TATSUYA IZAKI

Last updated: 26 ธ.ค. 2567  |  367 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TATSUYA IZAKI

การเปิดตัวของ MRG-B2100B มีความพิเศษและแตกต่างจาก MR-G รุ่นอื่นๆ ในแง่ของเทคนิคการผลิตและวัสดุเป็นเรื่องหนึ่งแต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเป็นนาฬิกาที่เปรียบเสมือนกับจุดเริ่มต้นในการยกระดับให้ MR-G ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมนาฬิกาในอีกกลุ่มหนึ่งซึ่ง G-SHOCK ไม่เคยมีมาก่อน นาฬิกาในคอลเลกชัน MR-G ผ่านร้อนผ่านหนาวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1996 โดยที่มีคุณ Tatsuya Izaki (ทัตซึยะ อิซากิ) เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนามาโดยตลอด และปัจจุบันในฐานะเป็น Product Advisory Developer เขาถือเป็นหนึ่งในแม่ทัพกำลังสำคัญที่มีส่วนสร้างประวัติศาสตร์ของ G-SHOCK และจะเป็นผู้กรุยทางให้กับ MR-G ในตลาดโลก โดยที่มีรุ่น MRG-B2100B เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่รออยู่ข้างหน้า

ความเป็นมาของโปรเจ็กต์ MR-G มีจุดเริ่มต้นอย่างไรจนกระทั่งถูกพัฒนาขึ้นมาเป็น Top of the line ของ G-SHOCK ?
CASIO เริ่มเปิดตัวครั้งแรกด้วยรุ่น Casiotron ผ่านมาอีกเกือบ 10 ปีเราจึงมีการเปิดตัว G-SHOCK ในช่วงระยะเวลาที่เรากำลังทำตลาดอยู่นั้น เราก็ไม่หยุดนิ่ง พยายามพัฒนาและผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายออกมาโดยเฉพาะในเรื่องของวัตถุดิบ และงานออกแบบที่มีหลากหลายรุ่นหลากหลายแบบ เราสนุกกับช่วงเวลาเหล่านี้อย่างมาก จนกระทั่งเมื่อเราเดินมาถึงจุดหนึ่ง ก็เกิดความคิดในการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับเสียงเรียกร้องของตลาด ซึ่งมาจากฐานแฟนๆ ของเราเอง พวกเขาเริ่มต้นในการสวมใส่นาฬิกากับแบรนด์ Casio ก่อน แล้วจากนั้นค่อยขยับขึ้นมาเป็น G-SHOCK ซึ่งมีคอนเซ็ปต์คือ ‘นาฬิกาที่ไม่มีวันพัง’ ตามแนวคิดของคุณ (Kikuo) Ibe เมื่อถึงจุดหนึ่ง คนเหล่านี้เติบโตขึ้น พวกเขามีความต้องการที่อยากจะได้ G-SHOCK ที่มีความเป็นทางการขึ้น สำหรับผู้ใหญ่หรือคนวัยทำงานได้สวมใส่

เมื่อมองในแง่ของ Brand Journey แล้ว เราจะเห็นการเจริญเติบโตของแบรนด์อย่างชัดเจน เราเริ่มต้นจากการทำนาฬิกาที่เป็น Tool Watch จนกลายเป็นวัฒนธรรมของแบรนด์และองค์กร ซึ่งได้นำไปสู่การแตกออกสู่การนำเสนอรูปแบบและแนวทางใหม่ๆ เช่น การใช้วัสดุใหม่ๆ ที่เป็นโลหะ แต่ครั้นเราจะเปลี่ยนแค่วัสดุอย่างเดียว โดยที่ไม่มีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน มันก็จะยากในเรื่องของการแข่งขันกับนาฬิกาแบรนด์อื่นๆ ดังนั้น ตลอดระยะเวลาของการพัฒนา MR-G มันก็เปรียบเสมือนกับการเดินทางของแบรนด์ แสดงให้เห็นการเติบโตของแบรนด์นี้ขึ้นมาเรื่อยๆ

