Last updated: 8 ก.ค. 2568 | 35 จำนวนผู้เข้าชม |
Jewels by Nature (Joyauxpar Nature) คอลเลกชันไฮจิวเวลรีล่าสุดจาก Chaumet คือการหลอมรวมความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติ มอบให้และฝีมือช่างอันวิจิตรเข้าไว้ด้วยกัน ผลงานนี้จึงถือเป็นบทบรรณาการแด่ขุมทรัพย์แห่งพฤกษาและสรรพสัตว์ ในคอลเลกชันนี้ทางแบรนด์ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของโลกแห่งชีวิตประดุจของขวัญอันล้ำค่าที่ควรได้รับการเคารพ อนุรักษ์ และส่งต่อสะท้อนเรื่องราวความผูกพันของธรรมชาติในทุกแง่มุม ทั้งความนิรันดร์กาล ความไม่จีรัง และการฟื้นคืนชีพ ที่ประดับด้วยรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีปีกเป็นองค์ประกอบ เช่น ผึ้งที่เปรียบเสมือนแรงบันดาลใจจากสิ่งมีชีวิตที่ทั้งเรียบง่ายและสูงส่ง เครื่องประดับทั้ง 54 ชิ้น ในคอลเลกชันนี้สะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันกลมกลืนและเปี่ยมด้วยความเคารพระหว่าง Chaumet กับธรรมชาติ ซึ่งดำรงอยู่มากว่า 245 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง Maison ขึ้นมา
บทที่ 1 นิรันดร์กาล
บทแรกเริ่มต้นด้วยหมู่พฤกษาที่สะท้อนวงจรชีวิตอันไม่มีวันสิ้นสุด แรงบันดาลใจอันเปี่ยมพลังที่เวียนกลับมาอย่างต่อเนื่อง พรรณไม้ที่เติบโตอย่างอิสระตามธรรมชาติ อาทิ กุหลาบป่า โคลเวอร์ เฟิร์น และดอกฟีลด์สตาร์ที่ผลิบานเคียงข้างต้นข้าวโอ๊ต ล้วนเป็นพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ซึ่งเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน
Wildrose (Églantier)
แรงบันดาลใจจากเทียร่าชิ้นเอกอันเป็นมรดกทางศิลป์เครื่องประดับชุด Wild Rose ถ่ายทอดความงดงามของเกสรสีเหลืองทองอันอุดมของกุหลาบป่าด้วยการประดับเพชรสีเหลืองชั้นเลิศที่หายากและเปล่งประกายจับตา
เครื่องประดับชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางศิลป์ของ Maison เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกยุค Roaring Twenties เทียร่าใบกุหลาบป่าได้ถูกออกแบบโดย Joseph Chaumet ในปี 1922
เครื่องประดับชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางศิลป์ของ Maison เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกแห่งยุค Roaring Twenties เทียร่าใบกุหลาบป่าได้ถูกออกแบบโดย Joseph Chaumet ในปี 1922 โดยถ่ายทอดรายละเอียดของพฤกษศาสตร์ได้อย่างละเอียดไข่มุกธรรมชาติสื่อถึงดอกกุหลาบที่ยังตูมอยู่อีกทั้งยังได้มีการออกแบบสไตล์ร่วมสมัยซึ่งประดับด้วยเพชรสีเหลืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพชร Fancy Vivid Yellow ขนาด 8.23 กะรัต (VS2) ที่เปล่งประกายโดดเด่นบนสร้อยคอซึ่งสามารถสวมใส่ได้ถึงสามรูปแบบโดยใช้เพียงตัวล็อกเดียวงานชิ้นนี้ใช้เวลากว่า 1,500 ชั่วโมงในการรังสรรค์อย่างประณีตภายในเวิร์กช็อปของ Maison
