico ไม่มีสิ่งใดมาเทียบเท่า! Ricardo Guadalupe / HUBLOT CEO
มีอะไรที่ยังไม่ได้สำรวจในการผลิตนาฬิกาหรือไม่? นี่เป็นคำถามที่แผนก R&D ของ Hublot ถามตัวเองทุกวัน เมื่อคุณได้สร้างวัสดุที่ทนทานที่สุด จัดตั้งการเป็นพันธมิตรที่บ้าคลั่งที่สุด และพัฒนาความสลับซับซ้อนที่ไม่ธรรมดา คำตอบมักจะเรียบง่ายมาก... นั่นก็คือรูปทรง ปัจจุบัน Hublot มีความเชี่ยวชาญ 3 รูปแบบด้วยกัน: นาฬิกาทรงกลม นาฬิการูปทรงบาร์เรล และ MPs ซึ่ง 'ผลงานชิ้นเอก' เหล่านี้ล้วนแตกต่างจากทั่วไป
วันนี้รูปทรงที่ 4 ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้น: สี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ทำให้ Hublot หลงใหลจากความท้าทายอันหลากหลาย สิ่งแรกคือกลไก เนื่องจากทุกคาลิเบอร์จะมีวงล้อที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานจึงจำเป็นต้องมีกลไกในแบบทรงกลม หากคุณต้องการที่จะวางกลไกทรงกลมให้เข้ากับตัวเรือนสี่เหลี่ยมอย่างกลมกลืนคุณต้องมีสไตล์ที่เฉพาะเจาะจงมาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ผลิตนาฬิกาส่วนใหญ่จึงต้องซ่อนกลไกของพวกเขาเอาไว้ เพื่อสร้างภาพลวงตาของรูปทรงกลไกหรือไม่ก็เพราะพวกเขาล้มเหลวในการค้นหารูปแบบที่สวยงามได้
Hublot ตัดสินใจที่จะใช้ทิศทางที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง: ช่างผลิตนาฬิกาของเราไม่ปกปิดกลไก Unico ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของเราเอง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของช่างผลิตนาฬิกาแห่งเมือง Nyon และเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบส่วนใหญ่มานานกว่า 10 ปี กลไกโครโนกราฟที่มีคอลัมน์ วีลล์ซึ่งสามารถมองเห็นได้ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขณะที่ระบบ bicompax (ไบคอมแพค) เผยอยู่บนหน้าปัดเพื่อให้เห็นการทำงานภายในที่เป็นความลับ
ความท้าทายประการที่สองคือโครงสร้างส่วนประกอบของตัวเรือน ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้สอดคล้องกับ DNA ของ Hublot โดยมีส่วนกลางของตัวเรือนที่แต่งด้วยเพลทด้านบนและด้านล่างเพื่อให้สามารถผสมผสานและปรับเปลี่ยนรูปแบบต่างๆ ได้มากมาย แต่คราวนี้เป็นในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดังนั้นจึงทำให้การกันน้ำเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมาก - Hublot เอาชนะความท้าทายนี้ด้วยการรับประกันการกันน้ำที่ 100 เมตร ขนาดของตัวเรือนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยให้ความสบายขณะสวมใส่บนข้อมือคล้ายกับรุ่น Big Bang ขนาด 42 มม. เป็นการสืบเชื้อสายมาจากรุ่นไอคอนของแบรนด์ที่สามารถเห็นได้ในรายละเอียดอันนับไม่ถ้วน
อย่างแรกเลย คือโครงสร้างแบบแซนด์วิชของหน้าปัด ซึ่งให้ความลึกในระดับต่างๆ และให้ความรู้สึกทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างสูง เช่นเดียวกับ Big Bang หน้าปัดของ Square Bang Unico ใช้แซฟไฟร์ขนาดใหญ่เพื่อให้มองเห็นการทำงานของกลไก Unico ได้อย่างชัดเจน และยังใช้เข็มนาฬิการูปทรงเดียวกันอีกด้วย
