BREGUET Expérimentale 1

Last updated: 2 ธ.ค. 2568  |  332 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BREGUET Expérimentale 1

ในโลกของนาฬิกาหรู มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ไม่ต้องอาศัยคำโปรยหรือความหวือหวาใดๆ ก็สามารถสั่นสะเทือนหัวใจของนักสะสมได้ในทันทีที่เอ่ยชื่อ “Breguet” เพราะนี่คือแบรนด์ที่ไม่ได้เพียงสร้างนาฬิกา แต่สร้าง “หลักการ” ให้กับทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่ศตวรรษก่อน ทั้งทูร์บิญอง, สปริงปลายโค้งทรง Breguet, natural escapement เอสเคปเม้นท์ที่ใช้พลังงานได้อย่าง “เป็นธรรมชาติ” มีแรงเสียดทานต่ำมาก และแทบไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นและอีกมากมาย—ล้วนเป็นผลงานของผู้ชายชื่อ Abraham-Louis Breguet ผู้ซึ่งชีวิตทั้งชีวิตคือการทดลองไม่หยุดนิ่ง

ส่งท้ายปี 2025 แบรนด์เลือกวิธีเฉลิมฉลอง 250 ปีของตัวเองด้วยการย้อนกลับไปหาหัวใจเดิมนั่นเอง—ความกล้าที่จะทดลอง และการปลดปล่อยแนวคิดที่ยังไม่มีใครกล้าทำมาก่อน ผลลัพธ์คือการเปิดตัวไลน์ใหม่ในชื่อ “Expérimentale” โดยมีผลงานเรือนแรกที่ออกมาประเดิมไลน์นี้คือ Breguet Expérimentale 1 นาฬิกาที่จะทำให้วงการต้องหันกลับมามองอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะสีใหม่ ไม่ใช่เพราะวัสดุใหม่ แต่เพราะมันคือการขีดเส้นทางของอนาคตเครื่องบอกเวลาชั้นสูงอย่างแท้จริง

Expérimentale: ห้องทดลองที่ถูกยกขึ้นมาบนเวทีหลัก
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Expérimentale ไม่ใช่ “คอลเลกชันย่อย” เหมือนทั่วไป แต่เป็น “พื้นที่ทดลอง” ของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Breguet ทั้งหมด โดยเป็นเหมือนห้องทดลองที่ถูกยกขึ้นมาให้ผู้สะสมได้เห็นในรูปแบบของเรือนเวลาจริง หลายแบรนด์อาจมีแล็บ R&D ที่ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่กล้าทำให้ผลงานกลายเป็นเรือนผลิตจริง และอยู่ในสเกลความงามระดับเครื่องบอกเวลาชั่นสูงแบบนี้ Breguet ไม่ได้เพียงพูดถึงนวัตกรรมแค่ในบทความ แต่หยิบมันมา “โชว์หมด” ใน Expérimentale 1—ราวกับต้องการบอกโลกว่าพลังสร้างสรรค์ด้านวิศวกรรมของตนนั้นยังคมและเฉียบไม่แพ้ยุคเก่า

รากเหง้าของเรือนทดลองที่ล้ำยุค—แต่ยืนอยู่บนประวัติศาสตร์แข็งแกร่ง
แม้ชื่อ Expérimentale จะฟังดูล้ำยุค แต่ตัวเรือนและแนวคิดถูกผูกโยงอย่างสวยงามกับมรดกยุคเก่าของแบรนด์ โดยวางให้อยู่ในตระกูล Marine อันเป็นคอลเลกชันที่มีประวัติศาสตร์ระดับราชสำนักรองรับ เพราะในปี 1814 Louis XVIII แต่งตั้ง A.-L. Breguet ให้เป็น Horloger de la Marine Royale หรือช่างทำนาฬิกาประจำราชนาวีฝรั่งเศส ตำแหน่งที่ถือว่าสูงที่สุดในยุคนั้น เพราะนาฬิกาทางทะเลคือหัวใจของการเดินเรือและการกำหนดพิกัดโลก


