BOVET Haute Horlogerie

Last updated: 26 ก.ย. 2568  |  51 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BOVET Haute Horlogerie

ในยุคที่ผู้ผลิตนาฬิกาหลายรายยังมุ่ง เน้นการสานต่อตำนาน BOVET (โบเวต์) กลับกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าและสร้างตำนานบทใหม่ ตลอดเวลา กว่าสองศตวรรษ เมซงแห่งนี้ ด้วยกระดับศิลปะแห่งการประดิษฐ์กลไกนาฬิกา สู่นวัตกรรมทางเทคนิคที่ล้ำสมัย แต่ก็ไม่ทิ้ง ความเป็นงานฝีมืออันประณีตในการรังสรรค์เรือนเวลาที่ไม่เพียงแต่ซับซ้อน แต่ยังเป็นดั่งสถาปัตยกรรมแห่งกาลเวลาโดยสมบูรณ์ ผ่านผลงานที่ได้รับการยกย่องจาก GPHG (Grand Prix d’Horlogerie de Geneve) รางวัลสำคัญซึ่งเปรียบดังออสการ์ของโลกเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความหาญกล้าในด้านวิศวกรรม ความเที่ยงตรงที่ละเอียดอ่อน และความแยบยลในการรังสรรค์ ที่ทำให้ BOVET โดดเด่นในศาสตร์แห่งเรือนเวลาชั้นสูง หรือ Haute Horlogerie

เมื่อโลกหยุดนิ่ง แต่ BOVET เดินหน้าต่อ

Récital 30 (GPHG 2025 – Men’s Complication Nominee) นิยามของสุดยอดนาฬิกา World Timer คือ Récital 30 ผลงานที่ต่อยอดมาจากนวัตกรรม 24-City Roller จากนาฬิกา Récital 28 Prowess 1 ที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเรือนเวลากลไกรุ่นที่สองของโลกที่สามารถปรับตามเวลา Daylight Saving Time ได้ โดยตัวเรือนมีความหรูหราและสวมใส่สบายด้วยแซฟไฟร์ทรงโดมขนาด 42 มม. ทำให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องสับสนกับเวลาที่แตกต่างอีกต่อไป อีกทั้ง Récital 30 ยังระบุเขต เวลาเมือง New Delhi ที่มีความเหลื่อมล้ำ 30 นาทีไว้อย่างประณีต ภายในหน้าปัดแบบวินเทจอันทรงคุณค่า

Récital 28 Prowess 1 (GPHG 2024 – Mechanical Exception Winner) Récital 38 Prowess 1 คือเรือนเวลาแรกของโลกที่สามารถปรับตาม Daylight Saving Time ได้อย่างสมบูรณ์ เป็นผลงานที่รวมเอา กลไก 24-City Rollers ไว้กับกลไกปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) พร้อมด้วยทูร์บิญองที่เหมือนลอยอยู่ในอากาศ อย่าง Flying Tourbillon พร้อมด้วยพลังงานสำรอง 10 วัน ซึ่ง โดยปกติแล้วนาฬิกากลไกซับซ้อนจะเริ่มคลาดเคลื่อนหลังจากการขึ้นลานได้ 2 วัน แต่ BOVET สามารถรักษาความเที่ยงตรงได้อย่างต่อเนื่องกว่า 240 ชั่วโมง นับเป็นความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานของกลไก อันเป็นผลงานมาจากโรงงานของเมซงที่ผลิตทุกชิ้นส่วนเอง

Récital 28 จึงเป็นเรือนเวลาที่ปฏิวัติวงการนาฬิกาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า BOVET สามารถแก้โจทย์ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้นั้น คือการจัดการกับความคาดเดาไม่ได้ของการเปลี่ยนแปลงเวลาตามฤดูกาลของธรรมชาติ ให้ออกมาเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมบนข้อมือมนุษย์

Récital 20 Astérium (GPHG 2023 – Calendar & Astronomy Winner) Astérium คือสุดยอดผลงานที่รังสรรค์หอดูดาวที่สามารถสวมใส่ได้บนข้อมือ โดดเด่นด้วยโดมท้องฟ้ายามค่ำคืนที่แสดงเวลา 24 ชั่วโมง รายล้อมด้วยสมการเวลา (Equation of Time) ฟังก์ชันข้างขึ้นข้างแรม (Moonphase) และฟังก์ชันเข็มนาทีย้อนกลับ (Retrograde Minutes) พร้อมด้วยกลไล Flying Tourbillon แบบคู่ และพลังงานสำรอง 10 วัน โดยฉากหลังมีปฏิทินประจำปีที่แสดงราศี วันที่ กลางคืนยาวนานที่สุดและกลางวันสั้นที่สุด (Solstices) พร้อมวันเริ่มฤดูใบไม้ผลิ และเริ่มฤดูใบไม้ร่วง (Equinoxes) ซึ่งถือได้ว่า BOVET สามารถถ่ายทอดจักรวาลทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนผ่านกลไกอันสมบูรณ์แบบ

