AURELIA RABIN

Last updated: 26 ธ.ค. 2567  |  206 จำนวนผู้เข้าชม  | 

AURELIA RABIN

น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย และน้ำดื่มก็มีผลต่อสุขภาพอย่างยิ่ง น้ำดื่มบริสุทธิ์ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แต่น้ำแร่นั้นให้มากกว่าความสดชื่น ด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติที่ผ่านการศึกษาและวิจัยแล้วว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Evian (เอเวียง) ใช้น้ำแร่ธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศฝรั่งเศส ที่ไหลรินสู่ เอเวียง เลส์ แบงส์ เมืองเล็กๆ บนชายฝั่งทะเลสาบเจนีวา และใช้แหล่งน้ำแร่จากแหล่งเดียวมาตลอดนับจากปี ค.ศ.1789 เป็นต้นมา ตำนานของน้ำแร่เอเวียงในการช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่ความโดดเด่นของน้ำแร่เอเวียงไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แม้แต่รสชาติของน้ำแร่ก็ยังแตกต่างเช่นกัน ซึ่ง Aurelia Rabin (ออเรเลีย ราบิน) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ Evian Volvic Alpro (เอเวียง วอลวิค อัลโปร) เผยถึงคุณสมบัติของน้ำแร่เอเวียงที่ได้รับความนิยมในตลาดพรีเมียมทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มที่ให้ความสนใจต่อเรื่องสุขภาพร่างกายและรสชาติที่แตกต่างจากน้ำเปล่าทั่วไป


Q: น้ำแร่เอเวียงมีราคาค่อนข้างสูงในตลาด แต่เหตุใดจึงได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง?
A: เอเวียงเป็นแบรนด์น้ำดื่มระดับพรีเมี่ยมชั้นนำอันดับหนึ่งในประเทศไทยและในอีกกว่า 80 ประเทศทั่วโลก จากการสำรวจของเราพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ซื้อน้ำแร่เอเวียงนั้น มาจากภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของแบรนด์ รวมไปถึงคุณประโยชน์ของแร่ธาตุที่มีคุณภาพสูงซึ่งพวกเขาไว้วางใจได้ แร่ธาตุที่มีคุณค่ายังมาพร้อมกับความเพลิดเพลินในรสชาติที่สะอาดและสดชื่น

นอกจากนี้ เรายังตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมด้วยการเสิร์ฟในสถานที่ซึ่งจำหน่ายสินค้าคุณภาพดีที่สุดในโลก หรือการสร้างความร่วมมือระหว่างแบรนด์เอเวียงกับนักออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูง เช่น Balmain (บาลแมง) หรือ Moncler (มงแคลร์) รวมไปถึงการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในกีฬาชั้นนำต่างๆ เช่น รายการแข่งเทนนิสของ Wimbledon (วิมเบอดัน) US Open (ยูเอส โอเพ่น) และ Tha Amudi Evian Championship (ดิ อมุนดิ เอเวียง แชมเปียนชิป) เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้สะท้อนความเป็นแบรนด์พรีเมียมที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคซึ่งใส่ใจในเรื่องสุขภาพและการแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดได้เป็นอย่างดี

Q: เทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคในกลุ่มระดับกลางและระดับสูงมีอะไรบ้างในมุมมองของคุณ?
A: ดิฉันคิดว่ากระแสเรื่องสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายยังเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หลังการระบาดครั้งใหญ่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้กระแสด้านสุขภาพเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้นๆ 

การแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการให้คุณค่ากับเรื่องราวหรือสิ่งต่างๆ ของผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สินค้าที่ผู้บริโภคแสวงหามีทิศทางในเรื่องจิตสำนึกของชุมชน การเชื่อมโยง รวมถึงสินค้าที่สามารถช่วยให้ปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ อีกทั้งผู้บริโภคยังมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นจึงมองหาการให้ข้อมูลที่เป็นจริง  ไม่เกินจริง มีความโปร่งใส ชัดเจนและมีความจริงใจจากแบรนด์ต่างๆ

อีกเทรนด์ในโลกที่มองเห็นได้ชัดในตอนนี้คือ ผู้คนทั่วโลกเริ่มออกเดินทางกันอีกครั้ง หลายประเทศเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยว ทั้งในทวีปเอเชียซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย  แม้จะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าประเทศอื่นหากเทียบกับยุโรป แต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มด้านทิศทางการท่องเที่ยวในเชิงบวก และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวอยากไปเยือน

