Last updated: 10 ก.พ. 2568 | 405 จำนวนผู้เข้าชม |
บุลการี (Bvlgari) แบรนด์อัญมณีชั้นสูงจากกรุงโรม ผู้เป็นดั่งสัญลักษณ์ด้านศิลปะแห่งการใช้ชีวิตแนวร่วมสมัยสไตล์อิตาเลียน เปิดตัวบูติกดีไซน์คอนเซปใหม่ อีกทั้งเป็นบูติกดูเพ็กซ์แห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากกรุงโรมสมัยใหม่
แสงสว่างของกรุงโรมยังคงสร้างแรงบันดาลใจและจะคงอยู่ ณ ใจกลางของเมืองนิรันดร์แห่งนี้ และในจิตวิญญาณของบุลการีตลอดไป แนวคิดด้านการออกแบบของบุลการี คือ วิสัยทัศน์ของกรุงโรมสมัยใหม่ พร้อมทั้งเป็นการสดุดีมรดกอันทรงคุณค่าของกรุงโรมที่มีมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ ความยิ่งใหญ่และสง่างามของเมืองนิรันดร์หรือกรุงโรม เปรียบดั่งแหล่งแรงบันดาลใจสำคัญของบูลการีเสมอมา กรุงโรมคือศูนย์กลางแห่งความหลากหลาย ที่จุดประกายจิตวิญญาณความสร้างสรรค์ของบุลการีมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความงดงามทางด้านศิลปะอันหลากหลายและลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,700 ปี ความเชื่อมโยงระหว่างบุลการีคือกรุงโรม และกรุงโรมก็คือบุลการี ซึ่งไม่ใช่ในรูปแบบของการหวนนึกถึงอดีต แต่เป็นการตีความในแบบที่ร่วมสมัยและพัฒนาอยู่เรื่อยไป เพราะบุลการีคือแบรนด์ที่สามารถตีความอดีตให้ทันสมัยด้วยมุมมองที่สดใหม่เสมอ
สัญลักษณ์ของบุลการีถูกผสานเป็นหนึ่งเดียวกับการออกแบบบูติกแห่งนี้ โดยส่วนหน้าของบูติกทั้งสองชั้นได้รับแรงบันดาลใจจากทูโบกาส (Tubogas) อันเป็นสัญลักษณ์ของบุลการี โดยคำว่า "Tubogas" แปลตรงตัวว่า "ท่อของก๊าซ" และด้วยเทคนิคอันเก่าแก่ในการสร้างสรรค์เครื่องประดับ ทำให้เกิดการเชื่อมโลหะอันมีค่าที่มีความยืดหยุ่นสองเส้นเข้าด้วยกันอย่างเชี่ยวชาญโดยไร้การหลอมเชื่อมใด ๆ นับตั้งแต่ช่วงปี 1940 จนถึงปัจจุบัน ทูโบกาส คือสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ โดดเด่น และเหนือกาลเวลาของบุลการี ซึ่งผสมผสานระหว่างอดีตและอนาคตเข้าด้วยกัน ที่บริเวณหน้าบูติกมีเอฟเฟกต์แสงสีสุดพิเศษ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นเจ้าแห่งการเลือกใช้สี
บูติกบุลการีแห่งนี้มีทางเข้าทั้งสองชั้น ตกแต่งด้วยกรอบขนาดใหญ่ที่มีความสมมาตร ทำจากหินทราเวอร์ทิโน่ นาโวนา (Travertino Navona) ซึ่งเป็นหินที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโรมัน และมีรูปทรงเดียวกับกรอบประตูของบูติกแฟลกชิปสโตร์แห่งประวัติศาสตร์ ณ ถนนเวีย เดย์ คอนโดตติ (Via dei Condotti) นอกจากนี้ตัวป้ายหน้าบูติกถูกรังสรรค์ขึ้นจากหินอ่อนโบราณสีดำ ที่มาพร้อมโลโก้บุลการี ตัวอักษรโรมัน โดยการออกแบบตัวอักษรในโลโก้นี้สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของบุลการี
ความรุ่มรวยยังปรากฏอยู่ในรายละเอียดและสัญลักษณ์ต่าง ๆ อย่างดาวแปดแฉกคอนโดตติ (Condotti) บริเวณทางเข้า รังสรรค์จากทองเหลืองที่ฝังลงบนพื้นหินอ่อนคาลเดีย (Caldia) โดยดาวแปดแฉกสุดพิเศษนี้เป็นสัญลักษณ์สากลที่สื่อถึงความสมดุล ความกลมกลืน และลำดับของจักรวาล โดยเส้นทั้งแปดมีความหมายเชื่อมโยงกับสี่ทิศหลัก (เหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก) และเวลา (สองวันอันยาวนานที่สุดของปีและสองวันที่ระยะเวลาเท่ากันของฤดูกาล) ตามตำนานอันโด่งดังเล่าขานไว้ว่า ดาวดวงนี้หมายถึง “Roma Caput Mundi” ซึ่งแปลว่า "กรุงโรมคือศูนย์กลางของโลก" หรือ "ทุกเส้นทางนำพาสู่กรุงโรม" อันเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงทุกบูติกของบุลการีทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกนำมาใช้ที่ถนน เวีย เดย์ คอนโดตติ (Via dei Condotti) ในกรุงโรม
