Last updated: 27 ก.ย. 2559 | 3670 จำนวนผู้เข้าชม |
BOMBAY LUG: สายสร้อยข้อมือสุดเก๋ที่มากับ Datejust วินเทจ โดยแสดงสัญลักษณ์ไว้ที่ตรงกลางของมัน
CERACHROM: วัสดุเซรามิกที่ Rolex พัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับรุ่น “Professional” เป็นวัสดุที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ในขณะที่สีของมันก็เป็นสีที่คงทนและไม่ได้รับผลกระทบจากรังสี UV
EVEROSE: ศัพท์เฉพาะของ Rolex ที่ใช้เรียกโลหะผสมทองคำสีชมพู 18 กะรัต ที่แบรนด์ผลิตขึ้นเองโดยใช้สูตรพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นวัสดุที่มีความทนทาน และมีสีสันสดใส
FAT LADY: GMT-Master Ref. 16760 ผลิตขึ้นในช่วงระหว่างปี 1983 – 1988 โดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนสีแดงดำ มันได้ชื่อนี้เนื่องจากตัวเรือนของมันมีขนาดใหญ่กว่าเรือนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน 1 มิลลิเมตร
FRECCIONE: Explorer II Ref. 1655 ของปี 1971 มันถูกตั้งชื่อตามภาษาอิตาเลียนที่แปลว่า ลูกศรขนาดใหญ่ ซึ่งอ้างอิงถึงเข็มแสดงชั่วโมงพิเศษที่มีลักษณะเป็นลูกศรขนาดใหญ่ มันยังมีอีกชื่อเล่นว่า “Steve McQueen” เนื่องจากมีข่าวลือว่าเขาสวมมัน
GREAT WHITE: Sea-Dweller ของปี 1977 ลักษณะเฉพาะของมันคือข้อความที่เป็นสีแดงถูกแทนที่ด้วยตัวอักษรสีขาวหมดทั้ง 4 บรรทัด
PAPA SMURF: Submariner ตัวเรือนทองคำขาว Ref. 116619 ที่เปิดตัวในปี 2008 พร้อมหน้าปัดและขอบตัวเรือนสี powder-blue (ภาพด้านบน)
PRESIDENT: Day Date สายสร้อยข้อมือทองคำ มันได้ชื่อนี้เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเริ่มจาก Dwight Eisenhower และบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงผู้นำระดับโลกหลายคนมักถูกถ่ายภาพในขณะที่สวมใส่นาฬิกาเรือนนี้
PUSSY GALORE: GMT-Master Ref. 6542 มันได้ชื่อนี้หลังจาก Honor Blackman นักแสดงสาวที่รับบทเป็นผู้หญิงของ James Bond สวมใส่มันในภาพยนตร์ 007 ตอนที่ 3 Goldfinger ในปี 1964
ROLESOR: ชื่อสิทธิบัตรของ Rolex ในปี 1933 มันคือเรือนเวลา 2 กษัตริย์ที่ใช้ทองคำ หรือทองคำชมพู Everose ที่ขอบตัวเรือน เม็ดมะยม และตรงกลางสายสร้อยข้อมือซึ่งเชื่อมต่อกับตัวเรือนกลาง และขอบนอกสตีล
21 เม.ย 2564