รูปทรงใบไม้ที่ร้อยเรียงกันอย่างวิจิตรยังถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่เรียบหรูยิ่งขึ้นผ่าน Aigrette ประดับเพชรสุดประณีตส่วนแหวนที่สามารถปรับแปลี่ยนได้นั้นประดับด้วยเพชรทรงสี่เหลี่ยมตัดมุม ซึ่งช่วยขับเน้นอัญมณีหลักขณะที่กลีบดอกไม้ที่บรรจงแกะสลักอย่างประณีตโอบล้อมเพชร Fancy Vivid Yellow น้ำหนัก 5.02 กะรัตระดับ VS1 ซึ่งสามารถถอดแยกออกมาสวมเป็นแหวนเดี่ยวได้อย่างงดงามต่างหูที่เข้าชุดกันเจิดจรัสด้วยเพชรสีเหลืองน้ำงามสองเม็ดขนาด 2.60 และ 2.68 กะรัตสะท้อนความรุ่มรวยและหลากสีสันของธรรมชาติในแบบฉบับของ Chaumet
Oat and Field Star (Avoine&Étoiledeschamps)
เครื่องประดับชุดนี้ถ่ายทอดภาพทิวทัศน์ของรวงข้าวโอ๊ตและทุ่งดอกไม้ป่าที่พลิ้วไหวตามแรงลมสะท้อนถึงความชำนาญด้านหัตถศิลป์อันประณีตของChaumet ที่มีมาอย่างยาวนาน
ความประณีตและฝีมือระดับสูงจากเวิร์กช็อปที่ 12 Vendômeเผยให้เห็นอีกครั้งผ่านสร้อยคอสุดหรู ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการประกอบที่ซับซ้อนและใช้เวลาสร้างสรรค์นานกว่า 1,300 ชั่วโมง โครงสร้อยที่ประกอบอย่างซับซ้อนและปรับเปลี่ยนได้นี้ประดับด้วยเพชรเจิดจรัส ดอกข้าวโอ๊ตที่ทำจากทองคาเหลืองตัดกับทุ่งดอกไม้ป่า ซึ่งแกะสลักอย่างวิจิตรในทองคำขาว โดยประดับด้วยเพชรสีเหลือง รวมถึงเพชรทรงหมอนสามเม็ดน้ำหนักรวม 8.32 กะรัต นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ที่พลิ้วไหว ของต่างหูทรงอสมมาตรแบบปรับเปลี่ยนได้ สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ Chaumet โดยตั้งใจออกแบบให้มีเส้นสายของเอียร์คัฟโค้งขึ้นไปประดับเป็นช่อรวงข้าวเหนือใบหู ซึ่งสามารถสืบสานความชำนาญทางด้านหัตถศิลป์อันยาวนานของ Chaumet ชุดแหวนสีทองอันประณีตประดับด้วยเพชรแฟนซีสีเหลืองเข้ม(Fancy Intense Yellow) น้ำหนัก 3.54 กะรัตที่เปล่งประกายบนปลายนิ้วอย่างสง่างาม
Cloverand Fern (Trèfle&Fougère)
ในบทสนทนาแห่งธรรมชาติ Clover and Fern ได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากพืชพรรณอันเป็นสัญลักษณ์ของ Chaumet ผ่านงานจิวเวลรีชั้นสูงที่ผสานเพชรและมรกตล้าค่าไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
