Fatemeh Laleh

เนื่องในวาระครบรอบ 150 ปีของตนเอง ปีนี้จึงถือเป็นปีสำคัญสำหรับ Piaget หนึ่งในการฉลองซึ่งได้เกิดขึ้นแล้วที่งาน Watches & Wonders Geneva ผ่านการตกแต่งบูธที่สวยงามตระการตา และการแนะนำผลิตภัณฑ์นาฬิการุ่นใหม่และเครื่องประดับชั้นสูงที่งานด้วย Fatemeh Laleh ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์ระดับสากลของ Piaget คือผู้หนึ่งที่มีส่วนสำคัญสำหรับแผนการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบอกเล่าเรื่องราวการเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีของ Piaget ซึ่งเธอได้เล่าถึงภาพรวมของการฉลองของ Piaget ผ่านการจัดอีเว้นท์และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในปีนี้

คุณได้กล่าวว่า Piaget เป็นอัญมณีที่ซุกซ่อนอยู่ คุณช่วยขยายความแนวคิดนี้ของคุณให้เราทราบเพิ่มเติมได้ไหม?
Piaget ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ระดับ “นิชแบรนด์” และยังคงดำเนินในแนวทางนี้อยู่ เป็นที่รู้เป็นอย่างดีในหมู่ผู้ที่ชื่อนชอบในผลิตภัณฑ์นาฬิกา แต่เรายังไม่ถึงกับเป็นที่นิยมในระดับต้นๆ เหมือนแบรนด์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม Piaget เป็นแบรนด์ที่มีจิตวิญญาณนักสู้และมีความหลงใหลอันแรงกล้าในมรดกและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำให้ใครก็ตามที่ได้มารู้จักเป็นครั้งแรกจะรู้สึกตกหลุมรัก Piaget ได้อย่างง่ายดาย ยิ่งคุณค้นหาเรื่องราวของ Piaget ก็ยิ่งทำให้คุณได้พบกับสมบัติล้ำค่าที่รอคอยให้ค้นพบอีกมากขึ้นๆ ในวาระครบรอบ 150 ปีของแบรนด์ แน่นอนว่าเป็นโอกาสอันสมบูรณ์แบบสำหรับเราในการเฉลิมฉลองให้กับอดีตและปัจจุบันของตนเอง ทุกการขับเคลื่อนล้วนเน้นย้ำถึงผลิตภัณฑ์ของเรา แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือเรื่องราวและความเป็นมาที่อยู่เบื้องหลังของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์ระดับโลกของ Piaget คุณอยากส่งข้อความอะไรถึงลูกค้าของคุณสำหรับปีที่พิเศษสุดนี้ของ Piaget?
การกล่าวว่า Piaget กลับมาแล้ว อาจจะดูแรงเกินไป เพราะทางเทคนิคแล้ว Piaget ไม่เคยหายไปไหนและอดีตก็คืออดีต ดังนั้นสารหลักคือ Piaget ได้ค้นพบแก่นแท้ของตนเองอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่ Benjamin Comar ได้เข้ามามาดำรงตำแหน่ง CEO เมื่อเกือบสามปีที่แล้ว เราได้เชื่อมโยงช่วงเวลาอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกันผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ การสื่อสาร และภาพลักษณ์ ไม่ใช่การจมอยู่กับอดีต หรือการกำหนดอนาคตตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เป้าหมายคือการแสวงหาความสมดุลอันสมบูรณ์ระหว่างต้นกำเนิดของเราและยุคปัจจุบัน ตัวอย่างที่ดีของสิ่งที่กล่าวว่าทั้งหมดคือ นาฬิกา Piaget Polo 79 ซึ่งได้คงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของโมเดลดั้งเดิม ขณะเดียวกันก็ได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ เช่น การกันน้ำ ขนาด กลไก หรือสีสันของทองคำ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการและการสวมใส่ในปัจจุบัน

หลังจากการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 150 ปี ที่ Watches & Wonders Geneva แล้ว คุณมีแผนในการสานต่อการเฉลิมฉลองในปีนี้หรือไม่อย่างไร?
แน่นอนเลย เรากำลังเฉลิมฉลองไม่เพียงแค่ผ่านการจัดงาน Watches & Wonders เท่านั้น แต่จะเป็นการเฉลิมฉลองในแง่มุมที่แตกต่างอื่นๆ ด้วย ซึ่งแต่ละแง่มุมจะเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์และเรื่องราวต่างๆ โดยเราได้เปิดตัว Piaget Polo 79 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามมาด้วยบทที่สองคือการเปิดตัว Altiplano Ultimate Concept Tourbillon นาฬิกาที่ประกอบด้วยจักรกลทูร์บิญองที่บางที่สุดในโลก เป็นการตอกย้ำถึงความเชี่ยวชาญของเราในด้านการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีความบางเป็นพิเศษ บทที่สามจะเป็นการจัดงานแสดงเครื่องประดับชั้นสูงในเดือนมิถุนายน ณ กรุงปารีส ซึ่งเป็นมากกว่าแค่การจัดแสดงเครื่องประดับชั้นสูง แต่เราได้จัดเป็นนิทรรศการที่เฉลิมฉลองอดีตและปัจจุบัน รวมถึงแก่นแท้ของนิยม “Extraleganza” ของ Piaget ซึ่งหลังจากการจัดงานหลักซึ่งเป็นงานเฉพาะสำหรับลูกค้าและสื่อมวลชนแล้ว เราจะเปิดให้ผู้โชคดีที่ได้รับคัดเลือกให้มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวอันน่าทึ่งนี้ในเวลาอีกสามวัน