เมื่อผู้คนเริ่มออกเดินทาง น้ำดื่มก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาให้ความใส่ใจในระหว่างการเดินทาง พวกเขาต้องการน้ำดื่มที่ดีและมองหาแบรนด์ที่คุ้นเคยและไว้วางใจได้ และเมื่อคิดถึงเอเวียง ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งยังมีคุณภาพสูงและไว้วางใจได้ หลายคนรู้เรื่องนี้ดี และเป็นเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ของเราจึงให้ความสำคัญในการจัดวางแบรนด์ “เอเวียง” ให้เห็นในทุกจุดเช็คพอยท์ระหว่างการเดินทางของผู้คนในหลายๆ ประเทศ

Q: ใครคือลูกค้าของเอเวียงบ้าง?
A: เอเวียงถือกำเนิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส และสามารถหาซื้อได้ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลกแล้ว ด้วยความที่เอเวียงเป็นแบรนด์แบบพรีเมียม แม้ลูกค้าส่วนใหญ่ของเรามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้มีรายได้ระดับสูงก็จริง แต่เราก็ให้บริการลูกค้าทุกกลุ่มอายุที่มีวิถีการใช้ชีวิตในสไตล์ของการมีสุขภาพที่ดี และต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่ คนต่างถิ่นที่ย้ายมาอาศัยในที่ต่างๆ หรือนักท่องเที่ยว ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทยก็มีลูกค้าของเอเวียงที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ทั้งการเลือกสรรหาอาหารเพื่อสุขภาพ ชื่นชอบบริการสปา หรือเข้ายิมเป็นประจำ รวมไปถึงลงทุนกับสุขภาพ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพวกเขา เป็นต้น

Q: สิ่งที่ทำให้เอเวียงเหนือกว่าน้ำแร่แบรนด์อื่นๆ ทั่วโลกคืออะไร?
A: สิ่งสำคัญก็คือคุณภาพของน้ำที่เรานำมาบรรจุในแพ็คเกจของเรา ต้องเข้าใจว่าคุณภาพของน้ำประปาในหลายๆ ประเทศนั้นไม่ได้ดีมาก อีกทั้งในบรรดาน้ำบรรจุขวด ย่อมมีความแตกต่างกันในด้านคุณภาพ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำนั้นมาจากแหล่งใด กระบวนการทำให้บริสุทธิ์และการตรวจสอบคุณภาพที่พวกเขานำมาใช้นั้นเป็นอย่างไร

สำหรับน้ำดื่มเอเวียงนั้น เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่มาจากเทือกเขาแอลป์ จึงมีแร่ธาตุต่างๆ ตามธรรมชาติเป็นองค์ประกอบ อีกทั้งมีค่าพีเอช (Ph) 7.2 ที่มีความเป็นกลาง ซึ่งทำให้เอเวียงมีลักษณะเฉพาะ  มีรสชาติที่สดชื่น  เพราะธรรมชาติได้มอบทุกสิ่งที่จำเป็นแก่น้ำแร่ ซึ่งเอเวียงไม่ได้แต่งเติมสิ่งใดเพื่อเพิ่มรสชาติหรือสารใดๆ ลงไปเลย  ความมีเอกลักษณ์และแร่ธาตุอันสมดุลของน้ำดื่มเอเวียง ทั้งค่าพีเอชที่เป็นกลางของน้ำ จึงทำให้เหมาะกับทุกคน ซึ่งในประเทศฝรั่งเศสต้นกำเนิดของแบรนด์เอง เอเวียงคือแบรนด์น้ำดื่มที่ดีที่สุดสำหรับคนทุกวัย แม้แต่เด็กทารกและสตรีมีครรภ์ก็สามารถดื่มได้

มีจุดประสงค์เพื่อปลุกความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครและให้ความสดชื่น ผลลัพธ์ที่ได้คือความสดใส เปล่งปลั่ง และสดชื่น รายละเอียดสินค้า ไฮเดรชั่นที่สร้างจากภูเขาจากเทือกเขาแอลป์ฝรั่งเศส ความสดชื่นและรสชาติของน้ำเอเวียงที่คุณรู้จักและชื่นชอบ พร้อมประกายแวววาว