ใบโคลเวอร์ ซึ่งมีบทบาทสาคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ได้ปรากฏอย่างโดดเด่นตั้งแต่ปี 1853 ในรูปของเข็มกลัดเคลือบแบบ Enamel สีเขียวใส ประดับเพชร ซึ่งสร้างสรรค์โดย Jules Fossinและ ได้กลายเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นถาวรของ Maison จนถึงปัจจุบันคอลเลกชันนี้ได้ถ่ายทอดแนวคิดธรรมชาตินิยม ซึ่งฝังรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของตัวแบรนด์ ช่างฝีมือระดับสูงของ Chaumet ได้สวมบทบาทเป็นนักพฤกษศาสตร์เพื่อรังสรรค์จิวเวลรีที่เปี่ยมด้วยรายละเอียดทางพฤกษา
กลีบของใบโคลเวอร์ผลิบานบนต้นเฟิร์นอันวิจิตรร้อยเรียงกันเป็นสร้อยคอทรงโค้งที่พริ้วไหวสง่างามด้วยมรกตโคลอมเบียธรรมชาติสามเม็ดรวมทั้งหมด 11.63 กะรัตที่แต่งแต้มสีสันให้กับชิ้นงานอย่างน่าหลงใหล
แผ่นทองคำขาวบางเฉียบถูกจัดวางซ้อนกันอย่างประณีตถ่ายทอดความอ่อนช้อยของพืชพรรณได้อย่างลบนะเมียดละไมขณะเพชรถูกฝังด้วยเทคนิคหลากหลายทั้ง Cut-Down, Bezel และ Illusion Setting โดยใช้เวลารังสรรค์เกือบ 1,250 ชั่วโมงบรรจงประดับด้วยใบโคลเวอร์สี่แฉกที่กระจายอยู่ทั่วชิ้นงานราวกับเชื้อเชิญให้ผู้สวมใส่ค้นหาใบที่นาพาโชคดีมาให้ตน
เฉดสีเขียวอันนุ่มนวลของมรกตยังปรากฏอยู่ในผลงานชิ้นอื่นๆ ของเซ็ตนี้ไม่ว่าจะเป็นแหวนประดับมรกตรูปทรงลูกแพร์น้ำหนัก 5.19 กะรัตที่เฟิร์นโอบล้อมรอบตัวเรือนอย่างแนบสนิทขณะเดียวกันมรกตอีกสองเม็ดขนาด 3.41 และ 3.24 กะรัต ถูกนำมาประดับบนต่างหูสุดหรูและเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของชุดเครื่องประดับนี้ใบโคลเวอร์สี่แฉกได้ปรากฏขึ้นมาในรูปแบบจี้บนสายสร้อยสองชั้นที่สามารถถอดแปลงเป็นเข็มกลัดนำโชคได้อีกด้วย
บทที่ 2 เพียงชั่วครู่
บทที่สองเป็นการสดุดีต่อธรรมชาติอันไม่จีรังและแปรเปลี่ยนได้ดอกไม้ที่ผลิบานเพียงชั่วครู่เช่นดอกซอร์ดลิลลี่(Swordily), คาร์เนชัน, และสวีตชรับบ์(sweetshrub), ล้วนมอบทิวทัศน์อันงดงามราวบทกวีที่ไม่สิ้นสุดเช่นเดียวกับศาสตร์แห่งงานฝีมือที่ Chaumet มุ่งมั่นอนุรักษ์ไว้ธรรมชาติอันบอบบางแต่ทรงคุณค่านี้ได้จุดประกายแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นผลงานจิวเวลรีสุดประณีต ถ่ายทอดช่วงเวลาที่งดงามแม้จะอยู่ชั่วครู่ให้คงอยู่ตราบนิรันดร์ผ่านประกายอัญมณี
Carnation (OEillet)
แม้ในธรรมชาติดอกคาร์เนชั่นจะไม่ปรากฏเฉดสีฟ้าแต่กลับถูกดีไซน์ใหม่อย่างวิจิตรบรรจง และงดงามในผลงานจิวเวลรีชุดนี้ผ่านโทนสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chaumet เพื่อถ่ายทอดความอ่อนช้อยของดอกไม้ในมิติร่วมสมัยที่เปี่ยมไปด้วยบทกวีแห่งความงาม
สร้อยคอแบบปรับเปลี่ยนได้เส้นนี้งดงามหรูหราและต้องอาศัยเวลาในการสร้างสรรค์กว่า 1,500 ชั่วโมงถ่ายทอดภาพทุ่งหญ้าอันแสนสงบในชนบทโดยแต่ละข้อถูกฝังด้วยแซฟไฟร์สองเม็ดถ่ายทอดเป็นโครงสร้างคล้ายตาข่ายที่สะท้อนความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chaumet ได้อย่างชัดเจน