ช่วยเล่าเรื่องราวของที่มาของการฟื้นฟูคอลเลกชัน Piaget Polo จากปี 1979 เพิ่มเติมให้เราอีกสักหน่อยได้ไหม?
การสร้างสรรค์คอลเลกชันระดับไอคอนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เป็นเรื่องที่หลายๆ คนพูดถึงกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว จริงๆ แล้ว มันเป็นหนึ่งในคำถามแรกๆ ที่ Benjamin Comar ได้รับหลังจากที่ได้เข้ามารับตำแหน่ง CEO โดยได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับหัวข้อนี้มาหลายปีแล้ว แต่ในการครบรอบ 150 ปีของ Piaget ถือเป็นวาระอันดีเยี่ยมจริงๆ ในการเปิดตัว Piaget Polo 79 การรังสรรค์นาฬิการะดับตำนานเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนสูงมากที่สุด เนื่องด้วยมีความเสี่ยงสูงในการสร้างความผิดหวังให้ทุกคนได้หากทำอะไรที่มากจนเกินไป หรือทำไม่ถึง ซึ่งหลังจากการทำงานอย่างหนักมา 2 ปีครึ่ง ในที่สุดก็สำเร็จออกมาได้ และเป็นผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายของเราด้วย

Piaget เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความบางพิเศษ และได้เปิดตัวนาฬิกา Altiplano Ultimate Concept Tourbillon อันเป็นสถิติโลกใหม่ในปีนี้ ทั้งนี้ Piaget จะยังคงเดินหน้าต่อไปในการเป็นผู้นำด้านความบางนี้หรือไม่?
เมื่อคุณได้เชื่อมต่อกับดีเอ็นเอของตนเองแล้ว คุณไม่มีทางหันหลังกลับได้ Piaget เป็นเมซงที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ ความกล้าบ้าบิ่น และความเป็น Extraleganza อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา เราได้นำเอานาฬิกาแบบกำไลข้อมืออันเป็นผลงานซิกเนเจอร์ของเราอย่าง Swinging Sautoirs กลับมานำเสนออีกครั้งในปี 2023 รวมถึงนาฬิกาที่มีความบางเป็นพิเศษอันเป็นความเชี่ยวชาญของเรา สิ่งเหล่านี้ไม่มีวันหายไป เราจะสร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยยังคงในขอบเขตที่ยังเป็นตัวตนของเรา Piaget เป็นเมซงที่แตกต่างอย่างมากในแง่ของประวัติศาสตร์ ผลิตภัณฑ์ และความชำนาญ เราจำเป็นต้องเฉลิมฉลองให้กับความโดดเด่นนี้อย่างไม่ผสมปนเป

Piaget ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาแต่สามารถพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านเครื่องประดับได้เป็นอย่างดี
เราแบ่งจักรวาลทั้งสองอย่างละ 50/50 เราเป็นช่างประดิษฐ์นาฬิกาที่กลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณี ซึ่งทั้งสองโลกต่างสะท้อนซึ่งกันและกัน อย่างเช่น Stephanie Sivriere ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของเราที่มักจะสวมใส่นาฬิกาไว้กับชุดเครื่องประดับชั้นสูงของเธอเสมอ เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเธอและเธอมักจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องประดับได้ศึกษางานเกี่ยวกับนาฬิกา รวมถึงให้ผู้ออกแบบนาฬิกาที่ต้องศึกษางานจิวเวลรี่ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของเราเอง ตัวอย่างของผลงานที่เห็นได้ชัดคือ Altiplano Ultimate Concept Tourbillon นาฬิกาที่มีเทคโนโลยีสูงแต่สามารถสวมใส่ได้อย่างเหมาะสมจากรูปทรงของหูสายและการกันน้ำที่ดี เหนือสิ่งอื่นใด เสน่ห์ของนาฬิกาเรือนนี้คือสีน้ำเงินและสีทองที่สวยงาม สายนาฬิกาหนังวัวมาพร้อมลาย “embossé” พิมพ์นูนสามมิติที่มีความคล้ายกับสายถักที่เงางาม มีทั้งความเก๋ ละเอียดอ่อน และผสมผสานทั้งสองจักรวาลที่มีเฉพาะของ Piaget ให้เข้ากันอย่างลงตัว

อะไรคือความท้าทายสูงสุดของ Piaget ในแง่ของการสื่อสารแบรนด์ในปีนี้ ?
ความท้าทายในปีนี้คือ การสื่อสารที่จะต้องมีความสอดคล้องกันตั้งแต่ต้นจนจบในทุกๆ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ การสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ และการขยายความของสารที่ส่งไป Piaget ไม่ได้มีวิธีการเช่นเดียวกับแบรนด์อื่นๆ เป้าหมายคือไม่ทำตามพวกเขา แต่จะใช้วิธีการของเราเอง นั่นคือการจุดประกายความสุขไปทั่วโลก และฉันขอเสริมว่าอย่าลืมที่จะสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับปีที่น่าทึ่งนี้