Last updated: 12 ก.ค. 2562 | 1274 จำนวนผู้เข้าชม |
หากพูดถึงแบรนด์ที่อยู่ในระดับลักซ์ชัวรี่ของบริษัท ไซโก แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่มักพุ่งความสนใจไปที่แบรนด์ Grand Seiko เพราะเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของแบรนด์ ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพของความเที่ยงตรง นวัตกรรม และผลงานอันประณีต แต่ทว่าในงาน Basel World 2019 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Seiko ได้ยกระดับความหรูหราของแบรนด์ ด้วยการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่แตกไลน์มาจากซีรีย์ยอดนิยมอย่าง พรอสเปกซ์ ที่ใช้ชื่อว่า 'Seiko Prospex LX Line' ไซโก พรอสเปกซ์ แอล เอกซ์ ไลน์ ที่เผยโฉม 3 โมเดล แบ่งตามประเภทการใช้งานเหมือนกับ Prospex รุ่นทั่วไป คือ SEA, LAND และ SKY
สำหรับชื่อรุ่น LX นั้นเป็นการนำเอาคำจากภาษาละตินอย่างคำว่า 'Lux' ที่แปลว่า ‘แสง’ มาใช้ในการนำเสนอและถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ของนาฬิกา โดยต้องการจะสื่อถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบที่แสดงถึงความละเอียดอ่อนของแสงสะท้อนที่แผ่ออกไปยามตกกระทบกับพื้นผิวของตัวเรือน โดย LX Line นั้นเป็นการผสมผสานของความโดดเด่นในหลายๆ ด้านของนาฬิกา ความประณีตในการขัดแต่งบนตัวเรือนและทุกรายละเอียด และที่สำคัญกลไกอันเที่ยงตรงอย่างสปริงไดร์ฟที่เคยถูกบรรจุไว้เพียงแต่ใน
แกรนด์ ไซโก ได้ถูกนำมาบรรจุใน ไซโก พรอสเปกซ์ แอล เอกซ์ ไลน์ เพื่อทำให้เกิดความสามารถในการใช้งานที่สมรรถนะอันสมบูรณ์แบบรับกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของนาฬิกา สปอร์ต ลักซ์ชัวรี่ โดย ไซโก ได้นักออกแบบชื่อดัง อย่าง เคน โอคุยามา (Ken Okuyama) ดีไซเนอร์ญี่ปุ่น ผู้มีประสบการณ์ในการออกแบบระดับโลกมาร่วมออกแบบนาฬิกา ซีรีย์ แอล เอกซ์ นี้ด้วย
เพื่อให้ตัวผลงานออกมาโดดเด่นและเต็มไปด้วยความสปอร์ตแบบเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการเป็นกระแสรับรู้ในวงกว้าง โปรเจ็กต์ LX Line ของ Seiko จึงได้ร่วมมือกับทาง เคน โอคุยามา (Ken Okuyama) นักออกแบบที่สร้างชื่อเสียงจากการเป็นหัวหน้าทีมในการสร้างสรรค์รถสปอร์ตระดับโลกอย่าง เอ็นโซ เฟอร์รารี่ (Enzo Ferrari) ในปี 2002 การได้ตัว โอคุยามา มาร่วมงานนั้นย่อมทำให้เห็นว่าโปรเจ็กต์ LX Line ของ Seiko ย่อมไม่ธรรมดา เพราะถือเป็นการทำงานร่วมกันของผู้ที่มีความโดดเด่นจาก 2 ฝั่งอุตสาหกรรม ทั้งนาฬิกาและนักออกแบบรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ระดับโลก
นาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้ถูกสร้างสรรค์ภายใต้ตัวเรือนที่มีสไตล์และรูปแบบเดียวกัน แต่มีการปรับเปลี่ยนไปตามคอนเซ็ปต์ของการใช้งานในแต่ละประเภท โดยทุกรุ่นจะมากับตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.8 มิลลิเมตร และได้รับการผลิตจากวัสดุชั้นเยี่ยมที่มีน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียม โดยมีทั้งตัวเรือนสีสตีลตามธรรมชาติที่ผ่านการ Hard Coating และตัวเรือนสีดำที่เป็นแบบ Black Hard Coating เพิ่มความดุดันให้กับผู้สวมใส่