ผลงานชิ้นนี้ได้รับการออกแบบเพื่อสดุดีความงามของดอกไม้โดยรังสรรค์ขึ้นให้รับกับเส้นสายและการเคลื่อนไหวของเรือนร่างได้อย่างลงตัวมอบความพลิ้วไหวที่ชวนหลงใหลด้วยสัมผัสแห่งความอ่อนช้อยดอกคาร์เนชันทั้งหกอวดกลีบหยักอันอ่อนช้อยเผยให้เห็นการไล่เฉดสีอย่างแยบยลของอัญมณีที่เจียระไนขึ้นเฉพาะโดยใช้เวลาทางานต่อเนื่องนานเกือบแปดสัปดาห์ด้วยแซฟไฟร์สามเฉดตั้งแต่สีน้าเงินเข้มไปจนถึงฟ้าใสอัญมณีเหล่านี้ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันในรูปทรงว่าว
สร้อยคอแบบปรับเปลี่ยนได้เส้นนี้งดงามหรูหราและต้องอาศัยเวลาในการสร้างสรรค์กว่า1,500 ชั่วโมงถ่ายทอดภาพทุ่งหญ้าอันแสนสงบในชนบทโดยแต่ละข้อถูกฝังด้วยแซฟไฟร์สองเม็ดถ่ายทอดเป็นโครงสร้างคล้ายตาข่ายที่สะท้อนความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของChaumet ได้อย่างชัดเจน
เพื่อสร้างภาพลวงตาแบบ Trompe L’oeil สะท้อนดีไซน์ของตาข่ายบนสร้อยคอ ซึ่งเลียนแบบลักษณะของดอกตูมได้อย่างมีชั้นเชิงและด้วยดีไซน์รูปตัว “V” ของสร้อยยังสะท้อนแรงบันดาลใจจากดีไซน์ของ Aigrette ซึ่งเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของ Chaumet โดยมีแซฟไฟร์ศรีลังกาขนาด 36.44 กะรัต เจียระไนทรงหยดน้ำ ซึ่งสามารถถอดออกมาสวมเดี่ยวบนสร้อยคอฝังเพชรได้อีกด้วยเสริมความสมบูรณ์ของเซ็ตด้วยแหวนประดับอัญมณีรูปไข่ขนาด 20.04 กะรัต สะท้อนความประณีตและความยอดเยี่ยมของช่างฝีมือจาก 12 Vendôme เช่นเดียวกับต่างหูรูปกลีบดอกไม้ประดับเพชรและแซฟไฟร์ขนาด 8.78 และ 8.80 กะรัตตามลำดับ
Sword-lily (Glaïeul)
ประกายระยิบระยับของโมซัมบิก (Mozambique) สีแดงสดเจิดจรัสบนดอกซอร์ดลิลลี่ (Sword Lilly) ถ่ายทอดผ่านรูปทรงของเถาเพชรที่พันเกี่ยวกันอย่างมีชีวิตชีวาสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของChaumet ในการถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอย่างวิจิตรบรรจง
สร้อยคอสุดวิจิตรที่ใช้เวลาสร้างสรรค์มากกว่า 1,500 ชั่วโมง ดอกไม้สามดอกถูกถอดออกจากก้านและประดับอยู่เรียงรายตามแนวลาคอลวดลายเพชรที่เลื้อยเป็นเถาอย่างประณีตรอบแนวคอสะท้อนภาพธรรมชาติพันเกี่ยวที่ Chaumet ถ่ายทอดอย่างงดงามและเป็นเอกลักษณ์เสมอมา
ด้วยเทคนิค Fil Couteau ที่ประณีตจนดูเหมือนโลหะแทบจะล่องหน ทับทิม Mozambique เจ็ดเม็ดรวมหนัก 14.03 กะรัต ดูราวกับลอยอยู่กลางอากาศและยังมีต่างหู
ประดับทับทิมที่สะท้อนความงามและความสามารถด้าน savoir-faire อันเป็นเอกลักษณ์นี้เช่นกัน อีกทั้งยังมีแหวนที่ประกอบด้วยสองแถบสามารถสวมใส่ร่วมกันหรือแยกกันได้ ทั้งแบบมีหรือไม่มีช่อดอกไม้ ประดับด้วยทับทิมทรงหมอนขนาด 5.09 กะรัต สีแดงเข้มผสมชมพูสดใส