การจัดวางพื้นที่ในบูติกชั้นล่างถูกออกแบบเป็นจตุรัส (piazza) ทรงกลม ที่เป็นจุดศูนย์กลางในโซนทางเข้า ซึ่งนำไปสู่การสำรวจพื้นที่อื่น ๆ ภายในบูติก เหมือนกับที่กรุงโรมเผยสิ่งมหัศจรรย์อันเหนือความคาดหมายแก่ผู้มาเยือน การเยี่ยมชมบูติกจึงเปรียบเสมือนการเดินทางเพื่อชมผลงานอันน่าตื่นตาที่รังสรรค์โดยบุลการี โดยมีทราเวอร์ทีน (Travertine) คือหินสัญลักษณ์ในยุคโรมัน ที่ช่วยมอบความสว่างไสว รวมทั้งความหนักแน่นให้กับการตกแต่งและเสาภายในบูติก จึงกลายเป็นหนึ่งในเฉดสีที่บุลการีใช้เป็นสัญลักษณ์ของความประณีตและหรูหรา ในส่วนของจตุรัสตกแต่งด้วยเสา 8 ต้นสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของกรุงโรม โดยหากมองย้อนกลับไปในอดีตเหล่าศิลปินและสถาปนิกนิยมใช้หินอ่อนและหินทราเวอร์ไทน์เพื่อสร้างอนุสาวรีย์ อาคาร และรูปปั้นอันเป็นอมตะ ซึ่งยังคงมีความสำคัญและความสวยงามตั้งแต่ในอดีตจวบจนปัจจุบัน โดยประเพณีด้านศิลปะแบบอิตาเลียน มุ่งเน้นการเสาะหาความงามที่ไร้กาลเวลา อันเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของบุลการี
ตลอดระยะเวลา 140 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ บุลการี ได้สร้างสรรค์สัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์มากมาย โดยแนวคิดการออกแบบภายในบูติกถือเป็นการสดุดีสัญลักษณ์เหล่านี้ ซึ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์และบอกเล่าเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ ผลงานอันโดดเด่นของบุลการี เช่น เซอร์เพนติ (Serpenti), ดีวาส์ ดรีม (Diva’s Dream), บีซีโรวัน (B01) และ อ๊อกโต (Octo) ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมขนาดเล็กที่ทีมออกแบบได้เลือกใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บูติก ทำให้ภายในบูติกผู้มาเยือนจะได้พบกับสัญลักษณ์ของบุลการีหลายชิ้นที่ได้รับการตีความให้เป็นชิ้นงานศิลปะ โดยผสมผสานการออกแบบแนวอิตาเลียนกับความช่ำชองของช่างฝีมืออิตาเลียนได้อย่างลงตัว
หนึ่งในจุดเด่นของบูติกคือเคาน์เตอร์ที่ไม่มีจุดสิ้นสุดตรงใจกลางจตุรัส ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเซอร์เพนเต (Serpente) ซึ่งสื่อถึงการเคลื่อนไหวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของบุลการี ที่ยังคงยืนหยัดกับรากฐานของแบรนด์ แต่ยังพัฒนาและคงความร่วมสมัยอยู่เสมอ เปรียบดั่งการเติบโตของงูที่ลอกคราบเพื่อการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้แสงสีทองอันมหัศจรรย์ของกรุงโรมเป็นแรงบันดาลใจที่สะท้อนถึงความทรงพลังและเป็นแหล่งของความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งแสงอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงโรมได้อยู่เคียงข้างและเป็นส่วนหนึ่งของบุลการีตลอดมา ตรงจตุรัสกลางบูติกตกแต่งด้วยฉากตาข่าย 4 ชิ้น พร้อมตู้โชว์แบบ 2 ด้าน ซึ่งนำพาความงามและความตระการตาของกรุงโรมมานำเสนอผ่านลวดลายเรขาคณิต ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิหารแพนธีอัน (Pantheon) อันเป็นสัญลักษณ์แห่งสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ
แสงช่วยเสริมสร้างบรรยากาศซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความรู้สึกโดยรวมของสถานที่แห่งนี้ นับเป็นเวลาหลายปีที่แสงอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงโรมได้อยู่เคียงข้างบุลการี โดยการสร้างบรรยากาศราวกันต้องมนต์ ผ่านสองช่วงเวลาอันเป็นสัญลักษณ์ของวัน อย่างรุ่งอรุณ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น และ พลบค่ำ เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ซึ่งแสงสีทองส้มอันอบอุ่นของท้องฟ้ากรุงโรมได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับบูลการีเป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นสีส้มอันเป็นแสงแห่งโรม หรือ "orange luce di Roma" ในพาเลตต์สีของบุลการี
บรรยากาศอันอบอุ่นสร้างสรรค์ขึ้นโดยการผสมผสานระหว่างสี วัสดุ เนื้อสัมผัสอันหลากหลาย และรูปทรงต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้วัสดุที่นุ่มนวลเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับสถานที่ การตกแต่งผนังภายในทั้งหมดเป็นการผสมผสานระหว่างลวดลายที่มีพื้นผิวเป็นริ้วและโค้งคล้ายกับคลื่น เข้ากับผ้าไหมอันล้ำค่าที่เพิ่มความหรูหราผ่านการตกแต่งด้วยทองเหลือง
ภายในบูติกมีบันไดเวียนอันหรูหรา เป็นตัวเชื่อมทั้งสองชั้นของบูติก นำผู้มาเยือนสู่หอรูปทรงโดม (Rotonda) ซึ่งมีผนังพื้นผิวเป็นริ้วไว้สำหรับการจัดแสดงอยู่ 4 ด้าน ประดับด้วยงูสีทองที่มีรูปทรงคดเคี้ยว เพื่อนำท่านสู่ห้องจัดแสดงอัญมณีชั้นสูงที่เปรียบเสมือนโลกแห่งความฝัน โดยมีจุดศูนย์กลางของห้องเป็นโต๊ะหินอ่อนแกะสลักอันโดดเด่น และยังมีตู้โชว์ติดผนังถึง 6 ตู้ ที่ยึดติดกับหินออนิกซ์อันล้ำค่า แต่ละตู้จัดแสดงคอลเลกชั่นอัญมณีชั้นสูงของบุลการี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผลงานชิ้นเอกที่มีเอกลักษณ์ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงความประณีตในการรังสรรค์ เมื่อช่างฝีมือที่บุลการีมีความเชื่อว่าพวกเขากำลังสร้าง "ความตระการตา" ในทุกชิ้นงานด้วยมืออันช่ำชองที่ช่วยยกระดับความงามตามธรรมชาติของอัญมณีให้สูงขึ้นไปอีกขั้น จึงกลายเป็นความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเทียบเคียงได้ อีกหนึ่งความโดดเด่นของห้องนี้คือพื้นโมเสคสีขาวซึ่งเป็นเทคนิคงานฝีมือแบบโบราณอันเป็นที่ชื่นชอบของชาวโรมัน คือการใช้ชิ้นส่วนเล็ก ๆ มาจัดเรียงอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างสรรค์พื้นผิวที่สะท้อนแสงและกระจายแสงได้อย่างงดงามราวกับต้องมนต์ซึ่งคล้ายคลึงกับแสงแดดของกรุงโรม
บูติกแห่งนี้มี 3 ห้องส่วนตัวสุดหรูตามการออกแบบแนวอิตาเลียนร่วมสมัย แต่ยังคงมีความสบายเสมือนกับห้องรับแขก ซึ่งทางแบรนด์ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ผ้าทอที่สวยงามไปจนถึงเทคนิคปูนบนผนังโดยช่างฝีมือ รวมทั้งโคมไฟที่ทำจากกระจกมูราโน และโต๊ะกาแฟที่ทำจากหินออนิกซ์อันล้ำค่า
โดยบุลการีจัดงานเฉลิมฉลองเปิดตัวบูติกสยามพารากอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 17:30 น.เป็นต้นไป
ท่านสามารถเยี่ยมชมบุลการีสยามพารากอนได้ที่ ชั้น M และ ชั้น 1
ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
โทร. +66 2 610 9388
@bvlgari #bvlgari #BvlgariThailand #BvlgariSiamParagon
13 มี.ค. 2568
13 มี.ค. 2568
15 มี.ค. 2568
14 มี.ค. 2568