เอเวียงสปาร์คกิ้ง หรือน้ำแร่เอเวียงชนิดมีฟอง เป็นอีกความสดชื่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทยด้วย ซึ่งการสร้างสรรค์นี้ให้ผลลัพธ์คือให้ความรู้สึกบางเบาเมื่อดื่ม รวมถึงความสดใส และยังสามารถช่วยย่อยอาหารได้ด้วย เพราะส่วนประกอบของน้ำมีโซเดียมต่ำ ที่จะไม่เปลี่ยนรสชาติอาหารหรือไวน์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เชฟและผู้รินไวน์ยืนยันว่าชื่นชอบน้ำแร่เอเวียงสปาร์คกิ้ง

Q: ดานอน (Danone) มีกระบวนการรักษาคุณภาพของน้ำแร่ นับตั้งแต่จากแหล่งที่มาสู่กระบวนการบรรจุลงขวดนั้นแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างไร?
A: น้ำแร่ของเอเวียงเริ่มต้นที่น้ำฝนและหิมะบนเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส ซึ่งได้กลั่นกรองโดยธรรมชาติ คือ ผ่านชั้นหินธารน้ำแข็งที่ถูกปกปักรักษามานานกว่า 15 ปี และสะสมแร่ธาตุต่างๆ ตามธรรมชาติ และอิเล็กโทรไลต์ (electrolyte) ไว้ในระหว่างทางก่อนที่จะปรากฏออกมา ณ แหล่งน้ำเอเวียง

ทุกๆ วันทางเอเวียงมีการทดสอบคุณภาพของน้ำแร่อย่างเข้มงวดถึง 300 ครั้ง จึงยืนยันได้ว่าน้ำแร่มีความบริสุทธิ์มากๆ และจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้แบรนด์เอเวียงในการทดลองต่างๆ ในฐานะที่ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานในห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 

เอเวียงปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด โรงงานของเราได้รับการตรวจสอบและได้มีผลตอบรับด้วยการรับรองที่แม่นยำทุกปี ทำให้เอเวียงเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพระดับนานาชาติถึง 16 มาตรฐาน มีความปลอดภัยทางอาหารและมีความยั่งยืนด้วย

Q: เอเวียงกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดให้แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือไม่ และที่ประเทศไทยมีกลยุทธ์การตลาดต่างจากประเทศอื่นๆ อย่างไร?
A: การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดระดับโลกของเอเวียง ส่งต่อให้กับทีมของเราในทุกๆ ประเทศปฏิบัติตาม พวกเรามีความเข้าใจกลยุทธ์ร่วมกันอย่างแท้จริง  และรวมถึงแคมเปญและนวัตกรรมระดับโลกด้วย อย่างเช่น การผลิตขวดใส่น้ำแร่ในแบบจำนวนจำกัด (limitededition) ที่ออกแบบโดยศิลปินและนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งปล่อยออกมาจำหน่ายในหลายตลาด

อย่างไรก็ตาม เรายอมรับว่ายังมีความแตกต่างกันเล็กน้อยของตลาดในแต่ละประเทศ ซึ่งทางเอเวียงเองก็เชื่อในการคงไว้ซึ่งความคล่องตัวของทีมงาน สำหรับการปรับใช้แคมเปญและยุทธวิธีของพวกเรา ให้ตอบสนองต่อความต้องการรอบด้าน ในพื้นที่ตามความจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศไทยนี้ เรื่องของสุขภาพและความงามมีความเชื่อมโยงกันเป็นอย่างมาก อีกทั้งเราได้สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องนี้ในข้อความต่างๆ ที่เราใช้ในการสื่อสารด้วย และสำหรับนักท่องเที่ยวเองนั้นก็มาจากฐานผู้ซื้อของเราซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ เราจึงพยายามแสดงตัวและวางขายในสนามบินต่างๆ และตามแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ สุดฮิต เช่น ภูเก็ต เกาะพีพี เป็นต้น

อีกทั้งเอเวียงยังลงทุนกับการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อาทิ เราทำงานร่วมกับอินฟูเลนเซอร์ในพื้นที่ซึ่งมีความรอบรู้ทางดิจิทัล เพื่อส่งข่าวสารให้ลูกค้าคนไทย เราพบว่าอินฟูเลนเซอร์ไทยเป็นหนึ่งของคนที่สร้างสรรค์เนื้อหาโซเชียลมีเดียได้ดีที่สุดของโลก