PROSPEX LX : SEA COLLECTION
เน้นการใช้งานในรูปแบบ Diving ที่มีความโดดเด่นในแง่ของตัวเรือนและกลไก โดยรุ่นมีความหนา 15.7 มิลลิเมตร พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และจากรูปทรงรวมถึงการวางเม็ดมะยมเอาไว้ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกานั้น ทำให้หลายคนอาจจะมองว่ามันคือ MM300 หรือเปล่า แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพียงแต่ที่เหมือนกันนั้นเป็นเพราะนาฬิกาต้นแบบสำหรับการออกแบบก็คือ รุ่น 6215-7000 ซึ่งถูกพัฒนาให้เป็นนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Marinemaster 300 เมตร
สำหรับ SEA ซีรีย์ นั้น มีทั้งแบบตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลในรหัส SNR029 และ แบลค ซีรีย์ รหัส SNR031 โดยทุกเรือนมากับขอบสเกลบน Bezel ที่ผลิตมาจากเซรามิก เข็มชั่วโมงและวินาทีทรงแท่งยาว พร้อมเบ้าพรายน้ำทรงกลม และเพิ่มรูปแบบการจัดวาง Power Reserve Indicator แบบสปอร์ตเอาไว้ เพื่อบ่งบอกพลังงานสำรอง พร้อมบรรจุกลไก Spring Drive คาลิเบอร์ 5R66 สำรองลาน 72 ชั่วโมง โดยมีอัตราความคลาดเคลื่อนเพียง +/- 15 วินาที/เดือน
SEIKO PROSPEX LX : LAND SERIES
PROSPEX LX LAND ซีรีย์ : ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในภาคพื้นดิน โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบกับผจญภัยกลางแจ้งทุกรูปแบบ โดยมีขายด้วยกัน 2 รุ่น คือ SNR025 และ แบลค ซีรีย์ SNR027 พร้อมความโดดเด่นของขอบบาเซลที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปแบบเหมือนเข็มทิศ โดยสลักตำแหน่งของทิศเอาไว้การบ่งชี้ทิศทาง พร้อมกับฟังก์ชั่น GMT เพื่อดูเวลาอีก 1 ประเทศ โดยบรรจุกลไกเป็น Spring Drive GMT คาลิเบอร์ 5R66 สำรองลาน 72 ชั่วโมง โดยมีอัตราความคลาดเคลื่อนเพียง +/- 15 วินาที/เดือน
SEIKO PROSPEX LX : SKY SERIES
PROSPEX LX SKY ซีรีย์: นาฬิกาสำหรับนักบินหรือนักเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องผ่านเขตเวลาหลากหลาย เหมาะอย่างยิ่งกับรุ่น SNR033 และ แบลค ซีรีย์ รหัส SNR035 ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างลงตัว เพราะพกความสามารถในการบอกค่าเวลาที่หลากหลายไว้บนหน้าปัดและขอบบาเซลและขอบหน้าปัด จะมีสเกล 1-24 เพื่อใช้ในการบอกเวลาที่ 2 และ 3 ได้ จึงมีความอเนกประสงค์ในการรองรับกับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งสองเรือนนี้ บรรจุกลไก Spring Drive GMT คาลิเบอร์ 5R66 สำรองลาน 72 ชั่วโมง สปอร์ตเรียบหรู กับตัวเรือนขนาด 44.8 มิลลิเมตร และหนา 14.7 มิลลิเมตรที่มีการขัดแต่งอย่างประณีตด้วยเทคนิคการขัดเงาแบบซารัสซึ ตามแบบฉบับของไซโกอีกด้วย
นาฬิกา SEIKO PROSPEX LX LINE เริ่มวางจำหน่าย 10 กรกฎาคมนี้ ณ งาน Siam Paragon Watch Expo 2019 และวางจำหน่ายที่ เคาท์เตอร์ ไซโก (เฉพาะสาขา) ในวันที่ 24 กรกฏาคม 2562
SEIKO PROSPEX LX LINE รุ่น SNR029J ราคา 216,600 บาท, รุ่น SNR031J ราคา 216,600 บาท, รุ่น SNR025J ราคา 185,000 บาท, รุ่น SNR027J ราคา 185,000 บาท, รุ่น SNR033J ราคา 198,500 บาท และรุ่น SNR035J ราคา 202,300 บาท
21 เม.ย 2564