Hublot Classic Fusion 42mm Elements Special Edition for The Hour Glass

Last updated: 18 มี.ค. 2565  |  957 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Hublot Classic Fusion 42mm Elements  Special Edition for The Hour Glass

ด้วยความกล้าที่จะเดินหน้าทดลองสิ่งใหม่เสมอ ครั้งนี้ Hublot ได้เลือกธาตุทั้งห้าตามธรรมชาติมาเพื่อแสดงออกและถ่ายทอดถึงตัวตนภายใต้ความสวยงามเหนือจินตนาการ รวมถึงวิถีแห่งการสร้างสรรค์อันมีชีวิตชีวาและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจ ที่ล้วนเป็นหัวใจของปรัชญาแห่งการพัฒนาของแบรนด์ นั่นคือ ‘Art of Fusion’ (‘ศิลปะแห่งการผสมผสาน’) โดดเด่นด้วย Tiger’s eye (ไทเกอร์อายหรือหินตาเสือ), Red Jasper (เรดแจสเปอร์หรือควอตซ์แดง), Malachite (มาลาไคต์), Turquoise (เทอร์คอยซ์) และ Lapis Lazuli (ลาพิส ลาซูลี) นาฬิกา Classic Fusion รุ่นใหม่ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นพิเศษสำหรับ The Hour Glass เหล่านี้ได้ถ่ายทอดถึงความสวยงามของธาตุทางธรรมชาติ ขณะเดียวกันยังได้เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า Hublot นั้นไม่เคยหยุดนิ่งที่จะบุกเบิกซึ่งนวัตกรรมวัสดุใหม่ ๆ และพร้อมขยายขอบเขตพลังสร้างสรรค์ของตนออกไปอย่างไม่สิ้นสุด

Classic Fusion ไอคอนอันเหนือกาลเวลา
ในปี ค.ศ. 1980 Hublot เป็นแบรนด์ผู้ผลิตเรือนเวลารายแรกที่ได้เปิดตัวแนะนำนาฬิกาเรือนทองเข้ากับสายยาง และการผสมผสานนี้ได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วอุตสาหกรรมนาฬิกาอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และ Hublot ยังได้จุดประกายพลังสร้างสรรค์ขึ้นอีกครั้งด้วยนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง) ในอีก 25 ปีต่อมา โดยมีคำว่า ‘Art of Fusion' ที่ได้กลายเป็นหลักสำคัญของแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาสวิสนับจากนั้นเป็นต้นมา โดยการผสมผสานความเชี่ยวชาญของการประดิษฐ์นาฬิกาด้วยประเพณีอันทรงคุณค่าเข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและวัสดุอันเหนือความคาดหมาย ผลงานสร้างสรรค์ของ Hublot ได้ผลักดันซึ่งพรมแดนใหม่ ๆ ของการรังสรรค์นาฬิกาอันร่วมสมัยมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นาฬิกา Classic Fusion คือการตีความใหม่มาจากเรือนเวลารุ่นดั้งเดิมในปี ค.ศ. 1980 ของ Hublot โดยการผสมผสานวัสดุอันล้ำค่าและทันสมัยบนงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถจดจำได้อย่างทันที ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากช่องหน้าต่างเรือ (“hublot” ในภาษาฝรั่งเศส) ภายใต้ความเรียบง่ายและเส้นสายอันคมชัด คอลเลกชันนี้ได้ทำให้เรื่องราวของ Hublot ก้าวสู่นาฬิกาในรูปแบบเรียบง่ายหรือมินิมอลที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับการสวมใส่ได้ในทุกๆ โอกาส โดยมีให้เลือกทั้งระบบกลไก งานออกแบบ วัสดุ และสีสัน ที่หลากหลาย Classic Fusion ล้วนสะท้อนถึงการผสมผสานอย่างแท้จริงตรงกับชื่อที่ถูกเรียกขาน ซึ่งในแต่ละผลงานของคอลเลกชันอันเป็นที่รักยิ่งนี้ได้บ่มเพาะไว้ด้วย DNA ของเรือนเวลารุ่นดั้งเดิมแห่งปี ค.ศ. 1980 โดยผ่านการตีความใหม่ด้วยปรัชญา ‘Art of Fusion’ ของแบรนด์


