CHAUMET Tiara

Last updated: 20 ส.ค. 2568  |  202 จำนวนผู้เข้าชม  | 

CHAUMET Tiara

พิธีราชาภิเษกจักรพรรดิ Napoleon และการสวมมงกุฎ
จักรพรรดินี Joséphine ณ มหาวิหาร Notre-Dame ในปารีส ปี ค.ศ. 1804

ท่ามกลางความรุ่งเรืองของจักรวรรดิฝรั่งเศสและราชสำนักของ Napoleon ได้ปรากฏช่างอัญมณียอดฝีมือผู้รังสรรค์ผลงาน ที่จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะเทียร่าผ่าน “ความรุ่งโรจน์อันสง่างามของราชวงศ์และเทียร่าของ Chaumet” ถ่ายทอดความเป็นมา ของเมซงซึ่งผูกพันกับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส ราชวงศ์ และงานฝีมือชั้นสูง อย่างลึกซึ้ง

จุดเริ่มต้นของมรดกอันทรงเกียรติ
ภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ราชบัลลังก์ล่มสลาย จักรวรรดิใหม่ถือกำเนิด Marie-Étienne Nitot อดีตศิษย์ช่างอัญมณีในราชสำนัก พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และผู้เป็นที่โปรดปรานของ Marie Antoinette ได้ผ่านช่วงเวลาวุ่นวายแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น จนได้รับแต่งตั้งในปี 1802 ให้เป็นช่างอัญมณีประจำจักรพรรดิ Napoleon Bonaparte ผู้ซึ่งประกาศตนเองเป็นกงสุลคนแรก และสวมมงกุฎจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในเวลาต่อมา

François-Regnault Nitot ปี 1810
 
Napoléon portrait ปี 1806
 
Joséphine portrait ปี 1805
 

การแต่งตั้ง Nitot ทำให้เขากลายเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแค่ในฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงศิลปะการทำ อัญมณีอีกด้วย หลังจากได้รังสรรค์ดาบสำหรับพิธีราชาภิเษกของ Napoleon และเทียร่าประจำตำแหน่งของพระสันตะปาปา Pius ที่ 7 Nitot ได้กลายเป็นช่างอัญมณีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุโรป โดยเป็นผู้สรรค์สร้างทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ดาบพิธี และเทียร่าอันงดงามของเหล่าราชวงศ์ รวมถึงชนชั้นสูงทั่วยุโรป ต่อมาในปี 1812 บุตรชายของเขา คือ François-Regnault ได้สืบทอดกิจการ และวางรากฐานศิลปะแห่งการสร้างเทียร่า ของ Chaumet ณ เลขที่ 15 Place Vendôme ก่อนที่เมซงจะย้ายไปยังเลขที่ 12 ในปี 1907 และเปลี่ยนโรงแรม Baudard de Sainte-James ให้กลายเป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่าของแบรนด์จนถึงปัจจุบัน

เทียร่าแห่งสมเด็จพระสันตะปาปา Pius ที่ 7 ประดิษฐ์โดย Marie-Étienne Nitot และพระราชทานแก่สมเด็จพระสันตะปาปาโดยจักรพรรดิ Napoleon ในปี 1805
 
Place Vendôme n°12
 

ในยุคของ Napoleon ภาพลักษณ์คือภาษาที่ขับขานถึงอำนาจและบารมี ราชสำนักจึงกลายเป็นเวทีแห่งความวิจิตรตระการตา เครื่องประดับ อัญมณีคือหัวใจสำคัญในการแสดงออกถึงพระราชอำนาจ เทียร่าของ Chaumet ได้ประดับบนพระเศียรของบรรดาจักรพรรดินี เจ้าหญิง และ สตรีชั้นสูง ในพิธีการอันยิ่งใหญ่ ไปจนถึงการเฉลิมฉลองชัยชนะทางทหาร และงานเลี้ยงทางการทูต ผลงานของ Nitot จึงเปรียบเสมือนเครื่องมือ ในการสร้างภาพลักษณ์ และความงดงามที่เปี่ยมด้วยอำนาจ เรียบหรูแต่สื่อถึงความหมายอันลึกซึ้ง

เทียร่าของจักรพรรดินี Marie-Louise ผลงานของ Nitot ปี ค.ศ.1811

การออกแบบในยุคนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากพวงมาลาโบราณและรูปทรงแบบคลาสสิก ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความทันสมัย ด้วยเทคนิคและความประณีตของงานฝีมือจากปารีส ผลงานเหล่านี้ทำให้ Chaumet กลายเป็นหนึ่งในเจ้าแห่งศิลปะแห่งเทียร่า ด้วย สไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความสง่างามและความอ่อนช้อยอย่างลงตัว

เทียร่า The Aphrodite ปี ค.ศ. 1760
 
เทียร่า Wild Rose Tiara  ปี ค.ศ 1922
 

Napoleon ได้เลือก ‘ผึ้ง’ ให้เป็นสัญลักษณ์ประจำรัชสมัยของเขา เพื่อเชื่อมโยงตนเองกับราชวงศ์โบราณของฝรั่งเศส สำหรับ Chaumet ผู้เป็นดั่งช่างอัญมณีแห่งจักรวรรดิ สัญลักษณ์อย่างผึ้งจึงปรากฏอยู่ในเครื่องราชกกุธภัณฑ์และเครื่องประดับหลวงอย่างกลมกลืน ผึ้ง สัตว์น้อยที่ถ่อมตน ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตนิรันดร์ การฟื้นคืน และพลังอันมั่นคง ยิ่งกว่านั้น เทียร่ายังสะท้อนถึงภาษาสัญลักษณ์ ของธรรมชาติและอำนาจ รูปร่างอันประณีตซ่อนเร้นความจริงอันลึกซึ้ง นั่นคือความต่อเนื่องของรัชสมัย สายใยแห่งราชวงศ์ที่ไม่ขาดสะบั้น และความเจิดจรัสอันยั่งยืนของจักรวรรดิ

Jewels by Nature ไฮจิวเวอรี คอลเลกชัน 2025

หลังจากการจากไปของ Nitot ในปี 1809 François-Regnault บุตรชายของเขาได้เข้ามาสืบทอดกิจการ และยืนยันบทบาทของเมซงในฐานะ ช่างอัญมณีประจำจักรวรรดิ แม้ว่ายุค Napoleon จะผ่านพ้นไป แต่รากฐานด้านความงามและศิลปะยังคงอยู่ และยังคงถูกจารึกผ่านผลงาน มาสเตอร์พีซยุคแรกและสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

ทุกวันนี้ เทียร่าเหล่านั้นมิใช่เพียงเครื่องประดับเก่าแก่ของฝรั่งเศส แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์การออกแบบเครื่องประดับอย่างแท้จริง โดยสะท้อนช่วงเวลาอันงดงามที่การเมือง แฟชั่น และฝีมือช่างผสานกันเป็นหนึ่งเดียว เมื่ออัญมณีเล่าเรื่องราวของโชคชะตา อาณาจักร และ พลังแห่งความงามที่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา

เทียร่า Melodie Nacree ปี ค.ศ. 2019

เทียร่า Dahlia จาก คอลเลกชันไฮจิวเวอรี 2025
 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

CARTIER Flagship

12 ส.ค. 2568

FRED Jewelry

12 ส.ค. 2568

FRED Catch The Sun

19 ส.ค. 2568

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้