ดังนั้นการเปิดตัวเรือนทดลองแรกในตระกูล Marine จึงเป็นเหมือนการบอกว่า Breguet ไม่ได้ทดลองเพื่อความตื่นเต้น แต่เพื่อสานต่อภารกิจทางวิทยาศาสตร์ที่แบรนด์ทำต่อเนื่องมากว่า 250 ปี และเพื่อย้ำว่า “ความเที่ยงตรง” คือคำที่เขียนอยู่ในจิตวิญญาณของตระกูลนี้ตั้งแต่ต้นกำเนิด

นอกจากนี้ Expérimentale 1 ยังโยงตัวเองกลับไปยัง Marine Chronometer No.104 รวมถึงนาฬิกาเรือนพิเศษอย่าง Reference 3448 และ Reference 1747 ซึ่งต่างมีความสำคัญต่อวิวัฒนาการด้านสถาปัตยกรรมกลไกของแบรนด์ สะท้อนให้เห็นว่า Expérimentale 1 ไม่ใช่ผลงานใหม่ไร้รากเหง้า แต่คือทายาทรุ่นล่าสุดของสายเลือดนักทดลองระดับตำนาน

ความท้าทายเหนือกว่าการประดิษฐ์นาฬิกา: การไล่ล่าความเที่ยงตรงที่แท้จริง
สำหรับหลายคน “ความเที่ยงตรง” อาจเป็นเพียงตัวเลขบนสเปก แต่สำหรับนักประดิษฐ์นาฬิกา มันคือโจทย์ที่ยากที่สุด และไม่มีทางตอบได้ด้วยวิธีเดียว Breguet ตั้งโจทย์ไว้ชัดเจนว่า หากจะสร้าง Expérimentale 1 ในฐานะเรือนเวลาเชิงทดลอง มันต้องแก้ปัญหาใหญ่ สามข้อ ที่วงการนาฬิกาเผชิญมานานเป็นร้อยปี ได้แก่:

1. แรงบิดที่ลดลงเมื่อกำลังลานใกล้หมด
Amplitude หรือองศาการแกว่งของบาลานซ์วีลในแต่ละรอบการสั่นของจักรสมดุลแกว่งน้อยลง ซึ่งทำให้ความเที่ยงตรงลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

2. แรงโน้มถ่วงโลก
ไม่ว่าจะหลบซ่อนแค่ไหน แต่แรงโน้มถ่วงคือ “ผู้ร้ายตัวจริง” ที่ทำให้กลไกเดินไม่เท่ากันในแต่ละตำแหน่ง โดยเฉพาะเมื่อนาฬิกาอยู่บนข้อมือที่มีกิจกรรมตลอดในองศาที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน

3. แรงกระแทกและการเร่งหลาย G ในชีวิตจริง
ชีวิตคนสวมมักโหดกว่าห้องทดลองเสมอ และการกระแทกเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้การเดินเปลี่ยนไปได้ทันที

สามปัญหา หนึ่งคำตอบ
นั่นก็คือทูร์บิญองความถี่สูง 10 Hz + Magnetic Constant Force Escapement
นี่คือหัวใจของ Expérimentale 1 และเป็นเหตุผลที่มันถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนี้!


Breguet เลือกใช้ทางออกที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน นั่นคือ การจับคู่ทูร์บิญองความถี่สูงกับระบบส่งแรงแบบสนามแม่เหล็ก Magnetic Constant Force Escapement ซึ่งเป็นระบบเอสเคปเม้นท์ที่ใช้ “สนามแม่เหล็ก” เพื่อส่งแรงกระตุ้นให้บาลานซ์อย่างคงที่ตลอดเวลาทำงานของนาฬิกา ไม่ว่าจะลานเต็มหรือลานใกล้หมด พร้อมฟังก์ชัน constant force ที่ช่วยควบคุมการส่งกำลังให้มีความเสถียร์สูง ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ และน่าจะเป็นหนึ่งในระบบที่ก้าวหน้าที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกายุคนี้