ลวดลายของดอกซอร์ดลิลลี่ (Sword Lilly) ยังปรากฏอยู่บนหน้าปัดนาฬิกาที่ซ่อนอยู่ เมื่อเปิดฝาครอบออกจะพบกับดอกไม้สองดอกที่ทับซ้อนกันอย่างประณีต ซึ่งใจกลางของดอกไม้ประดับด้วยทับทิมที่โอบล้อมด้วยกลีบดอกไม้สีแดงสดสอดรับกับพื้นหน้าปัดโปร่งแสงที่ผ่านการเคลือบ ด้วยเทคนิค Grand Feu Enamel โดยผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะชั้นสูงอย่าง Anita Porchet พร้อมลวดลาย Guilloché ที่ทำด้วยมือเผยให้เห็นอย่างงดงาม
Sweetshrub (Arbreauxanémones)
สืบสานประเพณีไข่มุกอันเลื่องชื่อของ Maison เครื่องประดับชุดนี้ผสมผสานไข่มุกแซฟไฟร์และสปิเนลในโทนสีชมพูไล่ระดับดุจภาพวาดสีน้า
ตั้งแต่ปี 1805 เมื่อ Marie-Étienne Nitot ที่ประดับไข่มุกจานวน 2,990 เม็ดบนเทียร่าของสมเด็จพระสันตะปาปา Pius ที่ 7 ได้สร้างชื่อเสียงให้กับทาง Maison ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในงานเครื่องประดับไข่มุกและสร้อยคอรูปดอกสวีตชรับบ์ (sweetshrub) ที่สามารถถอดออกได้ (transformable pieces) คือผลงานล่าสุดที่เป็นตัวแทนของความประณีตนี้ไข่มุกน้ำจืดขนาด 10 มิลลิเมตร ที่ถูกคัดสรรอย่างประณีตเปล่งประกายด้วยมุกชมพูหวานละมุนอย่างสมบูรณ์แบบ
ใจกลางของสร้อยประดับด้วยดอกไม้หนึ่งดอกที่สามารถถอดออกมาใส่เป็นเข็มกลัดได้ โดยมีหัวใจคือสปิเนลทรงหมอนน้ำหนัก 44.23 กะรัต ในเฉดสีชมพูเข้มแฝงประกายม่วงอันน่าหลงไหล
กลีบดอกที่ประดับด้วยเพชรแบบ pavé ผสานเฉดสีของสปิเนลสองเฉดและแซฟไฟร์อีกสามเฉดเกิดเป็นการไล่ระดับสีชมพูที่งดงามดั่งภาพวาดสีน้ำ
อีกทั้งยังมีแหวนที่ประดับด้วยสปิเนลทรงหมอนขนาด 14.41 กะรัต โผล่พ้นจากกลีบดอกไม้ ซึ่งไล่เฉดอัญมณีอย่างประณีต เข้าคู่กับต่างหูที่ประดับด้วย ขนาด 4.68 และ 4.50 กะรัตได้อย่างงดงามกลมกลืน เสริมความละมุนละไมให้กับคอลเลกชันนี้ด้วยเข็มกลัดคู่ผีเสื้อที่ซึ่งเปรียบประดุจผู้ที่หลงใหลในมวลบุปผา โดยออกแบบให้ดูราวกับกาลังเคลื่อนไหวอยู่กลางอากาศ ตัวหนึ่งมีการไล่สีออกจากส่วนตรงกลาง อีกตัวไล่สีจากรอบนอกเข้าสู่ศูนย์กลาง
ปีกของผีเสื้อแต่ละตัวประกอบด้วยลวดลายฉลุแบบ openwork อันละเอียดอ่อนที่ด้านหลังเปรียบดั่งลูกไม้ล่องลอยกลางอากาศเผยให้เห็นความเชี่ยวชาญทางช่างฝีมือของ Chaumet อย่างไม่มีที่ติ
บทที่ 3 การฟื้นฟู
บทที่สามคือบทสรรเสริญต่อธรรมชาติของดอกไม้ทั้งสี่สายพันธุ์ที่จักรพรรดินี Joséphine ทรงโปรดปรานได้แก่ แมกโนเลียไอริสดาเลียและดอกวอร์เตอร์ลิลลี่ ซึ่งผลิบานอีกครั้งในดินแดนอันไกลโพ้นหรือเวียนกลับมาตามจังหวะของฤดูกาลเสริมด้วยเหล่านกติ๊ดสีน้ำเงิน (Blue Tit) และแมลงปอที่ถูกถ่ายทอดอย่างปราณีตและวิจิตรในอิริยาบถต่างๆ ที่ถูกประดับอยู่ในคอลเลกชันนี้สะท้อนภาพของธรรมชาติที่เปี่ยมชีวิตชีวาอย่างสมบูรณ์
