Montblanc Star Legacy Exo Tourbillon Skeleton Limited Edition 8

Last updated: 28 ส.ค. 2563  |  1308 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Montblanc Star Legacy Exo Tourbillon Skeleton Limited Edition 8

Montblanc Star Legacy Exo Tourbillon Skeleton Limited Edition 8 ออกใหม่ ได้รับการตีความแบบหมดจดอีกครั้งจนมีรูปโฉมเป็นระบบกลไกสามมิติแบบโปร่งโล่งทั้งหมดซึ่งส่งให้เครื่องบอกเวลาชิ้นมีรูปแบบการแขวนลอยที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งธรรมเนียมการทำนาฬิการที่บริสุทธิ์ที่สุด ชิ้นส่วนทั้ง 188 ชิ้นของเครื่อง Manufacture Calibre MB M18.69 จึงต้องใช้ช่างฝีมือทั้งชายและหญิงผู้มีความชำนาญในการตกแต่งพื้นผิวอย่างช่างโบราณด้วยมือทั้งหมด เช่น การขัดผิวลายวงกลม การขัดผิวให้ขึ้นเงาสะท้อน และการทำให้พื้นผิวลาดเอียง เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นระบบกลไกนี้ยังประกอบด้วยมุมภายในถึง 420 มุม ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความหลงใหลในการทำให้สำเร็จด้วย

สถาปัตย์ที่เป็นโครงโปร่งแบบใหม่ของ Exo Tourbillon

ระบบกลไก Exo Tourbillon ต้นฉบับที่ได้รับสิทธิบัตร ถูกพัฒนาขึ้นภายในโรงงานผลิต Montblanc Manufacture ในเมืองวิเญอเรต์และใช้เวลาถึง 3 ปีในการพัฒนา สำหรับ Calibre MB M18.69 ซึ่งเป็นเครื่องไขลานด้วยมือรุ่นใหม่ที่มงต์บลองค์ผลิตเองนี้ วิศวกรของมงต์บลองค์ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 18 เดือนในการพัฒนาอันเนื่องมาจากความซับซ้อนของกรรมวิธีทำให้มีลักษณะเป็นโครงเจาะโปร่ง Calibre MB M18.69 พร้อมชิ้นส่วน 188 ชิ้นที่โรงงานมงต์บลองค์ผลิตเองนั้นผ่านการคิดทบทวนมาอย่างรอบคอบในแง่ความงามทางศิลปะ รูปทรงเรขาคณิต และความมั่นคง ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถเผยความงามของกลไกขณะเพิ่มสมรรถภาพของนาฬิกาได้พร้อมกัน

 

กลไกระบบนี้ประกอบด้วยการก่อสร้างแบบสามมิติที่แบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งนำพาให้ลักษณะการแขวนลอยของเครื่องบอกเวลาชิ้นนี้ก้าวไกลกว่าที่เคยไปอีกขั้น ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากเสาค้ำ 5 เสาที่รับน้ำหนักแท่นเครื่องที่ด้านบนสุดกับกระปุกลานพร้อมขบวนเฟืองที่ล่างสุด ปิดท้ายอย่างสมบูรณ์ด้วยจักรกรอก Exo Tourbillon ที่ด้านหน้ากับหน้าปัดทรงโดมบอกชั่วโมงและนาทีเยื้องศูนย์กลางที่ 12 นาฬิกา แท่นเครื่องและสะพานเป็นงานฉลุทั้งหมด เราจึงมองเห็นทั้งหมดนี้ได้จากทั้งสองฝั่งของนาฬิกา กระบอกลานก็เปิดโปร่งเพื่อเผยให้เห็นสปริง เครื่องบอกเวลาที่ได้จึงก่อเกิดเป็นการรวมโครงร่างที่สะอาดตาเข้าไว้ด้วยกัน เป็นที่ที่องค์ความรู้ด้านการทำนาฬิกาของช่างฝีมือมาบรรจบกับเทคโนโลยีอย่างลงตัวแล้วดึงความสนใจไปที่ Exo Tourbillon กับระบบกลไกที่โปร่งโล่งตั้งแต่บนลงล่าง เราแทบไม่มีโอกาสสังเกตเห็นระบบกลไกทั้งหมดทำงานในทุกมุมหรือมองเห็นแบบ 360 องศามาก่อน ชิ้นส่วนของกลไกที่มีขนาดเล็กมากแต่ละชิ้นผ่านการตกแต่งด้วยมืออย่างพิถีพิถันตามกรรมวิธีดั้งเดิมที่ตกทอดกันมาแล้วส่งเสริมเครื่องบอกเวลาชิ้นนี้ดูสว่างและเปิดโล่ง ด้วยระดับของกระบวนการที่ทำให้มีลักษณะเป็นโครงโปร่งและการตกแต่งเช่นนี้ การประกอบร่างเข้าด้วยกันจึงต้องอาศัยความชำนาญและความใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงรอยขูดขีดที่อาจเกิดขึ้นบนชิ้นส่วนที่มีผิวลาดเอียงได้