ทุกเรือนคือสถาปัตยกรรมแห่งกาลเวลาโดยสมบูรณ์

Virtuoso V Jumping Hour Titanium (GPHG 2022 – Men’s Complication Nominee) รุ่น Virtuoso V มาพร้อมด้วย Amadéo® Convertible Case ซึ่งสิทธิบัตรตัวเรือนของ BOVET ทำให้ผู้สวมใส่เปลี่ยนจาก นาฬิกาข้อมือ เป็นนาฬิกาพก และนาฬิกาตั้งโต๊ะ ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ อีกทั้งกลไกของนาฬิกายังโดดเด่นด้วยฟังก์ชันเข็มชั่วโมงแบบกระโดด (Jumping Hours) และเข็มนาทีแบบเรโทรเกรด (Retrograde Minutes) พร้อมด้วยการแสดงเวลาแบบ 2 ไทม์โซน และ
พลังงานสำรองยาวนาน 5 วัน

Récital 22 Grand Récital (GPHG 2018 – Aiguille d’Or Winner)
ผู้ชนะรางวัลเข็มทองคำในปี 2018 ซึ่งเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดของงาน ได้แก่ สุดยอดนาฬิกา The Grand Récital ที่โดดเด่นด้วย Tellurium Orrery ที่จำลองการหมุนของโลกจากมุมสูง พร้อมด้วยดวงจันทร์ที่โคจรในฟังก์ชัน Moonphase และดวงอาทิตย์ในรูปแบบของทูร์บิญอง โดยมีกลไก Perpetual Calendar เข็มนาทีแบบเรโทรเกรด และพลังงานสำรอง 9 วัน ผลงานชิ้นเอกเรือนนี้พิสูจน์ให้เห็นว่ากลศาสตร์แห่งดาราศาสตร์ และความแม่นยำสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัวในจักรวาลแห่งเรือนเวลา

เมื่อกลไกที่ีแม่นยำบรรจบกับบทกวีอันสวยงาม

Miss Audrey Sweet Art (2021 Ladies’ Nominee)
Miss Audrey Sweet Art โฉมใหม่เรือนนี้ ใช้วัสดุและกระบวนการสร้างหน้าปัดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์วงการนาฬิกา โดยทำมาจากน้ำตาลบริสุทธิ์ โดยผลึกน้ำตาลที่ีเคลือบหน้าปัดของ Miss Audrey Sweet Art นี้ เป็นตัวแทนแห่งความอ่อนหวานและความผุดผ่อง และแสดงให้ประจักษ์ถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรม การเลือกใช้วัสดุ และความชำนาญด้านจิตรกรรมแสนละเอียดอ่อน โดยทั้งหมดนี้สะท้อนเอกลักษณ์ของเมซง BOVET ได้อย่างสมบูรณ์


Recital 23 (2021 Ladies’ Complication Nominee)
สะดุดตาเมื่อแรกเห็นด้วยเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีที่อ่อนช้อยที่เคลื่อนตัวอย่างสง่างามเหนือหน้าปัดแบบออฟเซ็ต เผยให้เห็นเทคนิคการแกะสลักกิโยเช่ (Guilloché) สีเทอร์ควอยซ์ ที่เปิดฟลอร์ให้เห็นความแม่นยำของฟังก์ชัน Moonphase นอกจากนี้ เมื่อเข็มชั่ว โมงและเข็มนาทีมาบรรจบกันในทุกชั่วโมง ทั้งสองเข็มจะบรรจบกันให้เห็นเป็นรูปหัวใจ เด่นชัดแต่ไม่บดบังพื้นที่โดยรอบ เป็นดีไซน์ที่งดงามและไม่ซ้ำใคร