1. ความถี่สูง 10 Hz (72,000 ครั้ง/ชั่วโมง)
ข้อดีคือ เสถียรภาพ—ยิ่งความถี่สูง นาฬิกายิ่งกลับมาสู่ amplitude ปกติได้เร็วหลังการกระทแรง เพราะ oscillation หรือการแกว่งไป–กลับหนึ่งรอบของจักรสมดุล ให้มีความถี่กว่า มีจังหวะรับแรงน้อยกว่า และในทูร์บิญอง ซึ่งปกติเดินที่เพียง 2.5 Hz ซึ่งการเพิ่มเป็น 10 Hz ถือเป็นการกระโดดครั้งใหญ่ชนิดสี่เท่า

2. Magnetic Escapement ที่ส่งแรงนิ่งจนน่าตกใจ
ระบบนี้ประกอบด้วย escape wheel คู่พร้อมรางแม่เหล็ก / pallet-lever ที่ใช้แม่เหล็ก / ชุดเฟืองกลางป้องกันการกระโดด ที่จะทำให้สนามแม่เหล็กถูกควบคุมอย่างละเอียดจนแรงที่ส่งไปยังจักรสมดุลไม่ขึ้นกับแรงบิดที่ลดลงจากกำลังลานเลย จึงเป็นการควบคุมการส่งพลังงานที่เสถียรหรือ constant force แบบแท้จริง

3. ผลลัพธ์: ความเที่ยงตรงระดับ ±1 วินาทีต่อวัน
ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่ “ดี” แต่น่าตกใจสำหรับทูร์บิญองแบบสวมใส่และใช้งานจริงในทุกวัน และ Breguet รับรองคุณภาพด้วย Hallmark – Scientific Category

โครงสร้างโปร่งใสแบบสถาปัตยกรรม: เมื่อกลไกคือแฟชั่น
Expérimentale 1 ถูกออกแบบให้เป็นนาฬิกาที่ไม่ได้เพียง “โชว์กลไก” แต่ทำให้กลไกกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของความงาม” อย่างแท้จริง มองผ่านหน้าปัดแซฟไฟร์เต็มผืนก็จะเห็นการจัดวางสถาปัตยกรรมกลไกภายในแบบสมมาตร บนพื้นที่ที่ใช้ทุกมิลลิเมตรอย่างมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็น ตลับลานคู่แบบสองระดับวางตรงข้ามกันที่ 3 และ 9 นาฬิกา / กลไกทูร์บิญองที่ยกตัวลอยขึ้นเหนือโครงสร้าง และการจัดรูปแบบเวลาแบบ “Regulator” หรือแยกเข็มอิสระ ซึ่งให้ความรู้สึกแบบเครื่องมือวัดชั้นสูงที่อ่านค่าได้ง่ายมาก

เมื่อยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังดูงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นผสานกลศาสตร์สวิสที่สวยแบบนิ่งๆ สงบๆๆ แต่งทรงพลังในเวลาเดียวกัน


ตลับลานคู่แบบสองชั้น: พื้นที่เท่าเดิม แต่มอบพลังงานดีกว่าเดิม
การใช้ลานคู่แบบซ้อนสองชั้นทำให้ Breguet สามารถเพิ่มปริมาณพลังงานและควบคุมแรงบิดให้ราบเรียบ โดยไม่ต้องขยายตัวเรือนให้ใหญ่หรือหนาเทอะทะ ตลับลานด้านล่างคั่นด้วยแผ่นแซฟไฟร์บางเฉียบ ทำให้กลไกดูเหมือนสถาปัตยกรรมของพลังงานมากกว่าเป็นแค่ระบบสปริงลานธรรมดา

ความงามที่เข้าใจได้ทันที: Marine แต่ตีความใหม่ให้โมเดิร์นขึ้นมาก
แม้จะเป็นเรือนทดลอง แต่ Expérimentale 1 ยังคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอของนาฬิกาในตระกูล Marine ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนคลาสสิกที่รังสรรค์จากทอง Breguet ขนาด 43.5 มิลลิเมตร ขนาดที่ใหญ่พอให้สัมผัสถึงเทคโนโลยีสุดล้ำ แต่ยังคงความงามสง่า โดยยังคงได้รับการขัดแต่งอย่างประณีตทั้งงานขัดแต่งแบบซาตินและขัดเงาในสไตล์ของ Breguet ที่ไม่อาจเลียนแบบได้ เข็มปลายโปร่งพร้อมการเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่า วาดผ่านไปบนตัวเลขทรง Breguet อันเปี่ยมเอกลักษณ์ ข้อต่อตัวเรือนแบบ 6 ข้อ สามารถสลับสายในแบบที่นาฬิกา Marine รุ่นก่อนไม่เคยมี และการเคลือบ ALD สีน้ำเงินเข้มบนชิ้นส่วนหลัก ที่มอบความรู้สึกเฉียบคมและล้ำยุค ทุกเส้น ทุกมุม บอกเราว่านี่คือ Marine ที่เกิดขึ้นในยุคที่วิศวกรรมและแฟชั่นผสานกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่นาฬิกาเครื่องมืออย่างในอดีต แต่เป็น “งานออกแบบ” เต็มตัว