Magnolia Grandiflora
จิวเวลรีชุดMagnolia Grandiflora ถ่ายทอดความงดงามของดอกแมกโนเลียที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาสะท้อนภาพพรรณไม้ทรงเสน่ห์ในมุมมองแบบธรรมชาตินิยมขณะกาลังผลิบานอย่างเต็มที่
ดอกแมกโนเลียเคยปรากฏโฉมในคอลเลกชัน LeJardindeChaumetเมื่อปี 2023 ในรูปแบบดอกไม้ทองคาสีเหลืองเปล่งประกาย และได้มีการปรับเปลี่ยนแแบบใหม่จาก Chaumetโดยเลือกใช้เพชรล้วนในการรังสรรค์
ตั้งแต่เข็มกลัดรูปใบไม้ที่ประดับด้วยเพชรมากกว่า 8 กะรัตไปจนถึงช่อกลีบดอกบนแหวนที่มีหน้าตัดกว้างโชว์พรรณไม้ในหลากหลายช่วงเวลาแห่งชีวิตของดอกแมกโนเลียกลีบดอกสีขาวบริสุทธิ์ได้รับการขับเน้นด้วยเทคนิค Snow Setting ขณะที่ใบอวบอิ่มของมันเปล่งประกายด้วยเส้นสายของเพชรแบบ Pavé อย่างมีมิติ
สื่อถึงภาพพรรณไม้ในมิติที่ชัดเจนดอกแมกโนเลียที่ประดับอยู่บนสร้อยคอที่เรียบละมุนโดดเด่นด้วยเพชรหยดน้า DFL type-IIa ขนาด 5.26 กะรัตที่ห้อยประดับอยู่กลางชิ้นงานซึ่งเป็นผลลัพธ์ของกระบวนการรังสรรค์อันประณีตที่กินเวลายาวนานเกือบ 1,150 ชั่วโมงดอกแมกโนเลียที่บานสะพรั่งบนเทียร่าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chaumet ได้รับการตีความขึ้นใหม่ในสไตล์ร่วมสมัยรังสรรค์ใด้วยเทคนิค Pavé ทั้งด้านในและด้านนอกด้วยลวดลายดอกไม้ที่ประดับอยู่ด้านข้างค่อยๆ คลี่ออกสู่เพชรรูปทรงหยดน้าขนาด 2.02 กะรัตซึ่งถูกออกแบบมาให้สะท้อนความอ่อนช้อยไม่สมมาตรคล้ายผ้าโผกศีรษะเวลาสวมใส่
ต่างหูเอียร์คัฟแบบอสมมาตรที่ประดับด้วยเส้นลวดทองแบบถอดเปลี่ยนได้และต่างหูเพชรหยดน้ำที่ถ่ายทอดความละเมียดละไมในการออกแบบของ Chaumet ได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังมีเข็มกลัดรูปนกติ๊ดสีน้ำเงิน (Blue Tit) สะท้อนถึงความชานาญของช่างฝีมือที่ศึกษาลวดลายขนนกอย่างละเอียด ถ่ายทอดสีสันของปีกที่กางออกได้อย่างประณีตด้วยเส้นสายของขนนกที่ประดับด้วยการฝังแบบ Grain-Set นกตัวนี้ถูกออกแบบในอิริยาบทที่กาลังโบยบินกลางผืนฟ้าสีครามเผยให้เห็นเพชรทรงหยดน้ำขนาดหนึ่งกะรัตที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่นุ่มละมุนอย่างแยบยล 27
Fairyiris (Irisdesfées)
จิวเวลรีชุด Fairy Iris ถ่ายทอดความอ่อนช้อยของดอกไอริสดุจพรรณไม้ป่าที่พลิ้วไหวตามสายลมเติมแต้มด้วยแมลงปอที่ดูราวกับมีชีวิตจริงเสมือนหลุดออกมาจากภาพวาดของ Pierre-Joseph Redouté จิตรกรพฤกษศาสตร์ผู้เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดินี Joséphine
ในขณะที่คอลเลกชันไฮจิวเวลรี Le Jardin de Chaumet ถ่ายทอดความงามของดอกไม้ในรูปแบบที่ชวนให้หลงใหลราวกับของหวานนาเสนอผ่านพื้นผิวที่ดูนุ่มนวลและน่าลิ้มลองแต่ในคอลเลคชั่น Jewels by Nature กลับเลือกที่จะสกัดบทกวีของธรรมชาติออกมาอย่างละเมียดละไม