อะไรคือจุดเด่นของ MRG-B2100 ที่ G-SHOCK ต้องการนำเสนอ เพื่อบอกว่านาฬิกาเรือนนี้แตกต่างอย่างชัดเจนกับรุ่นที่ผ่านมา ?
ต้องบอกก่อนนะครับว่า เราไม่ได้เลือกรุ่นที่ขายดีที่สุดมาใช้ในการผลิต MR-G แต่เราเลือกรุ่นดั้งเดิม (Original) ของเรามาเป็นแรงบันดาลใจ ส่วนในรุ่นนี้ เหตุผลที่เราเลือกนำ 2100 Series มาเป็นต้นทางในการออกแบบ ไม่ใช่แค่เพราะนาฬิการุ่น GA-2100 ขายดีละได้รับการตอบรับจากทั่วโลก แต่เป็นเพราะกรอบทรงแปดเหลี่ยมของนาฬิการุ่นนี้มาจากงานออกแบบของนาฬิการุ่นดั้งเดิมของเรา และได้พัฒนามาเป็นนาฬิการุ่นนี้

ด้วยการพัฒนาที่มีคอนเซ็ปต์ที่ว่า ใครที่ใช้ MR-G จะต้องใช้ไปนานๆ ไม่ใช่นานในเชิงความทนทานเท่านั้น แต่ใช้เชิงจิตใจด้วย และเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายนี้ เราจะต้องทำอะไรหลากหลายอย่าง ทำอย่างไรถึงจะมีคุณค่าในตัวของมันเองขึ้นมา นั่นจึงนำไปสู่เรื่องของการออกแบบตัวเรือนทั้งหมดจำนวน 27 ชิ้น เพื่อให้มีความละเอียดในแง่ของส่วนประกอบ เพื่อจะได้แยกชิ้นส่วนในการขัดแต่ง แล้วค่อยนำมาประกอบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ของเรา ซึ่งทำให้ตัวนาฬิกามีมูลค่ามากขึ้น

เพราะฉะนั้นการที่เราทำเช่นนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่าแบรนด์ของเราอย่าง MR-G นั้น นอกจากจะเป็นสิ่งที่สะท้อนภาพของการเป็นนาฬิการะดับสูงของเราแล้ว มันยังมีคุณค่าอีกด้วยโดยที่เรายังสามารถคงและรักษาแนวคิดในการสร้างนาฬิกาตามแบบฉบับ G-SHOCK เอาไว้ แล้ว DNA ของเราก็อยู่ในนาฬิกาของ MR-G ด้วย

คอนเซ็ปต์ของการสร้างสรรค์นาฬิกาอย่าง Kigumi จุดเริ่มต้นและแนวทางในการนำไอเดียนี้มาใช้กับนาฬิการุ่นนี้คืออะไร ?
สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ครั้งนี้ คือ โจทย์ที่ว่า เราจะทำอย่างไรให้มูลค่าของนาฬิกาใหม่รุ่นนี้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงออกมา ไม่ใช่ในเชิงรูปลักษณ์ แต่คือความหมายจริงๆ ของตัวนาฬิกาเอง เนื่องจากว่าเราสร้างสรรค์นาฬิกาในคอลเลกชันนี้ภายใต้คอนเซ็ปต์ Japanese Craftmanship และที่ผ่านมาเราผ่านการนำแนวคิดของการตีดาบหรือชุดเกราะมาใช้ ก็เลยต้องมองหาไอเดียอื่นๆ มานำเสนอ และจะต้องสอดคล้องกับตัวนาฬิการุ่นนี้ นั่นทำให้เราพบกับทักษะที่เป็น Traditional Art แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นคือ การตอกไม้โดยไม่ใช้ตะปูเลยในการก่อสร้างเชิงสถาปัตยกรรม เช่น วัด บ้าน หรือตึกรามบ้านช่อง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Kigumi เป็นงานที่ต้องการอาศัยความ ‘เป๊ะ’ มากๆ ในการสร้างชิ้นงาน มันถึงจะสามารถสร้างบ้านได้และมีความแข็งแกร่งระดับสูง ที่สำคัญคือยังมีความสวยงามในเชิงสถาปัตยกรรมอยู่ เราก็เลยรู้สึกว่า สิ่งนี้คือไอเดียและคอนเซ็ปต์ที่เหมาะสำหรับ MRG-B2100 ซึ่งเราจะต้องถอดแต่ละชิ้นส่วนบนตัวนาฬิกาออกมา ประกอบกลับเข้าไปใหม่อย่างแม่นยำ และจะต้องมีความสวยงาม ซึ่งเป็นหลักความคิดเดียวกับการทำ Kigumi กับสิ่งก่อสร้างของญี่ปุ่น คือเราต้องซ่อนบางสิ่ง เช่น บนหน้าปัดจะมีลายฉลุซึ่งเป็นอีกแขนงหนึ่งของการทำ Kigumi