นอกจากนี้ เรายังทำงานอย่างใกล้ชิดกับเชฟ เจ้าของโรงแรม และเจ้าของร้านอาหารในพื้นที่  อย่างเช่นจัดงาน ไฟน์ไดนิ่งกับอาหารชั้นเลิศต่างๆ และการสร้างสรรค์อื่นๆ เชฟ Arnaud Dunand (อาร์โนด์ ดูนงด์) เจ้าของร้านอาหารพรีเมียมชื่อ Maison Dunand (เมซง ดูนงด์ ) ในกรุงเทพฯ คือหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์เอเวียงในระดับภูมิภาค

Q: เกี่ยวกับแคมเปญระดับโลก - ภูเขาแห่งวัยหนุ่มสาว (Mountain of Youth) มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง?
A: แคมเปญล่าสุด คือ การเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คน ‘ใช้ชีวิตแบบเยาว์วัย’ เพราะเเบรนด์ของเราไม่ได้เชื่อเเค่ในเรื่องสุขภาพ เเต่เชื่อในการใช้ชีวิตให้อ่อนวัย และไม่ใช่เเค่ภายนอก เเต่รวมถึงภายในจิตใจด้วย ซึ่งเป็นเป้าหมายของเอเวียงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และผู้คนมากมายยังคงจดจำเหล่าเด็กทารกที่ปรากฏตัวในโฆษณาอันโด่งดังของเราได้

เราเพิ่งปล่อยแคมเปญระดับโลกอันใหม่ชื่อ ‘ภูเขาแห่งวัยหนุ่มสาว’ ซึ่งเป็นไปตามปรัชญาแห่งแบรนด์เอเวียงคือ ‘ใช้ชีวิตแบบเยาว์วัย’ โดยในภาพยนตร์โฆษณา เราต้องการส่งเสริมการมีสุขภาพดี และพลังแห่งความหนุ่มสาว คุณจะเห็นนักปีนเขาคนหนึ่งเดินทางขึ้นไปบนเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส เพื่อค้นหาที่มาของ ‘ภูเขาแห่งวัยหนุ่มสาว’ เป็นการแสดงไอเดียเรื่อง ‘น้ำพุแห่งความเยาว์วัย’ ในระหว่างทาง เขาประสบกับคนท้องถิ่นในทุกช่วงอายุ ที่เข้ามาก่อกวนเขา คนท้องถิ่นผู้ซึ่งก่อร่างสร้างจิตวิญญาณที่สนุกสนาน และมีความอ่อนเยาว์

การสร้างสรรค์ต่างๆ ในภาพยนตร์  อย่างฉากให้เป็นเส้นทางแห่ง ‘ความรื่นเริง’ โดย Pharrell Williams (ฟาเรลล์ วิลเลียมส์) และกำกับโดย Henry Scholgield (เฮนรี สโคลกิลด์) ผู้ที่ได้รับการยกย่อง และเป็นที่รู้จักในผลงานของเขาที่ทำให้กับ Billie Eilish (บิลลี่ ไอลิช) และ Dua Lipa (ดัว ลิปา)

แคมเปญนี้จะดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน ในการใช้ชีวิตแบบคนหนุ่มสาว – โอบรับเอาวิถีชีวิตที่มีความกระปรี้กระเปร่า และความอ่อนเยาว์ไว้ ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม

Q: เอเวียงมีจำหน่ายในหลายช่องทาง - จากการค้าปลีก ไปสู่โรงแรม และร้านอาหาร คุณจัดการกับวิธีการทางกลยุทธ์ที่หลากหลายช่องทางนี้อย่างไรบ้าง?
A: การสร้างสรรค์นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา เพื่อให้มีความเป็นไปได้ในการบริการผู้บริโภคและลูกค้าในทุกช่วงเวลา และทุกช่องทางต่างๆ ที่พวกเขาจับจ่าย ทั้งนี้เอเวียงยังมีข้อมูลไว้ตอบสนองต่อความต้องการในแต่ละช่องทางด้วย เช่น การจัดเตรียม “แก้ว” น้ำแร่สำหรับการทานอาหารชั้นเลิศ รูปแบบ “ขวดขนาดเล็ก” สำหรับวาระโอกาสระหว่างการเดินทาง และสินค้าแพ็คใหญ่สำหรับการค้าปลีก