ดอกไม้ทั้งห้าถูกแกะสลักอย่างประณีตโดยแต่ละกลีบทำขึ้นมาจากทองคำประดับเรียงรายบนสร้อยคอร้อยเพชร (Rivières) ที่ถักทอเข้าด้วยกันเผยเฉดสีพาสเทลของสปิเนลจากเวียดนามในโทนฟ้าม่วงและชมพูรวมทั้งหมด24.36กะรัต
อีกทั้งยังมีแหวนที่ประดับด้วยดอกไอริสในดีไซน์อสมมาตรโดดเด่นด้วยสปิเนลสีม่วงขนาด 6.10 กะรัต ประกายสดใสดุจบทสนทนาอันอ่อนหวานกับต่างหูระย้าที่จับคู่กันอย่างพอดีเข็มกลัดรูปแมลงปอสองตัวที่โบยบินเคียงดอกไม้ราวการร่ายระบาบนสายลมตัวหนึ่งประดับไพลินสีสันสดใสส่วนอีกตัวเปล่งประกายด้วยเพชรระยิบระยับฝังด้วยหนามเตยทรงหยดน้ำ
Dahlia
ผลงานจิวเวลรีชุด Dahlia ถ่ายทอดความสง่างามของดอกดาเลียผ่านดีไซน์ที่เปี่ยมด้วยมิติ การเคลื่อนไหวและแสงเงาโดยใช้ทองคำและเพชรในการรังสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง
Chaumet รังสรรค์บทสดุดีแด่ดอกดาเลียในมุมมองแบบร่วมสมัยผ่านชิ้นงานต่างๆไม่ว่าจะเป็นเทียร่าไอคอนิกของแบรนด์ที่ประดับด้วยตัวดอกไม้ที่สามารถถอดออกได้ทั้ง 5 ชิ้น เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการสวมใส่ได้หลากหลาย ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้สืบทอดแนวคิดจากเทียร่าในยุค 1850 ที่สร้างสรรค์โดย Jean-Baptiste Fossin ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ดอกแพนซีย์เสมือนจริงที่สามารถถอดแยกออกจากกันได้ ในส่วนของสร้อยคอนั้น มีดอกไม้ขนาดใหญ่อันโดดเด่นที่เป็นจุดรวมสายตา ซึ่งต้องอาศัยเวลากว่า 1,300 ชั่วโมงในการรังสรรค์สร้อยคอทองคำดีไซน์เกลียวคู่ประดับด้วยดอกไม้ขนาดใหญ่ วงชั้นของกลีบทำจากทองคำขาวฝังเพชรโอบล้อมด้วยเพชรที่เปล่งประกายน้าหนัก3.05 กะรัตที่อยู่ตรงกลาง ตรงส่วนกลีบดอกไม้นั้นดูราวกับกาลังพริ้วไหวอย่างอิสระเช่นเดียวกับบนแหวนที่เจิดจรัสด้วยเพชร F VVS1 ขนาด 5.82 กะรัตเสริมด้วยต่างหูดีไซน์อ่อนหวานแบบเฟมินีนและจี้สร้อยคอที่เชื่อมด้วยโซ่ทองตกแต่งเพชรเม็ดใหญ่กว่า 2 กะรัต สองเม็ดในแต่ละข้างเพิ่มความเปล่งประกายให้กับผู้สวมใส่อย่างเหนือระดับ
นาฬิกาแบบ Montre à secre เรือนนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นโดย Anita Porchet ศิลปินระดับตานาน หน้าปัดนาฬิกาถูกออกแบบด้วยการเคลือบด้วย Grand Feu Fnamel สีชมพูโอปอลอ่อนเรืองรอง เบื้องหลังเผยให้เห็นลวดลาย Guilloché ที่สลักด้วยมือ สะท้อนความละเมียดละไมและความลึกล้าในแบบฉบับของ Haute Joaillerie อย่างแท้จริง
Water Lily (Nymphéa)
จิวเวลรีชุดนี้รังสรรคการจัดวางและผสมผสานของสปิเนลและโทแพซอย่างประณีตถ่ายทอดความงดงามอันทรงสง่าของดอกวอร์เตอร์ลิลลี่ซึ่งเปี่ยมด้วยบทกวีจากโลกใต้น้ำก่อนจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นอัญมณีเลอค่าในฝีมือของช่างศิลป์แห่ง 12 Vendôme