ความเข้มข้นของธาตุธรรมชาติ
ในปี ค.ศ. 2022 นี้ Hublot ได้เดินหน้าการสำรวจสู่นวัตกรรมวัสดุด้วยนาฬิการุ่นพิเศษ Classic Fusion 42mm Elements special edition for The Hour Glass (คลาสสิค ฟิวชั่น 42มม. เอลิเมนต์ส สเปเชียล เอดิชัน ฟอร์ ดิ อาวร์ กลาส) ภายใต้จิตวิญญาณแห่ง ‘Art of Fusion’ ที่ความหลากหลายของหน้าปัดทั้งห้ารูปแบบนี้ได้ทำมาจากหินแร่สีสันสดใสและงดงามโดดเด่น อันได้แก่ Tiger’s Eye, Red Jasper, Malachite, Turquoise และ Lapis Lazuli โดยบรรจุภายในตัวเรือนไทเทเนียมตกแต่งด้วยงานปัดด้านแบบซาตินและขัดเงา พร้อมด้วยเม็ดมะยมและหูขอบตัวเรือนทำจาก King Gold (คิง โกลด์) ขัดเงา โดยหน้าปัดหินเหล่านี้ได้เผยความสวยงามและเอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติอย่างแท้จริง

ด้วยประกายรัศมีอันเจิดจรัสของแต่ละหน้าปัด ที่เติมเสน่ห์และความโดดเด่นด้วยการผสมผสานองค์ประกอบ เช่น สกรูบนขอบตัวเรือนรูปทรง ‘H’ ทำจาก King Gold ขัดเงา รวมถึงเข็มชี้บอกชั่วโมง นาที และวินาที ชุบเคลือบทองขัดเงาวาว คงไว้ซึ่งความแน่วแน่กับปรัชญา ‘Art of Fusion’ ที่ Hublot ได้แสดงออกอีกครั้งถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะในการผสมผสานระหว่างวัสดุธรรมชาติและวัสดุไฮเทคล้ำสมัย

การเสาะหาซึ่งวัสดุที่แตกต่างและเหนือชั้นด้วยชัยชนะแห่งนวัตกรรม Hublot ได้สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่นขึ้นด้วยศิลปะซึ่งหาชมได้ยากของงานฝีมือที่ใช้ในการรังสรรค์หน้าปัดจากหินแร่ โดยเสาะหาจากแหล่งหินอัญมณีชั้นเลิศที่นับเป็นความท้าทายอย่างแรก จากนั้นยังต้องอาศัยซึ่งความพิถีพิถันละเอียดอ่อนของศิลปินช่างฝีมือผู้เปี่ยมด้วยทักษะ ขั้นสูงในการตัดและขัดหินเหล่านี้ เพื่อปรับแต่งให้ได้ความหนาตามที่ต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการตัดจากแร่แต่ละชิ้น ทำให้แต่ละหน้าปัดนั้นมีความโดดเด่นของลวดลายเฉพาะตัว และนาฬิกาแต่ละเรือนจึงไม่มีโอกาสที่จะเหมือนหรือซ้ำกันโดยสิ้นเชิง


หน้าปัดด้วยบุคลิกเฉพาะตัว
เรือนเวลา Classic Fusion 42mm Elements special edition for The Hour Glass อาบไว้ด้วยบุคลิกความโดดเด่นและความเข้มข้นหนักแน่นของธาตุธรรมชาติ

เริ่มจากคุณสมบัติเฉพาะของ Tiger’s Eye นั้นคือเสน่ห์จากลายเส้นสีเหลือง ทอง และน้ำตาล ที่คล้ายราวกับขนของเสืออันมีเอกลักษณ์ และเมื่อผ่านการตัดและขัดอย่างพิถีพิถันละเอียดอ่อนแล้ว Tiger’s Eye ยังได้มอบผลลัพธ์ของหน้าปัดที่สะท้อนความอบอุ่นและดึงดูดใจ ทั้งยังอาบไว้ด้วยบุคลิกสไตล์เอิร์ธโทนได้อย่างงดงามเปี่ยมด้วยพลัง