Récital 26 Brainstorm Chapter Two (GPHG 2020 – Mechanical Exception Winner)
ตัวเรือนแซฟไฟร์ใสแบบเต็มชิ้น เผยฟังก์ชัน Moonphase ทรงครึ่งวงกลมที่เที่ยงตรง และต้องการการปรับตั้ง เพียงแค่ 1 ครั้ง ใน 127 ปี พร้อมด้วยฟังก์ชัน World Time และ Flying Tourbillon โดยเรือนเวลานี้พิสูจน์ให้เห็นว่า BOVET สามารถเอาชนะความท้าทายของกลไกสามมิติใต้โดมหน้าปัดสัมฤทธิ์ถึงแรงหมุนที่ต่อเนื่อง และความแม่นยำระยะยาว นับเป็นส่วนผสมที่หาชมได้ยาก แม้ในวงการ Haute Horlogerie

Miss Audrey (GPHG 2020 – Ladies’ Watch Winner)
เรือนเวลานี้บรรจุด้วยกลไกขนาดเล็ก ภายในตัวเรือน Amadéo® Convertible Case ที่สามารถเปลี่ยนตัวเรือนนาฬิกาได้อย่างง่ายดายและไร้ที่ติในทุกรูปแบบ และด้วยเรือนเวลานี้ BOVET ได้แสดงให้ประจักษ์ถึงความเป็นเลิศทางวิศวกรรมแม้ในสเกลที่เล็กที่สุด โดยได้เติมเต็มความคิดสร้างสรรค์อันเปี่ยมล้น ผ่านหน้าปัดกิโยเช่ที่ลงรักเคลือบเงาอย่างวิจิตรซึ่งเด่นชัดในทุกตัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือ เรือนเวลาห้อยคอหรือนาฬิกาตั้งโต๊ะ

Miss Audrey “Bris de Verre”
อีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกที่งดงามสะกดสายตา โดดเด่นด้วยหน้าปัด “Bris de Verre” หรือเทคนิคกระจกแตกละเอียดอันวิจิตร เสมือนทุ่งหิมะขาวบริสุทธิ์ที่โปรยปรายลงมาเป็นประกายท่ามกลางแสงอาทิตย์ พร้อมด้วยหลักชี้เวลาที่ทำจากแซฟไฟร์ทรงลูกแพร์ทั้งสี่เม็ด อีกหนึ่งความพิเศษของเรือนเวลานี้อยู่ในขั้นตอนการแกะสลักด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า “onglette” โดยช่างผู้ชำนาญที่แกะสลักรูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ นับพันครั้งเพื่อสร้างลวดลายระยิบระยับราวกับมีชีวิต พร้อมล้อมกรอบด้วยเพชรเจียระไน 103 เม็ดบนตัวเรือน Amadéo® สแตนเลสสตีลขนาด 36 มม.


Fleurier Virtuoso XI
เรือนเวลาสุดพิเศษนี้ เป็นเรือนแรกจาก BOVET ที่โชว์โครงสร้าง Skeletonized อย่างเต็มรูปแบบทั้งสองด้าน นับเป็นครั้งแรกของโลกแห่งศาสตร์การสร้างนาฬิกาชั้นสูงที่เผยให้เห็นงานแกะสลักมือทั้งสองด้านอย่างวิจิตรตระการตา พร้อมประดับด้วยลวดลายแกะสลัก “Pierre du Château” หรือ “Fleurisanne” พร้อมเพชรเจียระไนขาวระยิบระยับ ที่ขับเคลื่อนด้วย Flying Tourbillon พร้อมพลังงานสำรองยาวนานถึง 10 วัน ถือเป็นการผสมผสานศิลปะและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลงานเรือนนี้มีให้เลือกทั้งตัวเรือนทองคำ 18 กะรัตสีแดงหรือสีขาว สะท้อนถึงความโปร่งใส ความประณีต และมาตรฐานสูงสุดด้านความเที่ยงตรงตามแบบฉบับของ BOVET

BOVET รังสรรค์เวลา กำหนดความเป็นไปได้
ตลอดทศวรรษแห่งการสร้างสรรค์นาฬิการะดับ GPHG นันM BOVET ได้แสดงให้เห็นถึง
• นวัตกรรมกลไกครั้งแรกของโลก ที่ไม่เคยมีมาก่อน
• พลังงานสำรองยาวนาน 5–10 วัน แม้ภายใต้กลไกซับซ้อนสูงที่เหนือกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม
• การผสานรวมกลไกดาราศาสตร์และฟังก์ชันหลายรูปแบบได้อย่างสมบูรณ์ในเรือนเวลาที่สวมใส่ได้จริง
• การมุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ละทิ้งงานฝีมือที่มีมาหลายศตวรรษ ถ่ายทอดทั้งศาสตร์และศิลป์ แห่งเรือนเวลาด้วยกลไกอันเหนือระดับ