ดอกวอร์เตอร์ลิลลี่อันงดงเดิมทีเคยแต่งแต้มอยู่บนผืนน้ำหน้าคฤหาสน์ Malmaison และยังเคยถูก ClaudeMonet นำมาปลูกไว้ที่ก้นสระในสวนบัวของเขา ซึ่งมีบรรยากาศแบบตะวันออกอันเป็นเอกลักษณ์และถ่ายทอดภาพสะท้อนของท้องฟ้าลงบนผืนน้ำได้อย่างมีชีวิตชีวาในผลงานอิมเพรสชันนิสต์ของเขา Chaumet ได้รังสรรค์จิวเวลรีคอลเลกชันนี้ด้วยลวดลายของแสงให้พลิ้วไหวดั่งลูกไม้ชั้นดีผ่านงานฉลุแบบ Openwork ที่เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนและมิติอันลุ่มลึกสร้อยคอที่ใช้เวลากว่า 1,400 ชั่วโมงในการรังสรรค์เผยความงามอันประณีตผ่านกลีบเลี้ยงโปร่งแสงสองดอก ซึ่งโอบล้อมตูมดอกทาจากสปิเนลเจียระไนทรงรีสีชมพูขนาด 4.51 กะรัตและสีม่วงขนาด 6.12 กะรัตขับเน้นด้วยอิมพีเรียลโทแพซขนาด 23.11 กะรัตที่เปล่งประกายดุจแสงอาทิตย์ทอดผ่านแนวลาคอตัวสร้อยยังสามารถถอดออกมาสวมใส่เดี่ยวบนสร้อยเพชรเส้นบางได้อย่างอิสระนอกจากนี้ยังมีแหวนที่ดีไซน์ด้วยดอกวอร์เตอร์ลิลลี่ที่เบ่งบานอย่างสง่างามบนฝ่ามือประดับหัวใจกลางชิ้นงานด้วยอิมพีเรียลโทแพซขนาด 17.11 กะรัต
ออกแบบมาให้สวมใส่ได้ทั้งในรูปแบบตุ้มหูติดใบหูหรือเสริมให้โดยเด่นขึ้นด้วยโทแพซทรงหยดน้ำต่างหูรุ่น Dormeusesคู่นี้เผยกลิ่นอายบทกวีอันอ่อนโยนของดอกไม้ซึ่งถือกำเนิดจากผืนน้ำก่อนจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นอัญมณีอันงดงามจากช่างศิลป์แห่ง 12 VENDÔME.
Bee (Abeille)
Chaumet ขับเน้นความสาคัญของผึ้งผู้เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนจักรวาลแห่งธรรมชาติให้ดำรงอยู่
ผึ้งเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่เคียงคู่ประวัติศาสตร์ของ Maison มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่จักรพรรดินโปเลียนทรงเลือกให้เป็นตราแห่งจักรวรรดิ เพื่อสถาปนาอานาจและความชอบธรรม สิ่งมีชีวิตเล็กจ้อยนี้ได้มอบคุณประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติมายาวนานกว่า 2,600 ปี และยังมีบทบาทสาคัญยิ่งในกระบวนการผสมเกสรของพืช ใน Jewels by Nature ผึ้งถูกจินตนาการให้โบยบินจากดอกไม้หนึ่งสู่อีกดอกหนึ่ง จากชุดเครื่องประดับหนึ่งสู่อีกชุดหนึ่ง เพื่อทาหน้าที่สาคัญของมันอย่างแยบยล
เข็มกลัดในคอลเลกชันนี้ถ่ายทอดภาพผึ้งน้อยผู้โบยบินเก็บเกี่ยวน้าหวานจากอัญมณีสีสดราวเกสรดอกไม้ออกแบบอย่างวิจิตรด้วยแรงบันดาลใจจากลวดลายรังผึ้ง ซึ่งแผ่ขยายอย่างแยบยลไปจนถึงดีไซน์ของหนามรองรับตัวเรือน
#Chaumet #JewelsbyNature #ChaumetHighJewelry
2 ก.ค. 2568
26 มิ.ย. 2568
1 ก.ค. 2568
8 ก.ค. 2568