มีชื่อเสียงด้วยคุณสมบัติด้านการรักษาและบำบัดฟื้นฟู Red Jasper นั้นมีความสวยงามจากเฉดสีแดงสดใสมีชีวิตชีวา และยังคงถูกเลือกสวมใส่เป็นดั่งเครื่องรางนำโชคของผู้คนทั่วโลก

Malachite กับเอกลักษณ์ของสีเขียวสดได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมตลอดช่วงประวัติศาสตร์โบราณ จากทั้งคุณสมบัติด้านความสวยงามสำหรับเครื่องประดับตกแต่งและในทางพิธีกรรม โดยเฉดสีเขียวอันเปล่งประกายนี้ชวนให้นึกถึงผืนป่าอันเขียวขจีและเขียวชอุ่มไปด้วยแมกไม้

Turquoise ได้ชื่อมาจากภาษาฝรั่งเศสโบราณว่า “turkeise” ซึ่งมีความหมายว่า “Turkish” (ตุรกี) ด้วยเพราะเป็นแร่ธรรมชาติชนิดแรกที่ถูกนำเข้าสู่ยุโรปผ่านตุรกีจากเหมืองต่าง ๆ ทางตะวันออกกลาง เฉดสีฟ้าอันโดดเด่นและแตกต่างของ เทอร์คอยซ์ได้ถูกนำมาใช้ผสมผสานกับงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมทั่วโลก เพื่อมอบซึ่งมิติอันงดงามและยิ่งใหญ่

Lapis Lazuli กับสีโคบอลต์บลู (cobalt blue) เฉดน้ำเงินเข้มได้ถูกเลือกใช้โดยเหล่าราชวงศ์สำหรับเครื่องประดับและการตกแต่งตลอดช่วงเวลาหลายศตวรรษ และเมื่อถูกขัดเงาหินแปรด้วยประกายระริบระยับในเฉดสีน้ำเงินเข้มนี้ได้มอบซึ่งภาพราวดั่งท้องฟ้ายามราตรีที่พร่างพราวระยิบระยับไปด้วยมวลหมู่ดาว


Special Edition ร่วมกับ The Hour Glass
เอดิชันพิเศษของนาฬิกาซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือนสำหรับแต่ละเวอร์ชันหน้าปัดในรุ่น Classic Fusion 42mm Elements นี้ ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ ความถี่ 4 เฮิรตซ์ ของ Hublot HUB1100 calibre (อูโบลท์ เอชยูบี1100 คาลิเบอร์) สำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง โดยสามารถมองเห็นกลไกการทำงานได้ผ่านทางหน้าต่างกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เปลือยใสของฝาหลังไทเทเนียมที่ตกแต่งด้วยงานปัดด้านแบบซาติน พร้อมแกะสลักข้อความ “SPECIAL EDITION” “XX/10” โดยรอบขอบฝาหลัง

นาฬิกาแต่ละเรือนมาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีดำผสานยางสีดำ เย็บตะเข็บด้วยเส้นทองคำ 5N และหัวเข็มขัดแบบบานพับปรับได้ทำจากสเตนเลสสตีลเคลือบทอง

“ถือกำเนิดจากความปรารถนาและความหลงใหลที่มีร่วมกันในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมนาฬิกาให้ก้าวเดินไปข้างหน้า สัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นและยาวนานของ The Hour Glass และ Hublot นี้ได้สืบทอดมามากว่า 40 ปี โดยการเปิดตัวของ Classic Fusion 42mm Elements special edition นับเป็นอีกหนึ่งหลักไมล์สำคัญภายในประวัติศาสตร์ที่มีร่วมกันของเรา และผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับผลงานเรือนเวลาเหล่านี้ที่จะได้ประดับและสวมใส่อยู่บนข้อมือของชาว Hublotistas อันเข้มแข็งของเราในภูมิภาคนี้” – Michael Tay (ไมเคิล เทย์)

นาฬิกา Classic Fusion 42mm Elements special edition for The Hour Glass พร้อมจำหน่ายในราคา 700,000 บาทหรือ 811,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละเวอร์ชันหน้าปัด (ตามรายละเอียดทางด้านล่าง) และมีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่บูติกแห่งต่าง ๆ ของ The Hour Glass ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และบูติก PMT The Hour Glass ในประเทศไทย

The Hour Glass ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเอ็กซ์คลูซีฟของ Hublot ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้