Last updated: 10 พ.ย. 2568 | 242 จำนวนผู้เข้าชม |
PIAGET (เพียเจต์) ยังคงมุ่งมั่นแสวงหาความสง่างาม และยกระดับความหรูหราในชีวิตประจำวันให้กับผู้สวมใส่ ด้วยผลงานสร้างสรรค์ล่าสุด จากคอลเลกชั่น Possession ที่แม้จะมาในดีไซน์ใหม่แต่ยังคงผสานหัตถศิลป์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Palace Décor ลงบนชิ้นงานได้อย่างไร้ที่ติ สอดประสานประกายอันเจิดจรัสกับความประณีตไว้อย่างลงตัว
ถามว่า.. ทองคำจะมีความหมายอะไรหากไม่ได้รับการเล่นแร่แปรธาตุโดยมนุษย์ เพราะท้ายที่สุด ทักษะของช่างฝีมือนี่แหละคือ สิ่งที่หล่อหลอมชีวิตให้กับผลงาน เติมเต็มทั้งจิตวิญญาณ ความอบอุ่น และความรู้สึกเย้ายวนใจให้กับชิ้นส่วนแต่ละชิ้น
จากปรัชญาที่หล่อหลอมจิตวิญญาณของ Piaget มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1874 สู่การสานต่อมรดกชิ้นสำคัญ หรือที่รู้จักกันในชื่อ House of Gold - เมซงที่ขึ้นชื่อเรื่องทักษะการทำทองด้วยมือที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1950 ไปจนถึง Ateliers de l'Extraordinaire แหล่งบ่มเพาะเหล่าช่างฝีมือชั้นเลิศ ทั้งใน La Côte-aux-Fées และเจนีวา ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงสายสัมพันธ์ระหว่าง Piaget และ ทองคำที่เชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนานทั้งในอุตสาหกรรมนาฬิกาไปจนถึงจิวเวลรี เพื่อเฉลิมฉลองสายสัมพันธ์เหนือกาลเวลานี้ Piaget เตรียมเผยเรื่องราวบทใหม่ของ Possession อีกครั้ง



สำหรับเมซง "ทองคำ" เป็นมากกว่าวัสดุ เพราะมันคือแรงบันดาลใจ หากย้อนกลับไปปี 1957 หลัง Piaget ก้าวสู่โลกแห่งการปฏิวัติเรือนเวลาด้วยการเปิดตัวกลไก 9P ดีไซน์บางเฉียบได้สำเร็จ เมซงได้ริเริ่มบรรทัดฐานใหม่ในการสร้างสรรค์อีกครั้งในช่วงที่โลกกำลังก้าวสู่ทศวรรษ 1960 ด้วยการผสานศาสตร์แห่งนาฬิกาเข้ากับเครื่องประดับชั้นสูง โดยมีทองคำเป็นหัวใจหลักในการนำเสนอ จากวิสัยทัศน์ที่ไม่ตามใครสู่นาฬิกาสไตล์จิวเวลรี่เรือนแรกที่สร้างความฮือฮาอย่างมากในปี 1963 ก่อนพัฒนาต่อยอดด้วยการเปิดตัวคอลเลกชั่นแห่งศตวรรษที่ 21 ที่เต็มไปด้วยความล้ำสมัย ณ เมืองบาเซิล ในปี 1969 ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาทรงกำไล ไปจนถึงนาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาวแบบ sautoir ซึ่งถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Piaget และอุตสาหกรรมเรือนเวลา
POSSESSING A LEGACY
Possession ไฟน์จิวเวลรีคอลเลกชั่นแรกจาก Piaget เปิดตัวในปี 1990 กับดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน โดยทุกสไตล์มาพร้อมซิกเนเจอร์วงแหวนหมุนได้ ที่ให้เราปลดปล่อยความคิดอย่างอิสระ และสนุกไปกับทุกจังหวะของชีวิต ทั้งยังแฝงความสง่างามตามแบบฉบับของ Piaget เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
Possession ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่เปรียบเสมือนเครื่องรางติดตัวที่เปี่ยมไปด้วยสัญลักษณ์และความหมาย ซึ่งดีไซน์ในแต่ละซีรีส์ แม้จะผ่านการตีความด้วยจิตวิญญาณอันร่วมสมัย แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น ถ่ายทอดมุมมองผ่านจี้ สร้อยข้อมือ และต่างหู ที่แต่ละชิ้นแม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับสะท้อนความเป็นตัวเองได้หลากสไตล์ที่โดดเด่น อีกทั้งมอบอิสระให้กับผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะเลเยอร์หลายไอเท็มเข้าด้วยกัน หรือเลือกใส่แบบเดี่ยว ๆ ขณะที่มรดกสำคัญของเมซงอย่างศาสตร์แห่งการทำทองด้วยมือ ก็ถูกหยิบมาสอดแทรกลงบนชิ้นงานอย่างพิถีพิถัน รวมถึงความเชี่ยวชาญในการฝังอัญมณี (ไม่ว่าจะเป็นเพชรหรืออัญมณีหลากชนิดในเฉดสีรุ้ง), การคอนทราสต์กับหินสีล้ำค่า โดยหนึ่งในเทคนิคการทำทองที่โดดเด่นที่สุดคือ การสร้างลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยเทคนิค Palace Décor หัตถศิลป์เก่าแก่ที่อยู่คู่เมซงมาตั้งแต่ปี 1961 และได้แรงบันดาลใจมาจากการแกะสลักแบบ guilloché ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมนาฬิกา เรียกได้ว่าการแกะสลักด้วยมืออย่างประณีตนี้ เปลี่ยนทองคำให้เป็นดั่งศิลปะบนผืนผ้าใบที่เต็มไปด้วยความวิจิตร แต่ละเส้นสายสะท้อนถึงห้วงอารมณ์และลายเซ็นของช่างฝีมือที่บรรจงสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี

เทคนิค Palace Décor ถูกนำมาใช้กับคอลเลกชั่น Possession ครั้งแรกในปี 2022 และยังคงเป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์ชิ้นงานในปี 2025 มาพร้อมการตีความใหม่กับดีไซน์ทรงกลมแบนอันสง่างาม หนึ่งในรูปทรงที่สะท้อนถึงรากเหง้าของ Piaget ทางด้านเรือนเวลาได้อย่างน่าสนใจ มีให้เลือกทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ที่ปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย
เริ่มต้นจาก สร้อยคอพร้อมจี้ขนาดเล็กที่มีให้เลือกถึง 2 เวอร์ชั่น ทั้งในตัวเรือนโรสโกลด์ หรือ ไวท์โกลด์ มาพร้อมเพชรบริลเลียนต์คัตใจกลางตัวเรือน ที่ถูกโอบล้อมด้วยดีไซน์คล้ายเครื่องหมายวงเล็บไว้อย่างมีชั้นเชิง สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์เพิ่มเติมกับกำไลข้อมือเข้าชุดกัน ต่อด้วยจี้ขนาดกลางที่เติมลูกเล่นความสนุกสนานยิ่งขึ้นด้วยการนำเอาทองคำขัดเงา หรือ ประดับเพชร มาตัดสลับด้วยลวดลายเฉพาะตัวจากเทคนิค Palace Décor เพิ่มความมีชีวิตชีวาอีกขั้นด้วยประกายแวววาวของเพชรจากห่วงคล้อง ปิดท้ายที่จี้ขนาดใหญ่ มาพร้อมสายโซ่ทองแบบ palm-mesh ใส่เข้าคู่กับต่างหูโรสโกลด์ อีกไอเท็มที่เติมเต็มความเย้ายวนของคอลเลกชั่นนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยอีกไฮไลต์ห้ามพลาดก็คือ สร้อยคอดีไซน์สะดุดตา ผลงานชิ้นเอกที่ทั้งชูความสง่างามของทองคำและยกระดับความหรูหราด้วยดีไซน์อันนำสมัยได้อย่างขบถนอกกรอบ ตัวสร้อยประกอบด้วยจี้หลากหลายดีไซน์ทั้งแบบเรียบและประดับเพชรน้ำหนักรวม 8 กะรัต ร้อยเรียงอยู่บนสายโซ่ที่มีความยาวต่างกัน 2 เส้น ที่บ่งบอกถึงความพิถีพิถันของ Piaget ในทุกมิติ

ผลงานการสร้างสรรค์อันทรงเสน่ห์เหล่านี้เปรียบดั่งสัญลักษณ์แห่งความเจิดจรัส ความรู้สึกอันลึกซึ้ง และความกล้าที่จะเป็นตัวเองในแบบไม่ตามใคร นับเป็นการเปิดบทใหม่ที่หาญกล้า ทั้งยังสะท้อนถึงตำนาน House of Gold ที่ไม่เคยหยุดนิ่งของเมซงอีกด้วย
11 พ.ย. 2568
11 พ.ย. 2568
10 พ.ย. 2568
5 พ.ย. 2568