โรงงานผลิต Montblanc Manufacture ในเมืองวิเญอเรต์เป็นสถานที่ที่พิเศษมากๆ เพราะเป็นที่เก็บองค์ความรู้ในการผลิตระบบกลไกเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยสามารถผลิตชิ้นส่วนหลักๆ ได้เองทั้งหมด เช่น แท่นและสะพานที่เป็นเงินเยอรมัน (“Maillechort”) พร้อมการตกแต่งแบบดั้งเดิม ทั้งยังผลิตเครื่องมือที่ใช้ควบคุมการทำงานได้เองทั้งหมดอย่างขดสปริง เป็นต้น

การตกแต่งระบบกลไกด้วยมือตามวิถีช่างฝีมือ

ชิ้นส่วนทั้ง 188 ชิ้นของ Calibre MB M18.69 ที่ผลิตเองผ่านการตกแต่งทั้งหมดในโรงงาน Montblanc Manufacture ในเมืองวิเญอเรต์ด้วยการแต่งพื้นผิวตามขนบวิธีทำนาฬิกาดั้งเดิมที่ตกทอดกันมา เช่น การขัดผิวลายวงกลม การขัดผิวให้ขึ้นเงาสะท้อน และการทำให้พื้นผิวลาดเอียงตามมุมภายใน เป็นต้น รวมทั้งหมดแล้วระบบกลไกนี้ประกอบด้วยมุมภายมากกว่า 420 มุม ซึ่งช่างนาฬิกาผู้ชำนาญของมงต์บลองค์ต้องใช้เวลามากกว่า 2 อาทิตย์ในการตกแต่ง

การตกแต่งพื้นผิวในขั้นตอนสุดท้ายตามวิถีช่างฝีมือระดับไฮเอนด์ที่ซึ่งแม้แต่มุมของชิ้นส่วนขนาดเล็กก็ยังต้องใช้มือเกลาให้ผิวลาดเอียงเพื่อให้เล่นกับแสงไฟได้ดีเช่นนี้ เป็นศิลปะการทำนาฬิกาแบบโบราณและเป็นของแท้อย่างมาก มุมมีหลากหลายลักษณะแต่มุมภายใน (ระหว่าง 90° ถึง 180°) อันเป็นจุดที่มุมกลับของสองมุมบรรจบกันและทำให้เกิดจุดตัดที่คม คือสิ่งที่ยากในการทำให้สำเร็จมากๆ หากใช้เครื่องจักร งานนี้จะเป็นไปไม่ได้เลย ช่างฝีมือแต่ละคนจึงพัฒนาวิธีการและอุปกรณ์ของพวกเขาและเธอเองเพื่อใช้ทำงานกับชิ้นส่วนที่เล็กๆ แต่ละชิ้นเหล่านี้ ในเมืองวิเญอเรต์ ช่างฝีมือมักใช้กิ่งของดอกไม้ภูเขาอย่างดอกเจนเชียนซึ่งเป็นไม้พื้นถิ่นเนื้ออ่อน มาแต้มครีมเพชรขัดเงาลงเฉพาะบนชิ้นส่วนบางชิ้นเพื่อทำให้มันเปล่งประกายเป็นพิเศษในขั้นตอนสุดท้าย การตกแต่งเช่นนี้ต้องอาศัยเวลาและความอดทน และใช้เวลาเก็บประสบการณ์หลายปีกว่าจะทำผลงานที่ต้องการความแม่นยำและสม่ำเสมอเช่นนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

ตัวเรือนโรสโกลด์ 18K และหน้าปัดทอง 18K ลงยาด้วยเทคนิค Grand Feu แบบใหม่

ด้วยแรงบันดาลใจจากโครงร่างภายนอกที่เป็นสามมิติของสะพาน ตัวเรือนที่มีกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมที่ด้านหน้าจึงถูกสร้างขึ้นให้โอบรอบระบบกลไกภายใน ด้านนอกของแท่นเครื่องของระบบกลไกยึดกับด้านในด้านข้างของตัวเรือนไว้แน่นเพื่อให้ความรู้สึกถึงการลอยตัวอยู่อย่างชัดเจน ตัวเรือนขนาด 44.8 มม. เป็นโรสโกลด์ 18K และติดกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ตั้งสองฝั่งของนาฬิกาเพื่อเผยให้เห็นความงามของ Calibre MB M18.69 ที่ไขลานด้วยมือและทำพื้นผิวสำเร็จด้วยมืออย่างเต็มตา นอกจากนี้ยังทำให้มองเห็น Star Legacy Exo Tourbillon Skeleton จากหน้าถึงหลังได้สว่างใสหมดจดด้วย



หน้าปัดเยื้องศูนย์กลางที่ติดตั้งลงบนระบบกลไกและอยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา ทำด้วยทอง 18K และลงยาด้วยเทคนิค Grand Feu อันเป็นงานด้านเทคนิคที่พบได้ยากโดยให้สัมผัสแบบงานฝีมือและมีความโบราณ เข็มชั่วโมงและนาทีโรสโกลด์ 18K ปิดทองช่วยเติมเต็มความงามอย่างมีสุนทรีย์ให้ครบสมบูรณ์

เครื่องบอกเวลาเรือนนี้มาพร้อมสายหนังจระเข้ที่ใช้เทคนิคสฟูมาโตสีน้ำตาลเข้มซึ่งมาจากโรงงานหนังในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี และประกอบมากับบานพับสามชั้นพร้อมปุ่มเปิดปิดเพื่อการสวมใส่ที่ปลอดภัย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้