Cartier Into the Wild Exhibition

Last updated: 18 พ.ย. 2563 | 1865 จำนวนผู้เข้าชม |

Cartier จัดนิทรรศการสุดพิเศษ Into The Wild

ก่อนที่จะถึงนิทรรศการ Into The Wild ที่จะพาทุกท่านไปดื่มด่ำโลกของเสือแพนเตอร์ สัญลักษณ์ที่เคียงข้าง Cartier มาอย่างยาวนาน ชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับเสือแพนเตอร์ ไอคอนโดดเด่นของ Cartier และเรื่องราวความเป็นมา สายใยความผูกพันธ์ที่ถักร้อย Cartier และเสือแพนเตอร์ไว้ด้วยกัน ก่อนจะรังสรรค์เป็นคอลเลกชั่นเครื่องประดับและเรือนเวลาสุดคลาสสิก Panthère de Cartier (ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์) พร้อมยลโฉมความสง่าอย่างเสือด้วยตาท่านเอง ในงานนิทรรศการ Into the Wild ที่เปิดให้แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บูติก Cartier ชั้น M ศูนย์การค้าไอคอนสยาม 14 – 22 พฤศจิกายนนี้

เสือแพนเตอร์ ไอคอนโดดเด่นของ Cartier

เมื่อเอ่ยถึง Cartier แบรนด์เครื่องประดับและเรือนเวลาที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 173 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ย่อมนึกถึงสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับ Cartier มาอย่างยาวนาน อย่างเสือแพนเตอร์ (Panther) เสือรูปร่างปราดเปรียว มิยอมสยบให้ใคร เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังดึงดูดที่เผยถึงบุคลิกลักษณะอันเป็นจุดเด่นเฉพาะตัว เสือแพนเตอร์คือสิ่งมีชีวิตที่สะท้อนถึงความปรารถนาและเสน่ห์ดึงดูดใจ เต็มไปด้วยพลังอำนาจ อิสรภาพและจิตวิญญาณอันกล้าท้าทาย เสือแพนเตอร์เข้าใจคนประเภทเดียวกันเองเป็นอย่างดี เพราะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เชื่อมร้อยเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสัญชาติญาณและความเป็นตัวของตัวเอง

Cartier และเสือแพนเตอร์

พรหมลิขิตที่ถูกเชื่อมร้อยไว้ด้วยกัน ผ่านสตรีผู้สร้างสรรค์ ฌาน ตูแซงท์

เสือแพนเตอร์กลายเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับ Cartier นับตั้งปรากฏให้เห็นครั้งแรกในรูปแบบลายจุดบนนาฬิกาข้อมือเมื่อปี ค.ศ. 1914 ก่อนจะมีวิวัฒนาการจากลวดลายเชิงนามธรรมสู่เรือนร่างอันสมจริงของเสือแพนเตอร์ อีก 3 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1917 เสือแพนเตอร์โลดแล่นบนกล่องเครื่องสำอางที่ หลุยส์ คาร์เทียร์ มอบให้เป็นของขวัญแก่ ฌาน ตูแซงท์ (Jeanne Toussaint) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผู้หญิงคนแรกของ Cartier สตรีผู้มีจินตนาการแหวกแนวและจิตวิญญาณอิสระ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

เรื่องราวความผูกพันระหว่างเสือแพนเตอร์และ ฌาน ตูแซงท์ดำเนินต่อไป ในอีก 2 ปีต่อมาฌานได้สั่งทำ กล่องเครื่องสำอางเคลือบสีลงยาแบบจีนสีทองและสีดำ และเป็นอีกครั้งที่เสือแพนเตอร์ได้วาดท่วงท่าอยู่ด้วย ทำให้สิ่งมีชีวิตนี้กลายเสมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของ ฌาน ตูแซงท์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1948 ฌาน ตูแซงท์ ได้รังสรรค์การออกแบบอันเสมือนจริงให้กับเสือแพนเตอร์ในรูปแบบสามมิติ เสือแพนเตอร์จึงย่างกรายอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเมซง Cartier นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับการรังสรรค์คอลเลกชั่นปองแตร์ เดอ Cartier (Panthère de Cartier) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ เรือนเวลา น้ำหอมและอื่นๆ อีกมากมายทำให้เสือแพนเตอร์ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ามาอย่างยาวนาน ผ่านการตีความหลากทิศทาง ทั้งในแนวธรรมชาตินิยม (Naturalistic), กราฟิก (Graphic) และนามธรรม (Abstract) ความท้าทายที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ คือการทำให้เสือแพนเตอร์ดูเหมือนมีชีวิตและเคลื่อนไหวอย่างสมจริง ซึ่งต้องอาศัยการดีไซน์ที่สร้างสรรค์ประกอบกับหัตถศิลป์ฝีมือชั้นครู ปฏิสัมพันธ์ที่ดำรงอยู่เช่นนี้คือกุญแจสำคัญแห่งพลังสร้างสรรค์อันเป็นนิรันดร์ของเสือแพนเตอร์

Panthère Community

กลุ่มผู้กล้าที่สง่างาม เปี่ยมพลัง น่าหลงใหลเสมือนเสือแพนเตอร์

เสือแพนเตอร์มีชัยเหนือทุกอย่าง เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจที่สะกดทุกสายตาได้ตั้งแต่แรกเริ่ม เสือแพนเตอร์ถ่ายทอดตัวตนของกลุ่มคนรุ่นหนึ่งทั้งชายและหญิง ที่ต่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลและมีบุคลิกที่คล้ายเสือ เสือแพนเตอร์ถ่ายทอดบุคลิกที่มีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งเดียวของสตรีผู้สูงศักดิ์ อย่าง ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์, มาเรีย เฟลิกซ์ (María Félix), จูเลียต เกรโก (Juliette Greco), บาร์บารา ฮัตตัน (Barbara Hutton) และอีกมากมายหลายท่าน นอกจากนี้ ยังมีเซเลบริตี้รุ่นใหม่ที่หลงไหลในความสง่าและหาญกล้าของเสือแพนเตอร์ ได้แก่ มาเรียคาร์ลา บอสโคโน (Mariacarla Boscono), แอนนาเบลล์ วอลลิส (Annabelle Wallis), เอลล่า บาลินสกา (Ella Balinska), จาง เจิ้น (Chang Chen), คาเรน ม็อก (Karen Mok) เป็นต้น บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่ไร้ความหวาดกลัวและกล้าที่จะฉีกกฏเกณฑ์ ล้วนถูกดึงดูดให้เป็นเผ่าพันธุ์ของสัตว์ที่อันตรายที่สุดในโลกของCartier เนื่องด้วยพลังความเย้ายวนของเสือแพนเตอร์และความปรารถนา

ดื่มด่ำเรื่องราวอันเป็นตำนานของ Cartier และความสง่าอย่างเสือแพนเตอร์ พร้อมยลโฉมคอลเลกชั่น Panthère de Cartier (ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์) ที่รังสรรค์จากไอคอนที่อยู่คู่กับCartierมาอย่างยาวนานด้วยตาท่านเอง ในนิทรรศการ Into the Wild ณ บูติก Cartier ชั้น M ศูนย์การค้าไอคอนสยาม 14 – 22 พฤศจิกายนนี้