นาฬิกาเรือนนี้ใช้โมดุลที่รับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งตามหลักการแล้ว แผงโซลาร์มันไม่ได้ดูดีสักเท่าไร ดังนั้น เราต้องอาศัยแนวคิดและเทคนิคงานศิลป์ของญี่ปุ่นเข้ามาช่วยเพื่อซ่อนสิ่งนี้ และจะต้องออกมาให้ดูดีที่สุด และทั้งหมดแทบจะเรียกว่ายึดหลักการและแนวทางเดียวกับโครงสร้างของสถาปัตยกรรมในการสร้างตึกหรืออาคารของญี่ปุ่นเลย คือ ซ่อนสิ่งที่ไม่อยากให้คนเห็นไว้ข้างใน และนำสิ่งที่สวยงามและต้องการให้คนเห็นเอาไว้ข้างนอก แม้แต่จุดเล็กๆ ที่คนไม่ได้ใส่ใจ แต่เราก็อยากจะนำออกมาให้คนได้เห็น ดังนั้น Kigumi จึงเหมือนกับสิ่งที่บ่งบอกถึงสิ่งที่มีอยู่ในนาฬิกาเรือนนี้

การใช้วัสดุ มีเหตุผลไหมในการเลือกใช้วัสดุที่มีความแตกต่างกันถึง 3 แบบในนาฬิกาเรือนเดียว ?
เราเลือกใช้ตามความสามารถและคุณสมบัติของวัสดุ เช่น ขอบตัวเรือนเราใช้วัสดุที่เรียกว่า Cobarion ซึ่งสามารถสะท้อนความหรูหราออกมาได้ และตัววัสดุเองสามารถสะท้อนประกายที่มีความสวยงดงามออกมาได้นอกเหนือจากความทนทานของตัวมันเอง แต่ข้อเสียของ Cobarion คือ ค่อนข้างแข็งและขึ้นรูปยาก จึงไม่เหมาะกับการใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่เน้นรายละเอียดหรือมีเหลี่ยมมุมเยอะๆ เราก็เลือกใช้ Cobarion เฉพาะส่วนนี้เท่านั้น แต่วัสดุอื่นๆ อย่าง ไทเทเนียม 64 เราเลือกใช้ในการผลิตตัวเรือนเพราะมีความแข็งมาก แต่ก็ยากที่จะนำมาเจาะรู จึงไม่เหมาะกับการทำสาย ดังนั้น ในส่วนสายเราก็เลยต้องเลือกใช้วัสดุใหม่ที่เรียกว่า DAT55G ที่ถูกคิดค้นโดยบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งชื่อว่า Daido Steel เพราะมีคุณสมบัติที่แข็งกว่าไทเทเนียมถึง 3 เท่าหลังจากที่มีการแข็งตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเสร็จสิ้นกระบวนการผลิต วัสดุชนิดนี้จะมีความอ่อนนุ่ม เลยง่ายต่อการนำมาเจาะรู หรือขัดแต่งแบบต่างๆ เราเลือกใช้ตามคุณสมบัติของวัสดุ แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มานอกเหนือจากความทนทานแล้วจะต้องมีความสวยงามในแง่ภาพรวมด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้