ต่อมา จะเห็นได้ว่าสกรู (ที่ได้ใช้งานจริง) ทั้ง 6 ตัวบนขอบหน้าปัดได้ถูกวางไว้ในตำแหน่งเดียวกับรุ่น Big Bang ด้านข้างทั้ง 2 ด้านของ Square Bang คุณจะพบ 'ears' จากตัวเรือนของ Big Bang เช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อความสมดุลย์ในการออกแบบและปกป้องตัวเรือนไปในขณะเดียวกัน สำหรับสายนาฬิกานอกจากในระบบ One Click ที่ได้รับความนิยมอย่างมากของรุ่น Big Bang และพื้นผิวยางแล้ว สกรูสองตัวยังถูกยึดไว้ตรงกลางเพื่อเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง อีกทั้ง Square Bang ยังใช้วัสดุเช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า อันได้แก่ ไททาเนียม เซรามิก และคิงโกลด์ รวมถืงเซรามิก 'All Black' ที่มีชื่อเสียง
สุดท้าย กับสายแพทเทิร์นลวยลายใหม่ 'chocolate squares' (ช็อกโกแลต สแควร์) ที่เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์ของ Square Bang ต้องขอบคุณระบบเปลี่ยนสาย (One Click) ที่ให้คุณสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนาฬิกาได้ในคลิกเดียว อาทิ สายยางในแบบต่างๆ สายหนังจระเข้ และสายหนังสัมผัสนุ่มที่จะออกมาในเร็วๆ นี้
5 รุ่นในตัวเรือนขนาด 42 มม. ที่ออกมา 3 รุ่นแรกทำจากวัสดุไทเทเนียม, เซรามิกสีดำ หรือ คิง โกลด์ ส่วนอีก 2 รุ่นเป็นการผสมผสานระหว่างไทเทเนียม หรือ คิง โกลด์ กับขอบหน้าปัดเซรามิกสีดำ แต่ละรุ่นมาพร้อมกับสายยางสีดำและตัวล็อคแบบบานพับในวัสดุเดียวกันกับตัวเรือน ทำงานอย่างเที่ยงตรงด้วยกลไก HUB1280 Unico ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตัวเอง ระบบออโตเมติกโครโนกราฟ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนทั้งหมด 354 ชิ้น เดินด้วยความถี่ 4 Hz (28,800 vib/h)
ตามธรรมเนียมของ Hublot การตกแต่งขั้นสุดท้ายอย่างไร้ที่ติและให้ความรู้สึกที่ทันสมัย: สกรูขัดเงาและพ่นทราย เม็ดมะยมที่ครอบด้วยยาง ปุ่มกดที่ตกแต่งด้วยยางในแบบ 'chocolate squares' พื้นซาตินขัดมัน และเข็มชุบโรเดียมหรือทอง 5N ในแต่ละรุ่น ลวดลายของสายถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อ Square Bang โดยเฉพาะ ประกอบด้วยแถวสี่แถว (เช่นเดียวกันกับด้านทั้งสี่ด้านของตัวเรือน) ของสี่เหลี่ยมแบบนูน (เช่นเดียวกันกับขอบหน้าปัดที่อยู่บนตัวเรือน)
รุ่น All Black สำหรับนักสะสม มีจำนวนจำกัดเพียง 250 เรือน
หากคุณต้องเลือกเพียงหนึ่งเรือน ก็ควรจะต้องเป็นเรือนนี้ 'Square Bang Unico All Black' เช่นเดียวกับรุ่น All Black ต่างๆ จะมีการผลิตเพียง 250 เรือนเท่านั้น – เพียงรุ่นเดียวของคอลเลกชัน Square Bang Unico ที่เป็นรุ่นจำนวนจำกัด
มากกว่า 15 ปีหลังจากที่ได้รับการประดิษฐ์คิดค้นขึ้น All Black ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความหลากหลายรอบด้านและพลังของมันอีกครั้ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในการกลับมาอีกครั้งกับ Square Bang Unico ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือน ขอบหน้าปัด ปุ่มกด สาย เพลท หรือตำแหน่งบอกชั่วโมง ล้วนมีสีดำอยู่บนพื้นผิวทั้งหมด ขณะที่มีการขัดเงาหรือเคลือบปัดด้านซาตินสลับกันเพื่อเผยความละเอียดอ่อนที่ปรากฏต่อสายตาเจ้าของเท่านั้น เซรามิกและไทเทเนียมมาบรรจบ ประสาน และผสานเข้าด้วยกัน เป็นดีไซน์หายากสำหรับนักสะสมที่ชอบเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร
HUBLOT
ก่อตั้งขึ้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี ค.ศ. 1980 HUBLOT (อูโบลท์) ได้สร้างนิยามใหม่ขึ้นด้วยนวัตกรรมของตน ซึ่งเริ่มต้นมาจากการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครระหว่างทองและยาง และนำมาสู่ปรัชญา “The Art of Fusion” ("ศิลปะแห่งการผสมผสาน") ที่เกิดจากแนวคิดและจินตนาการของประธานบริษัทผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ อย่าง ฌ็อง-โคลด บีเวอร์ (Jean-Claude Biver) ร่วมกับพลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าของ Ricardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป) ซีอีโอของแบรนด์ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012
การเปิดตัวของนาฬิการะดับไอคอนที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย อย่าง Big Bang (บิ๊ก แบง) ในปี ค.ศ. 2005 ได้วางเส้นทางให้กับการสร้างสรรค์คอลเลกชันระดับแฟล็กชิพใหม่ ๆ ของแบรนด์ขึ้นตามมา เช่น Classic Fusion (คลาสสิค ฟิวชั่น), Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง) พร้อมด้วยหลากหลายความสลับซับซ้อน นับตั้งแต่ในแบบเรียบง่ายไปจนถึงความซับซ้อนในระดับสูง ที่ได้สร้างรากฐานให้กับ DNA (ดีเอ็นเอ) อันสุดพิเศษไม่เหมือนใคร และทำให้มั่นใจได้ถึงการเติบโตอย่างน่าประทับใจของแบรนด์
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งประเพณีและความเชี่ยวชาญอันล้ำสมัย รวมถึงปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า “Be First, Different and Unique” ("เป็นที่หนึ่ง แตกต่าง และมีเอกลักษณ์) Hublot ยังคงเดินนำหน้าเสมอ ผ่านการสร้างสรรค์ด้วยนวัตกรรมแห่งวัสดุ อาทิ Magic Gold (เมจิก โกลด์) กันรอยขีดข่วน, เซรามิกในหลากหลายโทนสี และแซฟไฟร์ ไปจนถึงการรังสรรค์กลไกซึ่งผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง เช่น Unico (ยูนิโค), Mega-10 (เมกา-10), Tourbillon (ทูร์บิญอง)
Hublot ยังอุทิศตนอย่างมุ่งมั่นให้กับการสร้างสรรค์แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) ด้วยอนาคตอันเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ อนาคตซึ่งผสมผสานเข้ากับงานสำคัญระดับโลกต่างๆ ในยุคสมัยของเรา ทั้ง FIFA World CupTM (ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ), UEFA Champions LeagueTM (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก), UEFA EUROTM (ยูฟ่า ยูโร) รวมถึงเหล่าแอมบาสซาเดอร์ชั้นยอดของยุคนี้ อาทิ Chiara Ferragni (เคียร่า แฟร์รานี่) Kylian Mbappé (กีลียาน อึมบาเป), Usain Bolt (ยูเซน โบลต์), Pelé (เปเล่), Novak Djokovic (นอวาก จอกอวิช)
ร่วมค้นพบจักรวาลแห่ง Hublot ได้ที่เครือข่ายบูติกของเรา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลักทั่วโลก ได้แก่ เจนีวา, ปารีส, ลอนดอน, นิวยอร์ก, ฮ่องกง, ดูไบ, โตเกียว, สิงคโปร์, ซูริก และที่ HUBLOT.com
7 ต.ค. 2567
29 ก.ย. 2567
29 ก.ย. 2567