ไฮไลต์ด้านความงาม: ทูร์บิญองที่ตั้งใจให้ดูเหมือนลอยคว้างในอากาศ
ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ทูร์บิญองไม่ได้ถูกวางลงเหมือนในนาฬิกาอื่น แต่ถูกยกขึ้นจนเหมือนลอยตัวอยู่กลางอวกาศ ส่วนหนึ่งอยู่ในวงนาที ส่วนหนึ่งยืนออกมาเหนือหน้าปัด ผลคือลูกเล่นที่ให้ความรู้สึกในแบบ “สามมิติ” ชัดเจน และคล้ายงานศิลปะแบบประติมากรรมเคลื่อนไหว (kinetic sculpture) แบบร่วมสมัย ด้านบนของแท่นเครื่องประดับตรา Expérimentale 1 ที่วางอย่างลงตัว ราวกับป้ายที่บอกว่า นี่คือผลงานต้นแบบของยุคใหม่

การออกแบบที่ตั้งใจให้ดูเป็นอนาคต แต่ยังอบอุ่นแบบ Breguet
สะพานจักรทองที่ได้รับการลบเหลี่ยม ขัดมุม และทำผิวแบบซาติน ให้ความรู้สึกทันสมัย แต่ยังมีความอบอุ่นของโลหะล้ำค่าที่แบรนด์ไม่เคยละทิ้ง โทนสีน้ำเงินเข้มของชิ้นส่วน ALD ให้ความรู้สึกเทคโนโลยี แต่ไม่เย็นชาเกินไป คือการหาสมดุลระหว่าง “แฟชั่น” และ “วิศวกรรม” ที่ลงตัวแบบหาได้ยากในโลกนาฬิกา

Expérimentale 1: จุดเริ่มต้นของบทใหม่ทั้งหมด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ Expérimentale 1 ไม่ใช่ผลงานเดี่ยว แต่เป็น “บทแรก” ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอีกหลายปี นาฬิกาเรือนนี้ไม่ใช่เพียงเรือนเวลาที่สวยและล้ำ แต่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเทคโนโลยีรุ่นถัดไปที่อาจไปปรากฏใน Marine, Tradition, หรือแม้แต่รุ่นใหม่ที่เรายังไม่รู้จัก ถ้าวันหนึ่ง magnetic escapement กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม เราจะย้อนกลับมาที่ Expérimentale 1 แล้วบอกว่า “นี่แหละ จุดเริ่มต้นของทุกอย่าง”

นาฬิกาที่ตอบคำถามของอนาคต
Expérimentale 1 ในสายแฟชั่นอาจถูกมองว่าเป็น “statement piece” นาฬิกาที่ทั้งหรู ล้ำ และมีสตอรี่ที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับนักสะสม มันคือ “rare experimental platform” สำหรับนักเทคนิค มันคือ “ระบบ escapement รุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นจริงครั้งแรก” และสำหรับ Breguet นี่คือการกลับไปสู่รากเหง้าการทดลองของ Abraham-Louis Breguet ในรูปแบบที่ร่วมสมัยที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยทำมา

Expérimentale 1 คือเรือนเวลาที่ตั้งใจจะให้เรามองไปข้างหน้าในแบบเดียวกับที่เราหันกลับมามองอดีตของแบรนด์ และนั่นคือความงามที่สุด ความงามที่อยู่บนเส้นแบ่งระหว่างวิทยาศาสตร์และแฟชั่นอย่างสมบูรณ์แบบ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้