สุดท้ายนี้ ทุกเรือนเวลาของ BOVET คือบทพิสูจน์ว่า การสร้างนาฬิกาไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การบอกเวลา แต่ยังเป็นผลงานศิลปะจากการรังสรรค์ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ผ่านองค์ประกอบที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ในด้านความแม่นยำ ความอัจฉริยะด้านกลไก และความงดงามเชิงศิลป์ โดยทุกองค์ประกอบถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบทกวีกลไกที่ไพเราะ และนิยามวิสัยทัศน์ของเมซงได้อย่างแท้จริง

“ทุกเรือนเวลาของ BOVET คือผลงานกลไกชั้นเลิศ เรือนเวลาของเราผสานศาสตร์และศิลป์แห่งช่างนาฬิกากว่าศตวรรษให้เข้ากับนวัตกรรมร่วมสมัย ออกมาเป็นผลงานวิศวกรรมที่สะท้อนจิตวิญญาณของเมซง”
– Mr. Pascal Raffy, Owner of BOVET

“BOVET ไม่เคยหยุดสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการนาฬิกากลไก ซึ่งทำให้นักสะสมไม่เพียงหลงใหลในความซับซ้อนแต่ยังหลงใหลในความแม่นยำ และความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นเอกลักษณ์ของทุกเรือนเวลา”
– Mr. Jeremy Lim, CEO of Cortina Watch

“ผลงานของ BOVET มักดึงดูดนักสะสมผู้ใส่ใจในรายละเอียด ทุกเรือนเวลาเป็นบทพิสูจน์ของความชำนาญทางเทคนิคและวิสัยทัศน์อันสร้างสรรค์ของเมซง โดยสิ่งเหล่านี้สะท้อนจุดสูงสุดแห่ง Haute Horlogerie”
– Mr. Ong Ban, CEO of Sincere Watch

คอลเล็กชันจาก BOVET วางจำหน่ายผ่าน Cortina Watch (สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฮ่องกง ไต้หวัน), Sincere Watch สิงคโปร์ และ Pendulum ประเทศไทย

เกี่ยวกับ BOVET
เมซง BOVET เป็นผู้ผลิตสุดยอดเรือนเวลาสัญชาติสวิสที่ผสานกลไกที่ซับซ้อนที่สุดเข้ากับงานฝีมืออันประณีตสูงสุด โดยใช้เทคนิคช่างศิลป์ชั้นสูง อาทิ การเจียระไนด้วยมือ การสลักลวดลายด้วยมือ และการเพนต์มินิเอเจอร์ กว่า 200 ปี BOVET ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาอย่างประณีต เพื่อให้นักสะสมได้สัมผัสความสุขแท้จริงของเวลาที่เลอค่าเพื่อตอกย้ำ ความเป็นเลิศนี้ Mr. Pascal Raffy เจ้าของและผู้บริหารปัจจุบันได้จำกัดการผลิตนาฬิกาคราฟต์แต่ละปี เพื่อคงไว้ซึ้งเอกลักษณ์ความเอ็กซ์คลูซีฟ และความประณีตตามกระบวนการรังสรรค์งานศิลป์ แบบสวิส กว่า 24 ปีที่คุณ Raffy ได้เข้ามาบริหารเมซง เขาได้ยึดมั่นในการเชิดชูศาสตร์และศิลป์ แห่ง การสร้างนาฬิกา รังสรรค์เรือนเวลาที่สะกดใจนักสะสมผู้พิถีพิถัน ผ่านการด้วยความงดงามทางศิลป์ การสร้างสรรค์นวัตกรรม และความเที่ยงตรงที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ เมซง BOVET ผลิตชิ้น ส่วนเกือบทั้งหมดแบบ in-house ตั้งแต่กลไก (Movement) ฟังก์ชันซับซ้อน (Complications) เข็มหน้าปัด ตัวเรือน ไปจนถึงสปริงหางขดและชุดกลไกที่ทำหน้าที่ควบคุมการเดินของนาฬิกา อันเป็นหัวใจของทุกเรือนเวลาชั้นสูงทุกวันนี้ BOVET ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นผู้นำด้าน Haute Horlogerie และเป็นที่ปรารถนาของนักสะสมทั่วทุกมุมโลก

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้