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของข้อมูลที่เรามีมาจากจุดเริ่มต้น คือการทำความเข้าใจความคิดและกิจธุระที่แตกต่างกันของผู้ซื้อหรือผู้บริโภค เมื่อเอเวียงมีความชัดเจนที่ชัดเจนและลงลึกเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า ก็ทำให้การพัฒนากลยุทธ์และแผนงานเพื่อบริการพวกเขาเกิดขึ้นได้อย่างดีที่สุด เพื่อให้เอเวียงสามารถปรับเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่าย เนื่องจากเราให้บริการในหลากหลายช่องทาง ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีความชัดเจนในเรื่องการจัดลำดับความสำคัญต่างๆ และสื่อสารไปถึงทุกคนในองค์กร รวมถึงหุ้นส่วนซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายของเราด้วย

Q: ทัศนะของเอเวียงในเรื่องความยั่งยืนเป็นอย่างไรบ้าง?
A: น้ำแร่ของเราคือของขวัญแห่งธรรมชาติ จึงให้ความสำคัญในเรื่องของ “ความยั่งยืน” เป็นหัวใจของพันธกิจแห่งเอเวียงมาโดยตลอด เรายอมรับว่ามันต้องใช้ความพยายามร่วมกัน ให้แนวคิดนี้ไปไกลกว่าการจะเป็นบริษัทที่คิดเรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว เอเวียงจึงลงมือทำด้วยความมั่นใจกับสิ่งที่เราทำได้ เนื่องจากเรามองว่านั่นคือความรับผิดชอบของเรา

น้ำแร่เอเวียงมีแหล่งที่มาซึ่งมีความยั่งยืนอย่างที่สุด เราจึงพิทักษ์ไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีมาแต่แรกเริ่มนี้ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง แบรนด์ของเราอุทิศตนมานานกว่าสามทศวรรษ เพื่อปกป้อง “แหล่งน้ำ” ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เราร่วมมือกับเกษตรกรชุมชน และชาวบ้านอีก 13 หมู่บ้านรอบพื้นที่เมืองเอเวียง เลส์ แบงส์  (Evian Les Baines) เพื่อรักษาแหล่งที่มาของน้ำ และไม่เคยเอาอะไรไปมากเกินกว่าที่ธรรมชาติได้จัดหาไว้ให้

สำหรับแพ็กเก็จของเอเวียงนั้น สามารถนำกลับมาใช้ได้ 100% เพราะปัจจุบันนี้ เราผลิตขวดน้ำเอเวียงด้วยส่วนประกอบคือ 43% ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) และเรากำลังทำภารกิจในการทำให้ขวดพลาสติกจาก rPET 100% ภายในปี 2025  โดยไม่รวมฉลากและฝาขวด

โรงงานของเรากำลังทำงานในเรื่องการใช้พลังงานทดแทน 100% นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 เราบรรลุซึ่งการลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 38% และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ด้วยการมีขยะฝังดิน 0% อีกทั้งเอเวียงยังได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อม B Corp ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021 ซึ่งหมายความว่า เอเวียงเป็นที่รู้จักในด้านความโปร่งใสอย่างเต็มภาคภูมิ ในเรื่องน้ำดื่ม และเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการบรรจุขวด เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ในการเข้าร่วมกับชุมชนที่มีมากเกือบ 4,000 บริษัท ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเพื่อความดีงาม

Q: ในมุมมองของคุณ มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับเอเวียง ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบหรือไม่?
A: คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจุดเริ่มต้นของเอเวียงค่ะ น้ำแร่เอเวียงถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1789 โดย Marquis de Lessert (มาร์ควิส เดอ เลเซอร์) ขุนนางชาวฝรั่งเศสที่อาศัยในเมือง Evian-les-Bains (เอเวียง เลส์ แบงส์) วันหนึ่ง ขณะที่เขาออกไปเดินและรู้สึกกระหายน้ำมาก เขาจึงแวะดื่มน้ำจากน้ำพุ ซึ่งเป็นน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ ทำให้เขาได้พบว่า น้ำดื่มนี้เป็นมากกว่าน้ำดื่มธรรมดาทั่วไป ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ดื่มน้ำแร่นี้เป็นประจำ และทำให้อาการป่วยจากโรคกรวยไตทุเลาลง ร่างกายก็กลับแข็งแรงขึ้น นี่เป็นตำนานของเอเวียงที่เล่าขานต่อกันมายาวนาน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้